คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนนาทีสาววิ่งราวทอง – เพราะความจนมันน่ากลัว ทำให้หลายคนที่กำลังประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ ต้องตกงานจากจากพิษของโควิด ตัดสินใจทำผิดกฎหมาย

ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี นำโดย พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.สภ.พระพุทธบาท แถลงผลการจับกุมน.ส.กัญญพัสร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี

ก่อนคุมตัวไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้างทองเพชรมังกร ตั้งอยู่เลขที่ 138/79 ม.7 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

หลังจากเมื่อวานนี้เจ้าตัวถูกจับขณะลงมือก่อเหตุวิ่งราวสร้อยทอง 3 เส้น น้ำหนัก 15 บาท รวมมูลค่า 434,250 บาท จากร้านทองดังกล่าว

ผกก.สภ.พระพุทธบาท เปิดเผยที่มาที่ไปของคดีดังกล่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 17.20 น. วันที่ 7 ต.ค. น.ส.กัญญพัสร ผู้ต้องหา ทำทีเข้ามาติดต่อขอซื้อสร้อยคอทองคำ ที่ห้างทองเพชรมังกรดังกล่าวจำนวน 3 เส้น น้ำหนักเส้นละ 5 บาท ทางร้านจึงหยิบออกมาให้เลือกดู แต่ในขณะที่พนักงานของร้านทองหันหลัง น.ส.กัญญพัสรฉวยโอกาสหยิบสร้อยคอทองคำ จำนวน 3 เส้น วิ่งหลบหนีออกจากร้านไปที่ตลาดฝั่งตรงข้าม

จากนั้นพนักงานของร้านทองได้วิ่งติดตามไปพร้อมร้องตะโกนให้คนช่วย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.พระพุทธบาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร ตามแผนการป้องกันเหตุธนาคารร้านทอง อยู่บริเวณใกล้เคียง พบเห็นจึงได้วิ่งติดตามและร่วมกับพลเมืองดีสามารถควบคุมตัวไว้ได้ทันควัน ตรวจค้นในตัวพบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 3 เส้น รวมมูลค่า 434,250 บาท ครบตามจำนวน ขณะที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีบ้านอยู่ใกล้กับร้านทอง และที่ตัดสินใจก่อเหตุเพราะตกงานทำให้ไม่มีเงินเช่าบ้าน จึงตัดสินใจก่อเหตุ

“ที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ในทันที ซึ่งเป็นไปตามแผนการป้องกันเหตุธนาคารร้านทอง พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้พี่น้องประชาชนทราบ โดยการกระทำของคนร้ายถือเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 336 ฐานวิ่งราวทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ” ผกก.สภ.พระพุทธบาทกล่าว

นางสาวนิภาลัย ขันลำเจียก พนักงานขาย เล่าเหตุการณ์ว่า ในวันเกิดเหตุมีลูกค้าเป็นหญิงรูปร่างเล็กเดินเข้ามาในร้านแล้วแจ้งความประสงค์ว่าจะขอดูทองเส้นละ 5 บาทแบบผู้ชายใส่ ตนก็หันไปหยิบทองเส้นเส้นละ 5 บาทจำนวน 4 เส้นให้ดู ปรากฏว่าลูกค้าบอกว่าไม่ชอบ ตนเลยหันหลังเพื่อจะเอาทองจำนวน 1 เส้นไปแขวน แต่พอหันกลับมาปรากฏว่าลูกค้าเอามือรวบทอง 5 บาทจำนวน 3 เส้น แล้วหันหลังวิ่งหนีออกไปหน้าร้านดื้อๆ

“ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก ตอนหันหลังกลับมามองไปที่ถาดที่ใส่ทอง ไม่มีสร้อยคอทองคำอยู่สักเส้น ก็เลยตะโกนบอกเพื่อนว่ามีคนร้ายแล้วเพื่อนในร้านก็วิ่งออกไปตามกัน คนร้ายฉวยโอกาสวิ่งหนีไปที่บริเวณในตลาดจอมพล ป. เราก็ให้เพื่อนพนักงานแยกย้ายวิ่งกันไปดักเพราะตลาดแห่งนี้มีซอกซอยแยะ ผ่านไปประมาณ 10-15 นาทีก็เจอตัว พอดีมีรถสายตรวจของ สภ.พระพุทธบาทผ่านมา เลยจับกุมได้พอดี” นางสาวนิภาลัยเล่านาทีระทึก

ส่วนทางด้านนางอลิษา เฉลิมวณิชย์กุล เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า ทางร้านเปิดทำการมากว่า 4 ปี และไม่เคยมีเหตุการณ์การชิงทรัพย์ทองในร้านมาก่อน ดังนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิด สำหรับร้านเราระวังอยู่แล้วในอันดับ 30-40 เปอร์เซ็นต์ เริ่มจากการสังเกตลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซื้อทอง เช่น ลูกค้าเข้ามามีระบบความปลอดภัยอย่างเช่น การล็อกประตู ก็ต้องล็อกทุกครั้งที่ลูกค้าเข้ามา

นอกจากนั้นยังสั่งให้พนักงานภายในร้านคอยเช็กและสังเกตลูกค้า อย่างเช่นลูกค้าขอดูสร้อยคอทองคำในจำนวนที่เยอะ ก็ต้องลดปริมาณลง อย่างเช่น เคยให้ดู 5 เส้นก็ลดปริมาณเป็น 2-3 เส้น หรือการที่ลูกค้าเข้ามาสวมใส่ผ้าปิดหน้าก็ขออนุญาตเปิดหน้าเวลาที่ดูสร้อยทอง นอกจากนี้ถ้าสวมใส่หมวกและแว่นก็ต้องขออนุญาตให้เค้าถอดตอนมาใช้บริการ ถึงลูกค้าจะไม่ได้รับความสะดวกหรือไม่พอใจบ้าง แต่เป็นการเซฟร้านตัวเองก็จำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันเอาไว้

เสรี สุพรรณ์นอก
ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน