คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ปิดคดีฆ่า-เผาสาวโอเกะ – แม้จะเสียใจที่ต้องสูญเสียภรรยาไป แต่หนุ่มใหญ่ชาวแก่งกระจานก็รู้สึกโล่งใจ ที่ตำรวจใช้เวลาไม่นานก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทำให้ตนพ้นจากสายตาต้องสงสัยที่ชาวบ้านมองตน

ย้อนไปเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พ.ย. พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.พาณุพงศ์ ศรจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน ร.ต.อ.วรพงษ์ ดีเวียง รองสารวัตรสอบสวน สภ.แก่งกระจาน พร้อมกำลังชุดสืบสวนเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพถูกฆ่าเผา พร้อมรถจักรยานยนต์ภายในป่าละเมาะหมู่ 4 บ้านโป่งตาเพชร ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ภายในป่าละเมาะห่างจากถนนบายพาสแก่งกระจาน-ยางชุม เข้าไปประมาณ 1 ก.ม. พบซากรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ ทะเบียน 1 กธ 6326 นครปฐม ล้มตะแคงอยู่บนพื้นถูกไฟเผาไหม้เกรียมไปทั้งคัน ทับศพผู้หญิงซึ่งถูกไฟเผาทั้งร่างจนดำเป็นตอตะโก ใกล้กันพบนาฬิกาแบบผู้หญิง 1 เรือน เศษกระดูกกระจายไปทั่วบริเวณ

จากการตรวจสอบลักษณะทรัพย์สินที่ตกอยู่ เบื้องต้นคาดว่าผู้เสียชีวิตจะเป็น น.ส.กัญญาภัค ชาติทอง หรือผึ้ง อายุ 46 ปี ชาว ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน ที่นายสันติ ชาติทอง อายุ 46 ปี สามีแจ้งความคนหายเอาไว้ จึงเชิญตัวมายืนยัน ซึ่งนายสันติจดจำนาฬิกา และลักษณะรถจักรยานยนต์ได้ ยืนยันว่าศพที่พบคือ น.ส.กัญญาภัค ภรรยาตนเอง

น.ส.กัญญาภัค ชาติทอง ผู้ตาย
นายอู่ทอง พรายแขวง มือฆ่า

เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ภรรยาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอิ่มจังคาราโอเกะ ต.วังไคร้ อ.ท่ายาง ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 10 ก.ม. เมื่อช่วงประมาณตี 1 คืนวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ขาดการติดต่อไป หลังตามหาไม่เจอจึงไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ท่ายาง เมื่อ วันที่ 5 พ.ย. และออกติดตามหามาโดยตลอดแต่ไม่มีวี่แวว กระทั่งมีผู้มาพบศพ

หลังได้ข้อมูลตำรวจไปสืบที่ร้านครัวอิ่มจังคาราโอเกะ พบ น.ส.ใกล้รุ่ง ยอดแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าของเปิดเผยว่า ผึ้งมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านได้ยังไม่ครบ 1 เดือนทำให้ไม่รู้เรื่องราวส่วนตัวอะไรมาก ทราบแต่เพียงว่าผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดี ร้องเพลงเพราะเป็นที่รักใคร่ของคนในร้าน ปกติผู้ตายขับขี่รถจยย.มาทำงาน เลิกงานเที่ยงคืนก็ขี่กลับบ้าน มีบ้างที่สามีผู้ตายขี่รถจยย.มารับ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันเพราะจะมาจอดรอที่หน้าร้าน

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายเคยบ่นให้ฟังว่าอยากกลับบ้านไปหาลูก (ลูกกับสามีเดิม) วันเกิดเหตุผึ้งก็มาทำงานตามปกติและเลิกงานตอนเที่ยงคืน (วันที่ 3 พ.ย.) กระทั่งวันรุ่งขึ้นเวลาประมาณ 10.00 น. สามีผู้ตายก็มาถามหาว่าผึ้งค้างที่ร้านหรือเปล่า จึงทราบว่าผึ้งหายตัวไป

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและนายสันติ สามีผู้ตายได้เดินทางไปตรวจค้นหลักฐานเพิ่มเติมที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งนายสันติเล่าว่า ตนเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเกิดจากอะไร ใครเป็นคนทำแต่ตนเองยืนยันได้ว่าไม่ใช่ตนแน่นอน และพยายามให้ข้อมูลกับตำรวจมากที่สุดเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ตนมีลูกกับผู้ตายอายุประมาณ 5-6 ขวบ ผู้ตายเคยมีครอบครัวมาแล้ว และประกอบอาชีพแบบนี้ตนเองรับได้ ไม่เคยหึงหวงเพราะรู้ก่อนอยู่แล้วว่าเป็นอาชีพของภรรยา จึงไม่เคยมีปากเสียงกันในเรื่องนี้

คุมไอ้โหดดำเนินคดี

ตำรวจไล่เช็กข้อมูลเพื่อหาปมสังหาร แต่ก็ไม่พบว่าจะมีสาเหตุอะไรทั้งเรื่องหึงหวงหรือทะเลาะวิวาท สุดท้ายจึงเหลือเพียงประเด็นถูกฆ่าชิงทรัพย์ จนสุดท้ายก็สามารถปิดคดีลงได้

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 16 พ.ย. พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.พาณุพงศ์ สอนจิตติ ผกก.สภ.แก่งกระจาน ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายอู่ทอง พรายแขวง อายุ 44 ปี ชาว ต.วังไคร้ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ผู้ต้องหา

พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี แถลงปิดคดี

พล.ต.ต.อุทัยเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางของ น.ส.กัญญาภัค ปรากฏว่ามีรถจักรยานยนต์ของคนร้ายขี่ตามผู้เสียชีวิตตั้งแต่ออกจากร้านคาราโอเกะ จนไปถึงจุดเกิดเหตุ จึงตรวจสอบจนทราบว่าคือนายอู่ทอง

เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลจังหวัดเพชรบุรีได้อนุมัติออกหมายจับ ที่ จ 313/2563 ลงวันที่ 15 พ.ย.2563 ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย ก่อนจะติดตามจับกุมตัวนายอู่ทองได้ที่ถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ 10 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลางคือ มีดสั้นที่ใช้ปาดคอและแทงผู้ตาย มีดง้าวที่ใช้ข่มขู่ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผนป้ายทะเบียน ที่ใช้เป็นพาหนะ และเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ

นายอู่ทองสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุจริง โดยทำไปเพราะประสงค์ต่อทรัพย์สิน แต่กลัวผู้ตายจะแจ้งตำรวจจึงลงมือฆ่าปิดปาก ทั้งนี้เคยก่อเหตุกระชากกระเป๋า และใช้มีดข่มขู่เพื่อชิงทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง และล่าสุดเคยใช้อาวุธมีดฆ่าชิงทรัพย์ แคดดี้สาวในพื้นที่ ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง เมื่อปี 2556 และเพิ่งพ้นโทษออกมาจาก เรือนจำเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2563 กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว

ประวัติเหี้ยมโหด เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา คนเช่นนี้กันให้ห่างจากสังคมนานเท่าไหร่ได้ยิ่งดี

 

กัมปนาท ขันตระกูล
กิตติศักดิ์ รื่นรวย

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน