ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้
ทัวร์กฐินดับสลด19ศพ
เปิดสถิติ-เช็กจุดลักผ่าน
‘ศักดิ์สยาม’ระดมไม้กั้น

ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้ – เป็นอุบัติเหตุซ้ำ ซากที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

สำหรับกรณีรถไฟชนรถยนต์ที่ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ซึ่งปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือการไม่มีระบบป้องกันหรือทางกั้นรางรถไฟ ส่งผลให้คนที่ไม่คุ้นชินเส้นทางอาจไม่เข้าใจและเกิดอุบัติเหตุ

เหมือนที่เกิดขึ้นที่จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อหนุ่มสาวโรงงานกว่า 70 ชีวิต รวมตัวกันไปทอดกฐินเนื่องในเทศกาลออกพรรษา

เป็นการทำบุญในฐานะพุทธมามกะที่ดี

ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้

เชิญวิญญาณ

แต่ระยะทางที่อยู่ห่างจากวัดจุดหมายเพียง 3 กิโลเมตร เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อโชเฟอร์รถทัวร์ขับรถเลี้ยวข้ามทางแยกจุดตัดทางรถไฟ

โดยไม่ได้เฉลียวใจเลยว่าเป็นจังหวะเวลาที่รถไฟขนส่งสินค้ากำลังวิ่งผ่านจนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 19 ราย

กลายเป็นคำถามว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้นซ้ำซาก พอเกิดเหตุก็ล้อมคอกสั่งการโน่นนี่

ไม่แก้ไขให้เป็นรูปธรรมยั่งยืนเสียที

ม้าเหล็กขยี้ทัวร์กฐินดับ 19

เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค. พนักงานบริษัท เพอร์เฟคอินเตอร์โฟรดักส์ จำกัด ผลิตขวดพลาสติก จำนวน 57 คน เดินทางจากโรงงานที่จ.สมุทรปราการ มุ่งหน้าไปยังจ.ฉะเชิงเทรา เพื่อทอดกฐินที่วัดบางปลานัก ต.หนามแดง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

แต่ขณะที่กำลังจะใกล้ถึงวัดเหลือระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อโชเฟอร์รถบัสเลี้ยวขวาเพื่อข้ามทางแยกจุดตัดทางรถไฟ โดยไม่เห็นว่ามีรถไฟขบวนขนส่งสินค้าวิ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว

ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้

ชนวินาศ

โศกนาฏกรรมจึงเกิดขึ้นทันที!??

โดยเมื่อเวลา 08.30 น. ร.ต.ท.ศุภวัฒน์ มนัสชัย รองสว.สอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถบัสรับจ้างไม่ประจำทาง เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและ บาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดที่สถานีรถไฟคลองแขวงกลั่น หมู่ 7 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบรถบัสสีเขียว-ขาว ยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ถูกชนด้านหน้าพังยับเยิน พลิกคว่ำอยู่ข้างทางรถไฟทำให้รางรถไฟเสียหาย 1 ราง

ส่วนรถคู่กรณีเป็นขบวนรถสินค้าที่ 852 แหลมฉบัง-ไอซีดี ลาดกระบัง บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 30 กว่าตู้ จอดห่างไปประมาณ 500 เมตร ภายในที่เกิดเหตุพบศพเป็นชาย-หญิงรวมทั้งหมด 18 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 30 คน

รถกู้ชีพ ร.พ.พุทธโสธร และรถหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรารีบนำผู้บาดเจ็บส่ง ร.พ.พุทธโสธรและโรงพยาบาลบ้านโพธิ์

ส่วนคนขับรถบัสคันเกิดเหตุทราบชื่อนายบุญส่ง สวนยิ้ม อายุ 54 ปี ถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตติดอยู่ที่นั่งคนขับ

ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้

อุบัติเหตุสลด

สอบสวนทราบว่ารถบัสคันดังกล่าวรับผู้โดยสารมาจากจังหวัดสมุทรปราการเพื่อจะไปทอดกฐิน ที่วัดบางปลานัก ต.หนามแดง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนตัดรางรถไฟ คนขับไม่ชำนาญเส้นทาง โดยมีเพียงไฟกะพริบ ไม่มีไม้กั้น ขณะที่ภายในรถก็เปิดเพลงเสียงดัง แม้ขบวนรถไฟได้เปิดหวูดเตือน ทำให้คนขับรถบัสไม่ได้ยินเสียง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุเลยเลี้ยวรถตัดหน้ารถไฟอย่างกระชั้นชิด

ทำให้ถูกชนอย่างแรงจนรถบัสกระเด็นพลิกคว่ำอยู่ข้างทางรถไฟ

ต่อมามีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือนายสุปัญญา สีลารัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.10 ต.ศรีแก้ว อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ที่ญาติขอรับตัว ย้ายออกจากโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่ ร.พ.จุฬาฯ กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 23.00 น.

รวมความสูญเสียครั้งนี้แล้วถึง 19 ศพ

ย้อนคดีรถไฟชนที่เชียงใหม่

ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้

จาตุรนต์มอบโลงศพ

ขณะที่เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเศร้าสลดให้กับญาติผู้เสียชีวิต และเดินทางมาประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาตามความเชื่อท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าโศก

นายภานุเดช พาไธสง อาของ น.ส.รำไพ พานุเดช หนึ่งในผู้เสียชีวิต ที่ปล่อยโฮร้องไห้เมื่อมาเห็นจุดเกิดเหตุ เผยว่า มีความผูกพันกับหลานสาว เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่ตัวยังเล็กๆ จนตอนนี้อายุ 33 ปี หลานสาวเป็นคนชอบทำบุญมาโดยตลอด

วันเกิดเหตุไม่ได้มีลางบอกเหตุ โดยวัดที่จะเดินทางมาทำบุญที่ วัดบางปลานัก ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งหลานสาวเคารพนับถือ และเป็นครั้งแรกที่มาวัดนี้แต่ก็เกิดอุบัติเหตุ ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้เพราะ น.ส.รำไพยังมีลูกสาวคนเล็กทำให้ต้องกำพร้าแม่

ทั้งนี้จากสถิติอุบัติเหตุทางรถไฟพบว่าในช่วงปีงบประมาณ 2558-2562 มีอุบัติเหตุบริเวณจุดตัด 383 ครั้ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 371 ราย และผู้เสียชีวิต 138 ราย หรือเฉลี่ยในแต่ละปีมีเกิดอุบัติเหตุจุดตัดเสมอระดับ ปีละประมาณ 77 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 74 ราย มีผู้เสียชีวิต 28 ราย

ขณะที่อุบัติเหตุที่ถือเป็นความสูญเสียร้ายแรงเช่นกัน อย่างเช่นเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 58 พนักงานสอบสวนสภ.สารภี จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถยนต์กระบะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณทางตัดรถไฟ หลังโรงพยาบาลสารภี บ้านปากกอง หมู่ 3 ต.สารภี อ.สารภี จ.เชียงใหม่

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ผย 7404 เชียงใหม่ สภาพพังยับเยินทั้งคัน พบผู้เสียชีวิตภายในตัวรถ 2 ศพ กระจัดกระจายอีก 5 ศพ และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 รายนำตัวส่งโรงพยาบาลสารภี รักษาอย่างเร่งด่วน

ย้อนนาทีสลดรถไฟขยี้

ศพผู้เสียชีวิต

จากการสอบสวนทราบว่ารถคันเกิดเหตุบรรทุกคนงานกลับที่พัก ก่อนเกิดเหตุมีพายุฝนตกหนักทำให้ไม่เห็นทางข้ามทางรถไฟ ทำให้รถไฟด่วนพิเศษนครพิงค์เชียงใหม่มุ่งหน้ากรุงเทพฯ พุ่งชนและลากรถกระบะไปตามรางกว่า 200 เมตร ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

ซึ่งจุดดังกล่าวไม่มีไม้กั้นเช่นกัน จนถูกเรียกร้องให้แก้ไข ซึ่งก็เกิดการปรับปรุงในระดับหนึ่ง

ศักดิ์สยามสั่งติดไม้กั้นทางรฟ.

จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ปัจจุบันมีจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศ 2,684 แห่ง แบ่งออกเป็นทางข้าม 192 จุด ทางลอด 214 จุด และทางเสมอระดับ (ระดับดิน) 2,278 จุด เมื่อพิจารณาเฉพาะทางเสมอระดับ พบว่าได้รับอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายรถไฟ 1,675 จุด คิดเป็นร้อยละ 61.73 ส่วนที่เหลืออีก 621 จุด เป็นทางลักผ่านที่ไม่ถูกต้อง คิดเป็นร้อยละ 23.14

โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งการให้รถไฟสำรวจจุดตัด ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศซึ่งดูแลรับผิดชอบถนนในท้องถิ่น เพื่อพิจารณาดูว่าควรจะปิดหรือเปิดจุดตัดตรงจุดไหนบ้างจึงจะทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

หากจุดไหนคิดว่าจำเป็นต้องมี ก็อาจจะต้องติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยให้ครบถ้วน หากตรงไหนมีความเสี่ยงเห็นว่าควรปิดทาง ก็ต้องดำเนินการปิดจุดตัด

โดยกระทรวงคมนาคมจะนำเงินจากกองทุนเพื่อความปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ของกรมการขนส่งทางบก มาใช้ในการติดตั้งและจัดหาอุปกรณ์ความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟ หากงบมีไม่เพียงพอจะเสนอขอใช้งบกลางจากรัฐบาล เพราะต้องเร่งแก้ไขเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน

ขณะที่เรื่องของคดีความ กรมการขนส่งทางบกเผยว่าตรวจสอบผู้ประกอบการรถทัวร์กฐิน เบื้องต้นพบฐานความผิดดังนี้ 1.บรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่ง ตามมาตรา 32 (3), 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท 2.ใช้รถขนส่งโดยไม่ชำระภาษีประจำปีให้ครบถ้วนถูกต้องตามมาตรา 71 (2), 148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท

3.ผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 36, 131 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท ดำเนินการเรียกตัวผู้ประกอบการมาสอบสวนพิจารณาลงโทษต่อไป

เตรียมเอาผิดผู้ประกอบการต่อไป

ขณะที่คดีความผู้ขับขี่รถบัสเสียชีวิตไปแล้วในทางคดีความอาญาคงสิ้นสุดลง แต่ทางแพ่งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังคงเรียกร้องจากบริษัทรถบัสคันดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม เงินที่ผู้เสียชีวิตจะได้รับจะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือเงินจากประกันสังคมจะได้ค่าปลงศพ 80,000 บาท และค่ารักษาตามสิทธิประกันสังคม ส่วนที่ 2 คือประกันภัยจากรถบัสที่มีประกันภัยอยู่คือประกันภัยคุ้มภัยผู้ประสบภัยจากรถ และประกันภัยประเภทสมัครใจ คุ้มครองประเภท 3

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สั่งการให้นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ลงพื้นที่ดูแลผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมสำรวจจุดเกิดเหตุพบว่าบริเวณจุดเกิดอุบัติเหตุเป็นทางลักผ่านหรือทางที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก รฟท. แต่ติดตั้งสัญญาณไฟเตือนไว้

เบื้องต้นได้สั่งการให้ รฟท.ลงสำรวจความปลอดภัยบริเวณจุดตัดทางรถไฟทั่วประเทศว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ หากมีความเสี่ยงให้เร่งดำเนินการไขปัญหาโดยด่วน

ล้อมคอกกันต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน