คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
คดีอุทาหรณ์เหตุลิ้นกับฟัน – สลดปทุมฯ คําโบราณว่าไว้ อันคู่ผัวเมียดั่งลิ้นกับฟันเวลาอยู่ด้วยกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง
แต่เหตุเมื่อกลางดึกวันที่ 18 พ.ย. ที่เกิดขึ้นซอยสะอาดพัฒนา ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มันรุนแรงเกินเลยจนกลายเป็นเหตุรันทดด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ชี้จุดที่คว้ามีด
เวลาห้าทุ่มครึ่งวันเกิดเหตุ ร.ต.ท.เกรียงไกร เสวตสมบูรณ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี รับแจ้งมีเหตุสามีภรรยาทะเลาะวิวาทกันและทำร้ายกันเสียชีวิตที่ห้องเช่าในซอยสะอาดพัฒนา หลังรับแจ้งรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์เวรนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธัญบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องนอน พบศพน.ส.ชะอุ้ม รัตนวรรณ อายุ 47 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 52 หมู่ 6 ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนจมกองเลือด สวมผ้าถุงลายดอก ใส่เสื้อยืดสีเขียว มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมเข้าบริเวณหน้าท้องจนไส้ทะลัก บริเวณมือด้านขวาพบกรรไกรเปื้อนเลือดตกอยู่
ทำแผนในที่เกิดเหตุ
ภายในห้องยังพบหญิงสาวอายุ 16 ปี ลูกสาวผู้ตายเป็นเด็กออทิสติก นั่งอยู่บนฟูกนอนใกล้ศพของมารดาอยู่ในอาการหวาดกลัว
นอกจากนี้ยังพบ นายทินกร หรือ อ๊อด บัวสุข อายุ 50 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่เลขที่ 12/2 หมู่ 5 ต.ม่วงหัก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ สามีผู้ตายอยู่ในสภาพกลิ่นเหล้าคละคลุ้งนั่งอยู่ข้างศพของภรรยา รอมอบตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สอบสวนนายทินกรให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต โดยให้การว่าภรรยาทำงานเป็น รปภ.อยู่ย่านรังสิต ส่วนตนเองไม่ทำงาน เนื่องจากอยู่ระหว่างรายงานตัวทัณฑ์บนความประพฤติ หลังถูกจับคดีเมาแล้วขับรถที่ สภ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
ก่อนเกิดเหตุตนจุดไฟเตาถ่านเพื่อประกอบอาหารให้ลูกสาว แต่เกิดควันไฟฟุ้งกระจายส่งกลิ่นเหม็นไปยังข้างห้องที่มีเด็กเล็กอยู่จนถูกอีกฝ่ายต่อว่าต่อขาน ภรรยาก็ตะโกนบอกให้ไปขอโทษเขา แต่ตนเองไม่ยอมจนเกิดทะเลาะกันเอง
นายทินกรอ้างว่า ภรรยาเป็นฝ่ายที่โกรธมากจนใช้กรรไกรพยายามไล่แทงก่อน จนเกิดการต่อสู้ยื้อแย่งกรรไกรกันทำให้ปลายกรรไกรแทงเข้าท้องภรรยาอย่างรุนแรงจนไส้ทะลัก
เมื่อเห็นร่างภรรยาจะล้มลงจมกองเลือดนอนหายใจรวยริน จึงรีบกอบไส้กลับเข้าท้องภรรยา และโทรศัพท์ แจ้งกู้ภัย 1699 มาช่วยเหลือแต่ภรรยาสิ้นใจไปก่อน
แต่คำให้การมีพิรุธหลายประการ เจ้าหน้าที่จึงเค้นถามความจริงทั้งหมดอีกครั้ง
ในที่สุดนายทินกรยอมรับสิ้นไส้ว่า หลังทะเลาะกันภรรยาคว้ากรรไกรจะมาแทง จึงกำข้อมือภรรยาไว้แน่น จากนั้นหยิบมีดทำครัวจ้วงแทงหน้าท้องภรรยาจนล้มฟุบ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าลูกสาวของผู้ตาย ที่เป็นเด็กออทิสติก
หลังก่อเหตุรีบนำมีดไปล้างคราบเลือด และโยนทิ้งออกนอกบ้าน เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
บ้านที่เกิดเหตุ
แต่ขณะที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สภ.ธัญบุรี นายทินกรขอเข้าไปกราบขมา และหอมแก้มศพภรรยาเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัย
พ.ต.ท.บุญยิ่ง บัณฑิตไทย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ธัญบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ธัญบุรี แพทย์นิติศาสตร์ โรงพยาบาลธัญบุรี ได้ร่วมกันชันสูตรศพและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับนำตัวสามีที่ให้การรับสารภาพนำชี้ที่เกิดเหตุและบันทึกภาพเป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่น เสียชีวิตโดยเจตนา และได้มอบศพให้ทาง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อชันสูตรอีกครั้ง
ด้านผู้ดูแลห้องเช่าที่เกิดเหตุเผยว่า สามีภรรยาคู่นี้เพิ่งเข้ามาอยู่ได้ประมาณ 1 เดือน และมักจะทะเลาะกันประจำ โดยภรรยาทำงานเป็น รปภ.มีลูกติดเป็นเด็กพิเศษออทิสติก ส่วนสามีไม่ได้ทำงานทราบว่าดื่มเมาทุกวัน
ช่วงเกิดเหตุก็ได้ยินเสียงสามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันอีก จึงไม่ได้สนใจอะไรเพราะดูทีวี จนมีน้องวิ่งมาบอกว่าพี่ที่ห้องเช่ามีเรื่องแล้ว เมื่อออกมาก็พบว่าผู้หญิงนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องและก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงแล้ว
พอถามลูกสาวของผู้ตายที่เป็นเด็กพิเศษก็ต้องยิ่งสลดไปอีก เพราะเล่าให้ฟังว่า พ่อกับแม่ทะเลาะกันเรื่องทำกับข้าวให้ตนเองกิน จากนั้นพ่อกับแม่ทะเลาะกันหนักมากและพ่อก็ใช้มีดแทงแม่จนล้มลง
อีกอุทาหรณ์เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง ที่ทำให้สาวน้อยผู้ไร้เดียงสาต้องมีชะตากรรมที่มืดมนขนาดไหน เพราะไม่เพียงแค่แม่ตาย แต่พ่อยังต้องติดคุก
