สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีสยองนครพนม ผัวป่วยจิตฆ่าเผาเมียลูก ชาวบ้านผวาอาถรรพ์!

ย้อนคดีสยองนครพนม – โรคจิตเภท หนึ่งในโรคจิตเวชที่สำคัญ ผู้ป่วยจะมีอาการประสาทหลอน หูแว่ว มีภาพหลอนเกิดขึ้น และจะแสดงออกโดยการพูดคนเดียว หัวเราะคนเดียว มีความหลงผิดหรือหวาดระแวง โรคจิตเภทเป็นโรคเรื้อรังผู้ป่วยต้องใช้ยาไปตลอดชีวิต ปัญหาของโรคนี้คือผู้ป่วยบางรายเมื่อพบว่าตนเองอาการดีขึ้น มักคิดว่าหายแล้วและหยุดใช้ยา ทำให้อาการกำเริบขึ้นมาอีกโดยไม่รู้ตัว

ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พ.ย.63 ร.ต.อ.จำรัส ศรีหาตา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บ้านโพนสวรรค์ หมู่ 2 ต.คำเตย อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานรถดับเพลิงจาก อบต.คำเตย รถดับเพลิง อบต.ขามเฒ่า ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พลาเดช เพชรหน้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.คำดี เฮียงบุญ รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พฐ.ภ.จว.นครพนม แพทย์เวร ร.พ.นครพนม กู้ภัยศรีสัตตนครพนม กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิพ และกู้ชีพ อบต.คำเตย

ย้อนคดีสยองนครพนม

นาทีฆ่า

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว พบเพลิงโหมไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงฉีดน้ำสกัดให้อยู่ในวงจำกัด ไม่ให้ลุกลามบ้านใกล้เคียง โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบสภาพบ้านหลังคาอะลูซิงก์พังถล่ม ข้าวของ อาทิ พัดลม ตู้เย็น ตู้เสื้อผ้า ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด

นอกจากนี้ที่กลางบ้านยังพบศพ นางอานนท์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ถูกเพลิงเผาไหม้ดำเป็นตอตะโก ใกล้กันพบศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของนางอานนท์ เสียชีวิตดำเป็นตอตะโก ถูกซากเศษไม้ที่เผาไหม้ทับถมรวม 2 ศพ เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานอย่างละเอียด

ย้อนคดีสยองนครพนม

ตำรวจตรวจที่เกิดเหตุ

ต่อมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม และ พล.ต.ต. ธนชาติ รอดคลองตัน ผบก.ภ.จว.นครพนม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม นายประพันธ์ศักดิ์ บุตรรัตน์ ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองนครพนม

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายพันธ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี สามีของนางอานนท์ และพ่อ ด.ช.เอ หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไป และจะทำร้ายเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียง ชาวบ้านจึงจับตัวเอาไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวให้อยู่ในอาการสงบ

เบื้องต้นทราบว่า นายพันธ์ และ นางอานนท์ มีอาชีพคัดหินสวยงามส่งขาย ก่อนเกิดเหตุมีพยานพบเห็น นายพันธ์ดื่มสุราจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้ค้อนทุบศีรษะนางอานนท์ และ ด.ช.เอ เนื่องจากมีอาการหลอน ซึ่ง นายพันธ์ เป็นผู้ป่วยจิตเวชและขาดยามานาน 2-3 เดือน จากนั้นได้รื้อเสื้อผ้าจากตู้มาคลุมร่างภรรยาและลูก ก่อนจะจุดไฟเผาดังกล่าว

ย้อนคดีสยองนครพนม

ทำแผนฯ

นายพันธ์ให้การว่า มีคนมาพูดว่าจะมาพรากลูกและเมียไป จึงกินเหล้าย้อมใจ ก่อนใช้ค้อนทุบภรรยาและลูก แล้วหนีไปบอกเพื่อนว่า “จัดการเรียบร้อยแล้ว” กระทั่งถูกชาวบ้านล้อมจับได้ห่างที่เกิดเหตุแค่ 20 เมตร

ความคืบหน้าวันที่ 9 พ.ย.63 พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เจ้าของคดี เปิดเผยถึงผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวช ร.พ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ระบุว่า นางอานนท์ ถูกทุบตีด้วยของแข็งเข้าที่ศีรษะ 2 ครั้ง คาดว่าเสียชีวิตขณะถูกไฟคลอก ส่วน ด.ช.เอ ถูก นายพันธ์ใช้ของแข็งชนิดเดียวกันทุบที่ศีรษะ 3 ครั้ง เสียชีวิตก่อนถูกเผา

โดยวันเดียวกัน ญาติกว่า 20 คนทำพิธีขอขมาศพทั้งคู่ ก่อนจะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีที่ป่าช้าหนองพอก ห่างจากบ้านจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร ท่ามกลางเพื่อนบ้าน ญาติมิตร ชาวบ้าน เพื่อนนักเรียน ครูอาจารย์ มาร่วมงานกว่า 500 คน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด

ย้อนคดีสยองนครพนม

ญาติร่วมพิธี

พระอดิศักดิ์ อายุ 22 ปี ลูกชายคนโต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ได้มอบเงินจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์และจากเหล่ากาชาดจังหวัด 15,000 บาท พร้อมถุงยังชีพ ส่วนเงินเยียวยาจากกองทุนยุติธรรม ช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่ทายาทจะได้รับ 100,000 บาท อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน หลังเอกสารถูกเพลิงไหม้ไปหมดแล้ว ซึ่งได้เร่งไปที่งานทะเบียนทำใหม่หมด นอกจากนี้ยังมีเพจชื่อดัง และเฟซบุ๊ก เจ้าอาวาสวัดโพนสวรรค์ ซึ่งเป็นวัดที่สังกัดอยู่ ได้เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือ หลังมีผู้แชร์ไปเป็นจำนวนมาก ปรากฏว่าได้ยอดเงินมาจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.คำเตย ยังได้มอบเงินช่วยเหลือ โดยมอบให้ นายเอกชัย ลูกชายคนที่ 2 ซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ 50,000 บาท และมอบให้ นางละคร อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นญาติ ที่ถูกนายพันธ์ใช้จอบฟาดอีก 12,811 บาท

ญาติและเพื่อนบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อ 30 ปีที่แล้ว บ้านที่นายพันธ์อาศัยอยู่ซึ่งเป็นหลังที่เกิดเหตุ ได้มีญาติของนายพันธ์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่เขย โดยภรรยาของพี่เขยรายนี้ได้ตายทั้งกลม ก่อนที่ นายพันธ์จะมาสร้างบ้านทับที่เดิมที่ถูกรื้อไปแล้ว

ย้อนคดีสยองนครพนม

เผาแม่-ลูก

ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแรงอาถรรพ์ ซึ่งเป็นสิ่งอัปมงคลที่มาสร้างบ้านทับผีตายโหงทั้งกลม จนอาจเป็นเหตุให้มาเอาชีวิต นางอานนท์ และ ด.ช.เอ ล่าสุดทางพระอดิศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องรื้อถอนบ้านหลังที่ไฟไหม้ทิ้ง และหาที่ดินปลูกบ้านแห่งใหม่ให้น้องชายคนที่ 2 ต่อไป

อุทาหรณ์สำหรับครอบครัวที่มีผู้ป่วยจิตเภทอยู่ในบ้าน ว่าต้องดูแลใส่ใจผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด อย่าละเลยเป็นเด็ดขาด

ชนะ วสุรักคะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน