ผ่าคดีรวบ‘เซียนพระเก๊’ – แม้ไม่มีใครบอกได้แน่ชัดว่า ‘พระเครื่อง’ มีต้นกำเนิดมาอย่างไร แต่ที่แน่ๆ พระเครื่องมีประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปร่วมพันปี ตั้งแต่สมัยทวารวดี

หากจะกล่าวถึงสุดยอดพระเครื่องที่คนนิยม ยกให้เป็นที่สุดของพระเครื่องทั้งหมด ย่อมไม่พ้นพระชุดเบญจภาคี อันประกอบด้วย พระสมเด็จวัดระฆัง พระรอด พระ นางพญา พระผงสุพรรณ และพระซุ้มกอ โดยเฉพาะพระสมเด็จ นับเป็นหนึ่งตลอดกาล

เฮียกุ่ย รัชดา อ่านหมายจับ

ความงดงามของพระสมเด็จ ส่วนหนึ่งมาจากฝีมือคนแกะแม่พิมพ์ในสมัยนั้น ซึ่งเล่ากันว่าเป็นเสมียนตราด้วง เป็นข้าราชบริพาร ผู้ทำแม่พิมพ์งาช้างให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ เรียกว่าเป็นระดับช่างวังหลวงเป็นผู้แกะแม่พิมพ์ถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

เมื่อความต้องการมีมากแต่พระแท้นั้นมีน้อย จึงไม่แปลกใจที่มูลค่าของพระแท้ที่ปล่อยต่อกันบางองค์จะทะยานขึ้นแตะหลักสิบล้าน ทำให้มีทั้งพระแท้ พระปลอมอยู่เกลื่อนตลาด

จับอาจารย์ยอด

ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.ต.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายสุขธรรม ปานศรี หรือ เฮียกุ่ย รัชดา อายุ 70 ปี นายธรรมยุทธ์ เจนพิชิตกุลชัย หรืออาจารย์ยอด เจ้าของศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน อายุ 60 ปี นายไตรเทพ ไกรงู อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1574-1576/2563 ลง 12 ต.ค.2563 ตามลำดับ

จับนายไตรเทพคาบ้าน

ทั้งหมดถูกจับกุมในข้อหาปลอมเอกสารขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารจดหมายเหตุที่แท้จริง, ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

โดยจับกุมนายสุขธรรมได้ที่หน้าบ้านพัก ซอยรัชประชา 4 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. จับกุมนายธรรมยุทธ์ได้ที่บริเวณหน้าอาคารจัดแสดง ศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดิน ม.3 ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และจับกุมนายไตรเทพได้ที่บ้านพัก ซอยหมู่บ้านปิ่นเจริญ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.

เบื้องหลังการจับกุมก็สืบเนื่องจากนายธรรมยุทธ์ หรือยอด ได้จัดสร้างศูนย์มหาสมบัติ 3 แผ่นดินขึ้นที่ จ.สงขลา มีการจัดแสดงโชว์สมบัติมีค่าและวัตถุโบราณ ประกอบด้วย พระสมเด็จพุฒาจารย์โตกว่า 5 แสนองค์ แม่พิมพ์รวมถึงบล็อกทองคำต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก

บล็อกพระสมเด็จเก๊

โดยอ้างว่าตนมีศักดิ์เป็นเหลนรุ่นที่ 6 ของหลวงวิจารณ์เจียรนัย บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่มีการกล่าวขวัญว่าเป็นช่างหลวงในราชสำนัก และเป็นผู้ที่แกะพิมพ์พระสมเด็จ ถวายสมเด็จพุฒาจารย์โต และยังเป็นผู้ผสมมวลสารสร้างพระสมเด็จ และได้รับตกทอดกันมา มีอายุนานกว่า 144 ปี พร้อมทั้งนำภาพถ่ายโบราณของบุคคลทางประวัติศาสตร์ ภาพนิ่งซึ่งมีตราประทับรับรองจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ มากล่าวอ้างว่าเป็นภาพถ่ายของหลวงวิจารณ์เจียรนัย เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

รวมถึงยังมีการนำวัตถุโบราณจำพวก หยก หุ่น เสื้อผ้าโบราณและของมีค่าอื่นๆ จากประเทศจีนที่อ้างว่าเป็นของราชสำนักต้าชิง ของพระนางซูสีไทเฮา และปูยี จักรพรรดิองค์สุดท้าย ที่ทางผู้จัดได้รับตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษต้นตระกูลฝั่งแม่ ซึ่งเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ มาจัดแสดงโชว์ร่วมอีกด้วย

ตำรวจแถลง

นายธรรมยุทธ์ยังร่วมกับนายสุขธรรม หรือ “เฮียกุ่ย รัชดา” เซียนพระชื่อดัง และนายไตรเทพจัดทำคลิปวิดีโอ เผยแพร่เรื่องราวของศูนย์ดังกล่าวลงในยูทูบและสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ พร้อมจะแจกพระสมเด็จดังกล่าวซึ่งอ้างว่าเป็นพระแท้ให้กับประชาชนทั่วไปฟรี 2 แสนองค์ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องจ่ายเงินค่ากรอบและสร้อยคอคล้องพระคนละ 1,000 บาท โดยนำใบตรวจอายุคาร์บอเนตจากการตรวจสอบมวลสารของสถาบันนิวเคลียร์ที่ทำปลอมขึ้นมาแสดงโชว์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จนมีผู้หลงเชื่อเช่าพระสมเด็จดังกล่าวจำนวนนับหมื่นราย

ความมาแตกเมื่อมีนายแพทย์ท่านหนึ่งมาติดต่อขอเช่าพระในราคา 1,800,000 บาท แต่เมื่อได้มาแล้วนำไปให้เซียนพระและสถาบันต่างๆ เกี่ยวกับพระเครื่องตรวจสอบ ปรากฏว่าเป็นของปลอม จนนำไปสู่การตรวจสอบใบรับรองของสถาบันนิวเคลียร์ และภาพถ่ายที่อ้างว่าเป็นหลวงวิจารณ์เจียรนัย ก็พบว่าแท้จริงแล้วเป็นภาพของพระยาราชมนตรี (สง่า สิงหลกะ) และภรรยาคือคุณหญิงบุญปั่น สิงหลกะ หนึ่งในนางต้นห้องของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ส่วนชื่อหลวงวิจารณ์เจียรนัย ตรวจสอบแล้วไม่พบชื่อในบันทึกประวัติศาสตร์แต่อย่างใด ผู้เสียหายและกรมศิลปากรจึงเข้าแจ้งความต่อ กองปราบฯ จนมีการจับกุมดังกล่าว

รูปที่นำมาอ้าง

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. เผยว่า ในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังคงให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานต่างๆ ที่มีอยู่ค่อนข้างแน่ชัดว่ามีการกระทำความผิดจริง ประกอบกับได้มีการประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรมาช่วยตรวจสอบวัตถุโบราณของกลางต่างๆ ก็พบว่าเป็นการทำเลียนแบบขึ้นมา โดยเฉพาะวัตถุโบราณจากจีน เป็นของเลียนแบบที่น่าจะหาซื้อได้ตามเว็บไซต์

หากินกับความศรัทธา คิดง่ายๆ องค์ละพัน 2 แสนองค์ หากปล่อยได้หมดก็ฟันไปเหนาะๆ 20 ล้านบาท

ธานี ทวีเกิด
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน