สดจากสนามข่าว
กัมปนาท ขันตระกูล
ชยพล ปัญญาวิศิษฎ์กุล เรื่อง/ภาพ
ความสำคัญของการใช้ชีวิตคู่คือการช่วยกันทำมาหากิน เก็บหอมรอมริบเพื่อสร้างอนาคต หากแต่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สนใจช่วย แถมยังทำตัวเป็นตัวถ่วงความเจริญ สุดท้ายแล้ววันหนึ่งชีวิตคู่ก็ต้องสิ้นสุดลง ขึ้นอยู่กับว่าจะจากเป็นหรือจากตายก็เท่านั้น
น.ส.ชุติมา ถูกนำส่งร.พ.ก่อนดับ
ย้อนไปเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ร.ต.อ.สมาน จันทร์ศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทง เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่หมู่ 6 บ้านเขาลูกช้าง ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วินัย ปริย เลิศพงศ์ รองผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าไม้รวก แพทย์เวร ร.พ.ท่ายาง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานฯ
บ้านที่เกิดเหตุฆ่า น.ส.สมบูรณ์
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในบ้านบริเวณใกล้ประตูทางออกหลังบ้านพบศพ น.ส.สมบูรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่พื้นบ้าน มีบาดแผลถูกแทงที่กลางหน้าอก 1 แผล ใกล้กันในห้องครัวพบมีดปลายแหลมยาวประมาณ 25 เซนติเมตร เปื้อนเลือดตกอยู่ โดยมีนายชัยรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี สามีผู้ตาย นั่งอยู่ที่เปลหลังบ้าน สารภาพว่าเป็นผู้ลงมือแทงภรรยาเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้
พฐ.เก็บหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุ นายชัยรัตน์เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย เนื่องจากผู้ตายดุว่านายชัยรัตน์ไม่ยอมทำงาน ทั้งคู่โต้เถียงกัน สุดท้ายด้วยความโมโหนาย ชัยรัตน์ใช้มีดแทงไปที่หน้าอกคนตาย 1 ครั้ง จนผู้ตายล้มลง ลูกสาว อายุ 6 ขวบ ที่อยู่ ที่เกิดเหตุและเห็นเหตุการณ์รีบวิ่งมาบอกญาติว่าพ่อแทงแม่ ก่อนญาติจะรีบมาดู ส่วนนายชัยรัตน์หลบไปนั่งรอมอบตัวอยู่ที่บริเวณใกล้เคียง จากนั้นตำรวจจึงคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 16 ต.ค. ร.ต.อ. ธนวรรษ กันทเสน ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเหตุมีคนใช้อาวุธมีดแทงกันบาดเจ็บสาหัสที่บ้านเช่าหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลระยอง หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าห้องเช่าพบผู้บาดเจ็บสาหัสชื่อ น.ส.ชุติมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี สภาพถูกแทงที่บริเวณอกด้านซ้าย 2 แผล นอนหายใจรวยริน ใกล้กันพบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลระยอง แต่คมมีดถูกเข้าบริเวณอวัยวะสำคัญ สุดท้าย น.ส.ชุติมาจึงเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล
ตรวจที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.ชุติมาประกอบอาชีพเป็นพนักงานขายนาฬิกาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ส่วนมือมีดคือ นายสุทธิภัทร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นสามี ทำงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
แต่ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบหลักฐาน ปรากฏว่านายสุทธิภัทรได้ขับรถกระบะกลับมาที่เกิดเหตุ จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม โดยพบว่ามีอาการมึนเมาสุรา เอาแต่ร้องคร่ำครวญว่า “ผมผิดเอง ผมกินเหล้าเมาเอง”
นายสุทธิภัทร ผัวโหดเป็นลม
หลังตำรวจคุมตัวมาสอบสวน นายสุทธิภัทรให้การเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุตนทะเลาะกับภรรยา เพราะไปดื่มสุรากับเพื่อน กระทั่งภรรยาส่งข้อความให้มาเก็บเสื้อผ้าและไล่ออกจากบ้าน ตนจึงขับรถมาพร้อมเพื่อน แล้วลงไปหิ้วกระเป๋าที่หน้าบ้าน เป็นจังหวะที่ภรรยาเปิดประตูออกมาพอดี จึงเดินเข้าไปในบ้าน ด้วยความโมโหและความเมา จึงคว้ามีดปลายแหลมจ้วงแทงไปที่หน้าอก 2 ครั้ง จนภรรยาล้มฟุบลงไป ก่อนที่ตนจะรีบวิ่งมาขึ้นรถแล้วขับหนีไป
นายสุทธิภัทรให้การเพิ่มอีกว่า พอหนีออกมาสักพักจนกระทั่งรู้สึกเป็นห่วงภรรยา จึงขับรถย้อนกลับมาดูและถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้ตนยอมรับผิดและเสียใจมาก ที่ทำไปเพราะขาดสติ
หลังสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายสุทธิภัทรไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2 คดีสยองที่แม้นจะเกิดขึ้นต่างวัน เวลา ต่างสถานที่ แต่ ก็มีมูลเหตุและบทสรุปที่เหมือนกัน
