คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ภูทับเบิกล้อมคอกรีสอร์ต – ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา สถานที่ท่องเที่ยวตามแหล่งธรรมชาติต่างคึกคักเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาสัมผัสความหนาวเย็น โดยเฉพาะรีสอร์ตที่อยู่บนพื้นที่สูง
เครื่องทำน้ำอุ่น เป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับห้องพักรีสอร์ตใน ภาคเหนือ โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊ส เนื่องจากสามารถให้ความร้อนได้สูงอย่างรวดเร็ว ประหยัดพลังงาน ในประเทศเมืองหนาวล้วนนิยมใช้มากกว่าชนิดไฟฟ้า
ตรวจหาสาเหตุ
แต่เหรียญมีสองด้านฉันใด อุปกรณ์เหล่านี้ก็มีอันตรายหากใช้งานไม่ถูกวิธี เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับรีสอร์ตใน จ.เพชรบูรณ์
เรื่องราวถูกเผยขึ้นเมื่อวันที่ 26 ต.ค. เมื่อสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ สาธารณสุขอำเภอหล่มเก่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หล่มเก่า ฝ่ายปกครอง อ.หล่มเก่า ลงพื้นที่ตรวจสอบรีสอร์ต 2 แห่ง บนภูทับเบิกกรณีมีผู้ประสบเหตุหมดสติในห้องน้ำถึง 3 ราย หลังจากเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น
นายสาริน อายุ 23 ปี เป็นผู้ดูแลรีสอร์ตและผู้ประสบเหตุ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 20 ต.ค. ตนเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำพร้อมกับเปิดเครื่องทำน้ำอุ่น ที่ใช้แก๊สหุงต้มเป็นตัวทำน้ำอุ่น แต่ไม่ได้เปิดพัดลมระบายอากาศ เมื่ออาบน้ำได้ประมาณ 5 นาที ก็รู้สึกเวียนหัว จึงสระผมเพื่อให้หาย เสร็จแล้วก็ปิดเครื่องทำ น้ำอุ่นและเตรียมที่จะเปิดประตูห้องน้ำ แต่ก็รู้สึกอ่อนแรงและวูบหมดสติไป มารู้ตัวอีกทีประมาณเที่ยงคืนก็พบว่านอนอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
สอบถามทราบว่ายายของตนเห็นเข้าห้องน้ำไปนานผิดปกติ จึงเข้ามาเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบจึงได้ไปตามญาติๆ มาพังประตูเข้าไปก็พบว่าตนนอนสลบอยู่ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ไม่มีพัดลมระบาย
นางบัว (นามสมมติ) อายุ 30 ปี เจ้าของรีสอร์ตที่เกิดเหตุจุดที่ 2 กล่าวว่า ลูกชายตนวัย 4 ขวบ และลูกสาววัย 12 ปี เข้าไปอาบน้ำโดยลุงเป็นผู้เปิดเครื่องทำน้ำอุ่นชนิดใช้แก๊สให้ เวลาผ่านไปนานพอสมควร ไม่เห็นเด็กทั้งสองคนกลับเข้าห้อง จึงได้มาตามดูที่ห้องน้ำก็พบว่าประตูปิดเมื่อส่องดูก็พบเด็กทั้งสองคนนอนหมดสติอยู่กับพื้นห้องน้ำ จึงพังประตูเข้าไปช่วยเหลือ สภาพของเด็กตัวเย็นไปทั้งตัว จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ทั้งสองคนปลอดภัย
ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่าที่วัดป่าภูทับเบิกก็เคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันขึ้นกับผู้มาพักปฏิบัติธรรม ซึ่งทางวัดได้แก้ไข้โดยการติดพัดลมดูดอากาศเรียบร้อยทุกห้องน้ำแล้ว
นายวินัย ทองชุบ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จ.พิษณุโลก นำอุปกรณ์ในการตรวจวัดก๊าซมาตรวจเพื่อหาสาเหตุโดยรีสอร์ตแรกพบว่าห้องน้ำค่อนข้างแคบ เมื่อเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นไว้และไม่เปิดพัดลมระบายอากาศปรากฏว่ามีปริมาณก๊าซโพรเพนซึ่งเป็นส่วนประกอบของก๊าซหุงต้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเปิดพัดลมระบายอากาศปรากฏว่าพบปริมาณก๊าซ โพรเพนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ส่วนรีสอร์ตแห่งที่สอง ห้องน้ำไม่มีพัดลมระบายอากาศ ปรากฏว่าปริมาณก๊าซโพรเพนได้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
เครื่องเจ้าปัญหา
จึงสรุปได้ว่าสาเหตุที่ผู้ประสบเหตุทั้ง 3 รายหมดสตินั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นระบบแก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน เครื่องทำน้ำอุ่นเผาไหม้เชื้อเพลิงไม่สมบูรณ์ ร่วมกับห้องน้ำไม่มีอากาศถ่ายเท ทําให้เกิดการสะสมของก๊าซโพรเพนที่เผาไหม้ไม่หมด เมื่อมีปริมาณมากขึ้นก็จะเข้าไปทดแทนก๊าซออกซิเจน จนทำให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นขาดออกซิเจนและหมดสติในที่สุด
วิธีการแก้ไขจะต้องมีการติดพัดลมระบายอากาศทั้งในห้องนอนและห้องน้ำ รวมทั้งจะต้องมีการจัดหาออกซิเจนกระป๋องมาจัดเตรียมไว้ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะได้นำมาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุได้ทันท่วงที
ขณะที่กรมควบคุมโรคได้แนะนำข้อควรปฏิบัติไว้ดังนี้คือ เว้นระยะเวลาการอาบน้ำต่อกันหลายคนอย่างน้อย 15-20 นาที เพื่อให้อากาศระบายออก ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินหายใจ ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ หากเป็นสถานประกอบการควรมีถังออกซิเจนขนาดเล็ก เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน
หากมีอาการผิดปกติ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลำบาก ควรรีบปิดเครื่องทำน้ำอุ่นและรีบออกจากห้องน้ำ หรือพบเห็นคนหมดสติขณะอาบน้ำ ควรเปิดประตูเพื่อระบายอากาศ นำผู้ป่วยไปยังพื้นที่โล่ง ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
การปฐมพยาบาล 1.ให้ผู้ป่วยนอนศีรษะต่ำ (ไม่ต้องหนุนหมอน ยกขาสูง) คลายเสื้อผ้าและเข็มขัดให้หลวม เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้อย่างเพียงพอ 2.อย่ามุงดูผู้ป่วย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก 3.ใช้น้ำเย็นเช็ดบริเวณใบหน้า คอ แขนขา และให้ดมยาดม จะช่วยให้รู้สึกตัวเร็วขึ้น
4.อย่าให้ผู้ป่วยกินหรือดื่มอะไรขณะที่ยังไม่ฟื้น เพราะจะทำให้สำลักเป็นอันตรายได้ 5.เมื่อผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัว ให้นอนพักต่ออีกสักครู่ อย่าเพิ่งลุกนั่งเร็วเกินไป อาจทำให้เป็นลมซ้ำอีกได้ และ 6.เมื่อผู้ป่วยฟื้นคืนสติและเริ่มกลืนได้ อาจให้ผู้ป่วยดื่มน้ำหรือน้ำหวาน
ความบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ อาจกลายเป็นต้นเหตุของเรื่องสลดได้
