พฤตินัย มั่งสวัสดิ์

วัฒนชัย จำนงค์ทอง

เรื่อง/ภาพ

จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของภาคอีสาน เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของอีสานตอนบน ความที่เป็นเมืองใหญ่มีผู้คนมากมายอาศัยอยู่ ปัญหาโจรผู้ร้าย ลัก วิ่ง ชิง ปล้น งัดแงะโจรกรรมทัพย์สินตามบ้านเรือนชาวบ้านจึงมีมากตามไปด้วย

ห้วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ตร.เมืองอุดรธานี ต้องวุ่นวายกับการไล่ล่าจับโจรแสบที่ออกอาละวาด งัดแงะเข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินมีค่าตามบ้านเรือนประชาชน สร้างความเดือดร้อนให้สุจริตชนในเขตพื้นที่ไม่หยุดหย่อน

เพียงแค่ช่วงไม่กี่เดือนก็มีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ราย แม้แต่บ้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจแท้ๆ โจรแสบมันก็ไม่ละเว้น

ตำรวจพยายามแกะรอยอย่างไม่ลดละ แต่เหมือนมันจะนกรู้ว่าตำรวจจ้องล่าจับตัวอยู่ เมื่อจู่ๆ โจรแสบก็หายต๋อมเข้ากลีบเมฆไปเสียเฉยๆ

แต่สุดท้ายก็ไม่รอด เมื่อมันชะล่าใจคิดว่าเรื่องเงียบไปแล้ว ย้อนกลับมาก่อเหตุในถิ่นเก่าอีกครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงจับกุมนายพูนทรัพย์หรือเก่ง โคตรสุวรรณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 285 ม.10 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี

พร้อมของกลางโทรทัศน์ 3 เครื่อง, เครื่องซักผ้า 2 เครื่อง, ตู้แช่ 1 เครื่อง, ตู้เซฟ 1 ตู้, โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปี้ไอ สีแดง 1 คัน และอุปกรณ์เครื่องมือในการงัดแงะ

นายพูนทรัพย์ถูกจับในข้อหา “ลักทรัพย์ ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ฯ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

พ.ต.อ.ชวิศเปิดเผยรายละเอียดการจับกุมว่า เนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีคนร้ายตระเวนก่อเหตุงัดบ้านในเขตพื้นที่เมืองอุดรธานี ไม่เว้นแม้แต่บ้านพักของตำรวจด้วย รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 30 หลัง

ต่อมาชุดสืบสวนได้หลักฐานกล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เป็นหลักฐานสำคัญรวมทั้งพยานแวดล้อม จนสามารถสืบรู้ว่าคนร้ายคือนายพูนทรัพย์ จึงออกติดตามจับกุมได้ขณะที่กำลังนำทรัพย์สินของผู้เสียหายที่ขโมยมาจากการก่อเหตุไปจำนำที่ร้านรับซื้อของเก่าบริเวณห้าแยกหอนาฬิกา เขตเทศบาลนครอุดรธานี

จากการสอบสวนนายพูนทรัพย์ ให้การยอมรับสารภาพว่า เคยถูกจับกุมและเพิ่งพ้นโทษมาได้ 3 เดือนในคดีลักทรัพย์มิเตอร์น้ำของชาวบ้าน ยังไม่มีงานทำ จึงขับรถจักรยาน ยนต์ออกตระเวนงัดบ้าน ในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี โดยจะเลือกก่อเหตุ ในช่วงกลางวันที่คนออกไปทำงาน

นายพูนทรัพย์สารภาพว่าถ้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอันไหนที่ได้มาแล้วบรรทุกใส่รถจักรยานยนต์ไม่ได้ ก็จะไปว่าจ้างสามล้อเครื่องให้นำไปส่งร้านรับซื้อของเก่าเพื่อจำนำ โดยอ้างว่าตนเดือดร้อนเงินหรือไม่ก็จะย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น จากนั้นก็นำเงินไปซื้อยาไอซ์มาเสพ

พ.ต.อ.ชวิศกล่าวต่อว่าหลังตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ เจ้าหน้าที่ตำรวเร่งสอบสวนขยายผลไปตรวจยึดทรัพย์สินของบรรดาเหยื่อ ที่นายพูนทรัพย์เอาไปจำนำไว้ตามร้านรับซื้อของเก่า ต่างๆ ได้บางส่วน พร้อมกับนำตัวพาไปชี้จุดบ้านพักผู้เสียหายที่เจ้าตัวสารภาพว่าเคยเข้าไปก่อเหตุ

“โจรงัดบ้านรายนี้ ตำรวจได้เฝ้าติดตาม แต่ปรากฏว่าไหวตัวทัน หลังก่อเหตุแล้วนำทรัพย์สินไปจำนำ แล้วก็จะหลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัดมาสักระยะหนึ่ง พอเรื่องเงียบแล้วก็เดินทางกลับเข้ามาอุดรธานี ก่อนลงมือก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนอีกเรื่อยๆ ตอนนี้มีผู้เสียหายที่ถูกโจรงัดบ้าน ที่มาแจ้งความ กว่า 30 หลัง ซึ่งตำรวจจะพยายาม ติดทรัพย์สิน ของผู้เสียหายกลับคืนมาให้มากที่สุด” พ.ต.อ.ชวิศกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ภูมิวิทย์กล่าวว่า ในส่วนร้านรับซื้อของเก่าที่นายพูนทรัพย์คนร้ายนำทรัพย์สินไปจำนำ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะตรวจสอบทุกแห่งด้วย หากพบว่ามีใบอนุญาตถูกต้องก็ไม่เป็นไร แต่หากร้านไหนไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาดำเนินคดี นอกจากนี้ยังจะสอบปากคำเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ถ้ามีหลักฐานว่ารู้เห็นเป็นใจกับนายพูนทรัพย์คนร้าย ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหารับซื้อของโจรไปด้วย

ติดคุกออกมาไม่สำนึกกลับตัวกลับใจ สุดท้ายก็ต้องกลับไปเข้าคุกอย่างเดิมตามระเบียบ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน