“สุนันทา บวบมี”

“อรรถพันธ์ นิธิธีรโชติ”

เรื่อง/ภาพ

อาชีพดารานักแสดง เป็นบุคคลสาธารณะย่อมต้องมีคนอยากรับรู้เรื่องราวความเคลื่อนไหวในแต่ละวัน ยิ่งดาราระดับพระเอก นางเอกแถวหน้าของวงการ ยิ่งไม่ต่างกับการมีไฟสปอตไลต์ส่องจับจ้องอยู่ตลอดเวลา หลายครั้งต้องรับมือกับอาการคลั่งดาราของเหล่าแฟนคลับ ที่แสดงออกมาในรูปแบบแปลกๆ โดยเฉพาะกับบรรดาดาราสาวๆ

หากไม่แสดงออกจนเกินงามจนถึงขั้นละเมิดความเป็นส่วนตัว ก็ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แต่หากมากเกินไปจนถึงขั้นแสดงพฤติกรรมข่มขู่คุกคามเป็นใครก็คงทนไม่ไหว ที่พึ่งสุดท้ายหนีไม่พ้นต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาช่วย

เช่นกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นกับนางเอกสาว “มิ้นต์ ชาลิดา” ที่ถูกหนุ่มที่คลั่งไคล้ตามรังควานด้วยการส่งข้อความมาในโทรศัพท์มือถือ แต่หลังจากดาราสาวไม่สนใจก็เพิ่มดีกรีการเรียกร้องความสนใจที่ร้อนแรงขึ้น จนถึงขั้นบุกไปก่อกวนถึงหน้าบ้านจนเป็นคดีขึ้นโรงพัก

เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 ก.ย. พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผบก.น.1 พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.เขมรินทร์ พิศมัย รอง ผกก.สส.สน.ห้วยขวาง ร่วมแถลงผลการจับกุม นายราเชนทร์ ประสมศรี อายุ 40 ปี

นายราเชนทร์ถูกจับตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ 617/2560 ลงวันที่ 6 ก.ย.2560 ข้อหาบุกรุกและทำให้ผู้อื่นกลัว โดยการขู่เข็ญ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่นปากซอยประชาอุทิศ 16 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อช่วงเย็นวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.วัชรพงศ์กล่าวว่า สืบเนื่องจาก นางรัชนก วิจิตรวงศ์ทอง มารดาของ มิ้นต์-ชาลิดา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ว่า ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความมาพูดคุยเชิงชู้สาวที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ เอาไว้ใช้ติดต่อรับงานให้กับลูกสาว ต่อมาภายหลังเริ่มส่งข้อความมารบกวนบ่อยขึ้น ทำให้ทนไม่ไหว จึงส่งข้อความกลับไปให้ เจ้าตัวเลิกส่งข้อความมารบกวนอีก

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องขึ้น เมื่อมีผู้ไม่หวังดีนำแม่กุญแจไปล็อกประตูรั้วบ้านเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเปิดได้ พร้อมทั้งมีข้อความจากผู้ใช้โทรศัพท์รายเดิมส่งมาระบุว่า เป็นคนล็อกกุญแจไว้เอง อีกทั้งยังข่มขู่ด้วยว่า “ถ้ายังไม่เลิกตามมาวุ่นวายกับกูอีก คืนนี้มึงเจอหนักกว่าการล็อกประตูหน้าบ้านแน่ บอกชาลิดามันด้วยว่าอย่ามาวุ่นวาย” จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบจนพบว่า เบอร์โทรศัพท์มือถือของคนที่ส่งข้อความมาเป็นเบอร์ของนายราเชนทร์ อีกทั้งยังไปผูกกับเฟซบุ๊ก ชื่อ “Rachain Prasomsri” ซึ่งเป็นของนายราเชนทร์

ตำรวจนำภาพจากเฟซบุ๊กมาเปรียบเทียบกับภาพจากวงจรปิดที่หน้าบ้านดาราสาวก็พบว่าน่าจะเป็นคนเดียวกัน ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ กระทั่งสืบทราบว่านายราเชนทร์มักมาที่ร้านสะดวกซื้อ ปากซอยประชาอุทิศ 16 เป็นประจำ จึงไปดักรอจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้

ขณะที่พ.ต.อ.กัมพลเผยว่าจากการสอบสวน นายราเชนทร์ชื่นชอบ มิ้นต์-ชาลิดา เป็นอย่างมาก จึงพยายามค้นหาเบอร์โทรศัพท์จาก อินสตาแกรม แต่เป็นเบอร์ที่นางรัชนก เอาไว้ใช้ติดต่องานแสดงแต่คิดว่าเบอร์ดังกล่าวเป็นเบอร์ส่วนตัวของ มิ้นต์-ชาลิดา เลยพยายามส่งข้อความในลักษณะเชิงชู้สาวมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีการแวะเวียนซื้อกาแฟจากร้านสะดวกซื้อมาแขวนไว้หน้าบ้านเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยได้รับความสนใจจากดาราสาว

อีกทั้งเมื่อถูกส่งข้อความกลับมาในลักษณะตัดเยื่อใย ทำให้ไม่พอใจเลยนำกุญแจมาล็อกหน้าบ้าน โดยบอกว่าอยากจับขังนางเอกสาวเอาไว้ในใจ ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า เคยถูกจับกุมคดีเสพยาเสพติด ในท้องที่ จ.สกลนคร เมื่อปี”56 โดยก่อนหน้าพบว่า ผู้ต้องหาตกงานก่อนจะออกจากบ้านที่จ.พระนครศรีอยุธยา โดยขอเงินแม่ติดตัวมา 2 หมื่นบาท เมื่อต้นปีที่ผ่านมาและอาศัยไม่เป็นหลักแหล่งเร่ร่อนไปเรื่อยๆ และชื่นชอบดาราคนดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวส่งศาลแขวงพระนครเหนือเพื่อฝากขังต่อไป

ทั้งนี้ หลังแถลงข่าว มิ้นต์-ชาลิดา ได้ส่ง ตัวแทนนำช่อดอกกุหลาบสีขาว พร้อมเขียนข้อความระบุว่า “ขอขอบพระคุณ สน. ห้วยขวาง ด้วยนะคะ” มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการขอบคุณที่จับคนร้ายได้

เล่นออกอาการซะขนาดนี้ เป็นใครก็ผวาเป็นธรรมดา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน