คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีลูกเขย – ใครไม่เป็นพ่อผัว-แม่ผัว หรือพ่อตา-แม่ยาย คงยากที่จะเข้าใจความรู้สึก หลายรายแทนที่จะคิดในทางบวกว่าคนที่เข้ามาในครอบครัว เขามาช่วยกันรักคนที่เรารัก แต่กลับมีความรู้สึกว่าถูกคนนอกมาแย่งความรัก สุดท้ายเป็นปมฝังใจ กลายเป็นความไม่ชอบ ขี้หน้ากัน

แถมสุดท้ายหากโชคร้าย ชีวิตคู่ของลูกๆ ต้องล่มสลาย ยังหนีไม่พ้นถูกโทษว่าเป็นต้นเหตุ เป็นมือที่สามคอยยุแยงตะแคงรั่วไปเสียอีก

พฐ.ตรวจที่เกิดเหตุ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2563 พ.ต.อ.สุชิน กิจกสิกร ผกก.สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังชุดสืบสวน พร้อมด้วย ร.ต.อ.อิทธิพล คำหอม รองสว.สอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวร ร.พ.ประจวบคีรีขันธ์ หน่วยกู้ชีพองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยทราย

เข้าตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน ยิง มีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 49/9 หมู่ 1 ต.ห้วยทราย อ.เมือง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ชั้นเดียว 2 คูหาในตลาดต้นเกตุ เปิดเป็นร้านขายโลงศพ พวงหรีดและขายสินค้าเบ็ดเตล็ด ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ภายในร้านหน้าโต๊ะบัญชีพบศพนางกีรฎา นกทอง หรือเจ๊นา รองนายกอบต.ห้วยทราย อายุ 56 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือด

นายนัฐวุฒิ พวงน้อย ลูกเขยเหี้ยม
นางกีรฎา นกทอง หรือเจ๊นา

สภาพศพสวมเสื้อยืดฟุตบอลทีมพีที ประจวบ สีส้ม กางเกงยีนส์สีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณหน้าท้อง ราวนมด้านซ้าย 4 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด 11 ม.ม. จำนวน 1 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัวตกบนพื้น เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายเปิดร้านขายสินค้าตามปกติ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบ นายนัฐวุฒิ พวงน้อย อายุ 34 ปี ลูกเขยขับรถกระบะโตโยต้า รีโว่ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บท 3952 ประจวบคีรีขันธ์ ด้านหลังติดลูกกรง มาจอดด้านหน้าร้าน จากนั้นได้ชักอาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่กำลังยืนด้านหน้าโต๊ะบัญชีจนล้มลง

จากนั้นนายนัฐวุฒิเดินเข้าไปในร้านในระยะกระชั้นชิดเพื่อจ่อยิงซ้ำ แต่ น.ส.รัตติกร สุทธิธรรมนุกูล อายุ 33 ปี บุตรผู้ตาย เป็นภรรยาของผู้ก่อเหตุยืนขายสินค้าภายในร้าน เห็นเหตุการณ์จึงเข้าไปฉุดกระชากสามีพร้อมแย่งปืน

แต่นายนัฐวุฒิสะบัดจนหลุดและเดินเข้าไปใช้อาวุธปืนจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้เดินออกจากร้านอย่างใจเย็น และขับรถกระบะขับหลบหนีไปบ้านพักที่หมู่บ้านย่านซื่อ ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุกว่า 70 กิโลเมตร

น.ส.รัตติกรให้การว่า อยู่กินกับนายนัฐวุฒิมาประมาณ 14 ปี มีบุตรชายด้วยกันหนึ่งคนอายุ 13 ปี ช่วงหลังผู้ก่อเหตุมีอารมณ์รุนแรงและไปติดพันหญิงอื่น ตนและลูกชายจึงกลับมาอยู่บ้านกับแม่ที่ ต.ห้วยทราย ขณะที่นายนัฐวุฒิส่งข้อความคุยกับบุตรชายตลอดเวลา

แต่ก็มีบางครั้งที่พูดจาด่าทอบ้าง ก่อนหน้านี้ยังเคยโพสต์ข้อความขู่ฆ่าแม่ยายผ่านเฟซบุ๊ก เพราะคิดว่ามารดาเป็นคนยุยงให้เลิกกัน ทำให้มารดาคอยระมัดระวังตัวตลอดเวลาต้องซื้ออาวุธปืนเก็บไว้เพื่อใช้ป้องกันตัว เพราะอดีตสามีเป็นคนชอบอาวุธปืนและได้ซ้อมยิงปืนเป็นประจำ

ผ่านไปไม่ทันข้ามคืนค่ำวันนั้นเองบิดาของนายนัฐวุฒิ มือปืน ได้นำลูกชายพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าตำรวจ ที่ สภ.บ้านยางชุม ต.หาดขาม อ.กุยบุรี หลังเจ้าตัวเตรียมยิงตัวตายหนีความผิด แต่บิดาพูดจาเกลี้ยกล่อมจนยอมให้พามามอบตัวกับตำรวจ ก่อนจะถูกควบคุมตัวส่งดำเนินคดีที่สภ.คลองวาฬ ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาแต่ก็อ้างว่าวันเกิดเหตุไม่ได้ตั้งใจไปยิงแม่ยาย แต่ต้องการไปพบภรรยาเพื่อเจรจาขอคืนดี แต่พบแม่ยายขายสินค้าอยู่ในร้าน จึงบันดาลโทสะ ประกอบกับก่อนหน้านี้เมื่อเดือนตุลาคม 2563 ถูกแม่ยายใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ จึงเกรงว่าเมื่อไปพบภรรยาอีก จะถูกยิงซ้ำ และปฏิเสธไม่ไปทำแผนประกอบรับสารภาพ

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง พกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ก่อนนำตัวไปฝากขัง เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าหน้าห้องขังตลอดเวลา เกรงว่าผู้ต้องหาจะผูกคอตายในห้องขัง

คุมตัวดำเนินคดี

 

จะให้การเช่นไรก็ไม่สามารถหักล้างภาพวงจรปิดที่เห็นพฤติกรรมเหี้ยมโหดของเจ้าตัวได้

เจริญ อาจประดิษฐ์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน