อดิศร จิตตเสวี

พิรยุทธ นิ่มนนท์

เรื่อง/ภาพ

ชีวิตคนเราไม่มีอะไรที่จะได้ดังใจไปหมด หลายสิ่งหลายอย่างเราเลือกได้ แต่บางอย่างก็เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเลือกได้

“เพื่อนบ้าน” ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราเลือกไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเช่าห้องอยู่ด้วยแล้ว ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะเจอะเจอกับคนประเภท ไหน เรียกว่าต้องวัดดวงกันไป หากได้ดีก็อยู่กัน ด้วยความสงบสุข แต่หากไปเจอพวกเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ จนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันล่ะก็ แทบอยากย้ายบ้านหนีวันละ 3 เวลา

ที่หนักข้อถึงขั้นทะเลาะวิวาทกันรุนแรง จนลุกลามบานปลายถึงฆ่ากันตาย ก็มีให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หน้าบ้านเลขที่ 35/160 หมู่บ้านมณีมาศ ซอยคู้บอน 28 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร เมื่อเที่ยงวันที่ 8 ก.ย. ก็เป็นอีกเหตุการณ์ร้ายที่มีต้นเหตุจากความไม่ลงรอยกันระหว่างเพื่อนบ้าน

ช่วงเวลาดังกล่าว ร.ต.อ.ธนศักดิ์ พ้องเสียง รองสารวัตร (สอบสวน) สน.คันนายาว รับแจ้ง มีเหตุทะเลาะวิวาทกันก่อนจะใช้อาวุธมีดแทงกัน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าบ้านเลขที่ดังกล่าวข้างต้น หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยพ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.คันนายาว

บริเวณถนนปูนหน้าบ้านดังกล่าว ตำรวจพบผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลังคือ นายสมชาย กลิ่นกล่อม อายุ 47 ปี เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย สังกัดบริษัทธรรมนัสการ์ด ที่หมู่บ้านปัฐวิกรณ์ นอนเสียชีวิตที่กลางถนน

สภาพศพชุ่มโชกไปด้วยเลือดสีแดงสด ซึ่งไหลทะลักจากบาดแผลอาวุธมีดฟัน-แทงเข้าที่ตามลำตัว ในที่เกิดเหตุยังพบมีดยาว 1 ฟุต เปื้อนเลือดตกอยู่ ใกล้กันพบกระเป๋าเป้ โดยข้าวของภายในกระเป๋า เช่น ไฟฉาย กระเป๋าสตางค์ วิทยุสื่อสาร ถูกเทออกมา เกลื่อนกลาด ไม้เบสบอลเปื้อนเลือด เหล็กแป๊บและไม้หน้า 3 ตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกันทราบว่ามีผู้บาดเจ็บถูกแทงด้วยอาวุธมีดถูก นำส่ง ร.พ.นพรัตน์ ประกอบด้วย น.ส.มณฑา เงินวัฒนาสุข 48 ปี นายสุชาติ อุตรา 50 ปี และนายสุรสีห์ อุตรา 24 ปี ลูกชายของนายสุชาติ และน.ส.มณฑา

พ.ต.อ.สิงห์เผยว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมชายผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ อยู่บ้านใกล้กัน โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา น้องชายผู้เสียชีวิต ชื่อนายหนุ่ม อายุ 37 ปี มีอาการป่วย ได้ก่อไฟต้มมาม่ากินที่หน้าบ้าน จนกลิ่นควันไฟลอยไปเข้าบ้านของคู่กรณี จนมีปากเสียงกันกับกลุ่มผู้บาดเจ็บ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ไกล่เกลี่ย เพราะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายมักมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนกระทั่งวันนี้นายสมชายผู้ตายกลับมาจากทำงาน เมื่อมาถึงหน้าบ้านได้เกิดมีปากเสียงกันกับกลุ่ม ผู้บาดเจ็บ เกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้นอีก จนเกิดทำร้ายร่างกายกัน

จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดเห็นกลุ่มผู้บาดเจ็บได้ใช้ไม้และมีดเข้ารุมทำร้าย จนนายสมชายล้มลง ก่อนจะโดนกระหน่ำตี และโดนมีดฟันกระทั่งเสียชีวิต เบื้องต้นสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปเฝ้าที่ ร.พ.นพรัตน์ พร้อมทั้งอายัดตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมด และรอทำการสอบสวน ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา

ช่วงค่ำวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสามารถควบคุมตัว น.ส.ศศินา สาตรพันธ์ อายุ 20 ปี ภรรยานายสุรสีห์ ที่หลังเกิดเหตุหายตัวไป โดยจับกุมได้ที่หน้าห้องฉุกเฉิน ร.พ.นพรัตนราชธานี ขณะมาเยี่ยมดูอาการสามี

โดยจากการสอบปากคำ น.ส.ศศินาทราบว่า บ้านทั้งสองหลังปลูกติดกันและสองฝ่ายมีปัญหากระทบกระทั่งกันมาโดยตลอด ส่วนปมปัญหาที่เกิดเหตุร้ายขึ้นก็เป็นไปตามที่เจ้าหน้าที่ สอบสวนมา คือเมื่อวานนี้น้องของผู้ตาย คือ นายหนุ่ม อายุ 37-38 ปี มีอาการป่วยทางจิตต้องกินยารักษาตลอด ใช้เตาถ่านจุดไฟเพื่อต้มมาม่ากินแต่ควันไฟได้ลอยเข้าไปในบ้านจนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน สุดท้ายต้องมา ไกล่เกลี่ยที่ สน.คันนายาว ซึ่งร้อยเวรได้ลงบันทึกประจำวันไปเป็นที่เรียบร้อย ก่อนมาเกิดเหตุสลดในวันนี้

เบื้องต้นน.ส.มณฑา เงินวัฒนาสุข อายุ 48 ปี และน.ส.ศศินา สาตรพันธ์ อายุ 20 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น” ก่อนนำตัวส่งฝากขังศาลจังหวัดมีนบุรี

ส่วนนายสุชาติ อุตรา อายุ 50 ปี และ นายสุรสีห์ อุตรา อายุ 24 ปี 2 พ่อลูกยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ อยู่ระหว่างการรักษาตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาล และอายัดตัวดำเนินคดีต่อไป

คนอยู่บ้านใกล้เรือนเคียง ไม่ใช่ญาติ ก็เหมือนญาติ หนักนิดเบาหน่อย หยวนๆ กันไป จะได้อยู่กันอย่างมีความสุข

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน