อธิคม สิงขรณ์

เรื่อง/ภาพ

“พอเหล้าเข้าปาก นิสัยก็เปลี่ยน” หลายคนพอเมาแล้ว กลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรง ทำอะไรได้โดยไม่มีสติยั้งคิด ที่หนักสุดถึงขั้นจำความอะไรไม่ได้เลยก็มี

เช่นกรณีของ นายจักทัน สุวรรณหิตาทร อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ 6 ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี ที่ต้องเจ็บตัวและยังเข้าไปนอนอยู่ในคุกก็เป็นเหตุมาจากความเมาจนขาดสติ เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นกลางดึกคืนวันที่ 11 ก.ย. ระหว่างที่เจ้าตัวนั่งตั้งวงดื่มสุราอยู่กับพรรคพวกในพื้นที่ ต.ประณีต อ.เขาสมิง จ.ตราด แต่เกิดพูดจาผิดหูกันจึงใช้ปืนยิงใส่นายชำนาญ วิสมน อายุ 32 ปี เพื่อนร่วมวงสุราจนบาดเจ็บสาหัส ก่อนขี่รถจยย.ยามาฮ่า ฟิโน่ สีขาว ทะเบียน คจร 356 ราชบุรี หลบหนี

ร.ต.อ.พิษณุ นุพาณิชย์ รองสวป. สภ.ขลุง จ.จันทบุรี ได้รับการประสานจาก สภ.เขาสมิง อ.เขาสมิง จ.ตราด ให้ติดตามจับกุมตัวนาย จักทัน ที่คาดว่าจะหลบหนีกลับมาที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ขลุง หลังรับแจ้งรูปพรรณสัณฐาน พร้อมทั้งทราบว่านายจักทันเช่าบ้านอยู่ที่บริเวณห้องแถวเลขที่ 5/4 ม.1 ต.วันยาว อ.ขลุง จึงนำกำลังไปยังบ้านหลังดังกล่าว

หลังสอบถามจนมั่นใจว่านายจักทันกลับเข้ามาในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางกำลังปิดล้อม ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก่อนตะโกนเรียกให้นายจักทันยอมออกมามอบตัว

ขณะที่นายจักทันนั้น หลังก่อเหตุแล้วขี่รถจยย.กลับมาถึงห้องด้วยความเมาและอ่อนเพลียก็ผล็อยหลับไป ก่อนจะมาตกใจตื่นเนื่องจากได้ยินคนตะโกนเรียกชื่อ ด้วยเกรงว่าจะมีคนตามมาทำร้าย จึงเดินออกมาจากห้องพร้อมอาวุธปืนลูกโม่ .38 ไว้เตรียมพร้อม

เห็นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนอยู่หน้าบ้าน เจ้าตัวถึงกับตาเหลือก รีบวิ่งหลบหนีออกไปทางประตูหลัง แต่ก็พบกับร.ต.อ.พิษณุกับกำลังที่ซุ่มดักรออยู่ จึงกราดกระสุนยิงใส่เพื่อฝ่าวงล้อม กระสุนจากปืน .38 พุ่งเข้าใส่ร่างร.ต.อ.พิษณุที่แขนก่อนจะทะลุผ่านไป แต่อีกนัดหนึ่งเจาะเข้าไปตุงอยู่ที่ท้ายทอย

แม้นจะถูกยิงก่อน แต่ผู้กองกระดูกเหล็กกัดฟันยิงสวนกลับไป กระสุนถูกนายจักทันเข้าที่โคนขาซ้ายอย่างจัง เจ้าตัวพยายามวิ่งหนีย้อนมาทางหน้าบ้าน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด ถูกจับกุมตัวได้

พลันที่เหตุการณ์สงบเจ้าหน้าที่รีบแจ้งหน่วยกู้ชีพขลุงมูลนิธิ รีบนำร่างโชกเลือดของทั้งคนร้ายและตำรวจส่งโรงพยาบาลขลุงเพื่อช่วยชีวิตอย่างเร่งด่วน โดยนายจักทันนั้นยังไม่สร่างเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง อ้างว่าเมาหนักจนจำไม่ได้ว่าไปก่อเหตุอะไรมาบ้าง

ต่อมา พล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จ.จันทบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสุทธิ์ สังฆวัตร รองผกก.สส.สภ.ขลุง พ.ต.ท.สราวุธ บุญชัย สวป. ร.ต.อ.วรชัย แจ่มศรี รองสว.สส. นำตำรวจวิทยาการกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบปืนขนาด .38 ลูกโม่ของคนร้ายตกอยู่ 1 กระบอก

ภายในห้องนอนพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก อุปกรณ์เสพยาบ้าจำนวน 2 ชุด พร้อมตรวจสอบรถยนต์เก๋งฮอนด้า สีดำ ทะเบียน ชร 1106 กรุงเทพ มหานคร ซึ่งเป็นของนายจักทัน ภายในมีทั้งเสื้อผ้า พัดลมไอน้ำ เครื่องเชื่อม พร้อมสิ่งของอีกจำนวนหนึ่ง คาดว่าเจ้าตัวขนข้าวของเพื่อเตรียมหลบหนี

นอกจากนี้ ตำรวจยังควบคุมตัว น.ส.สุวิมล ทองคำ ภรรยาของนายจักทัน ที่หลบอยู่ในห้องแถวที่เกิดเหตุ มาสอบสวน น.ส.สุวิมลให้การว่าสามีซื้อปืนมาเก็บไว้โดยไม่มีทะเบียน เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะก็พบเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายจักทันมือปืน กับนายชำนาญผู้บาดเจ็บ นั่งดื่มเหล้าด้วยกันที่บ้านประณีต ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด จากนั้นเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่นายจักทันจะชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงนายชำนาญจำนวน 3 นัด เข้าที่แก้ม ที่คอ และลำตัว อาการสาหัส แล้วหนีกลับมาขนของเพื่อเตรียมหลบหนี แต่ถูกตำรวจตามมาทันก่อนจะหนี กระทั่งเกิดเหตุยิงกันจนบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายดังกล่าว

บ่ายโมงวันที่ 17 ก.ย. ภายหลังรับการรักษาจนปลอดภัย ตำรวจก็นำตัวนายจักทันที่ถูกอายัดตัวๆ ไว้ดำเนินคดีในข้อหาหนัก ทั้งพยายามฆ่าเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร รวมทั้งข้อหาพยายามฆ่าในพื้นที่ อ.เขาสมิง อีก 1 กระทง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังห้องเช่าที่เกิดเหตุ

ขณะที่อาการของผู้กองกระดูกเหล็ก ล่าสุดถูกย้ายไปรักษาที่ร.พ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี หลังแพทย์ผ่าตัดเอากระสุนที่ท้ายทอยออก ก็มีอาการดีขึ้นตามลำดับ สามารถพูดคุยสื่อสาร และกินข้าวได้ แต่ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

หวิดต้องเสียตำรวจฝีมือดีไป เพราะความห้าวไม่กลัวใครของขี้เมาคนเดียวแท้ๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน