คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง – “ที่ผ่านมาผมถูกครอบครัวเขาดูถูกพูดเย้ยหยันว่าผมจะมาเกาะเมียกิน อดทนอดกลั้นมานานแล้ว” คำรับสารภาพถึงชนวนสังหารโหดสยองเมืองปากช่อง

ย้อนไปเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.ณรงค์ เสวก รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.พิชิต มีแสง ผกก.สภ.หมูสี พ.ต.ท.ชูเกียรติ แก้วอาจ รองผกก.ป. พ.ต.ท.ฉัตรวัชร์ กิตติสาริสิทธิร์ รองผกก.(สอบสวน) ร.ต.อ.สิตย์ จันทีนอก รองสว.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง เข้าตรวจสอบเหตุมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณบ้านเลขที่ 584/1 หมู่ 7 บ้านไร่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ในที่เกิดเหตุบริเวณหลังบ้านที่มีอาหารและเตาปิ้งย่างวางบริเวณเสื่อปูนั่งที่พื้นคอนกรีต พบผู้บาดเจ็บถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดนอนอยู่ 3 คนคือ นายดนัย การสมบัติ อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอกซ้าย 1 นัด ใกล้กันพบนายทศวรรษ การสมบัติ อายุ 25 ปี ลูกชายของนายดนัย ถูกยิงเข้าบริเวณลำตัวเสียชีวิตคาวงอาหาร ถัดมาพบ นางธนาทิพย์ ไทยยิ่งยงค์ อายุ 52 ปี ภรรยานายดนัย เจ้าของบ้านถูกยิง และ น.ส.นภทรัพย์ ไทยยิ่งยงค์ อายุ 50 ปี ถูกยิงบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ช่วยผู้บาดเจ็บนำส่ง ร.พ.ปากช่องนานา

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง

วงหมูกระทะ

ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 2 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้พบบังโคลนหลังรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ขข-8121 นครราชสีมา ที่จอดอยู่ถูกกระสุนปืนเป็นรู 1 รู ต่อมานายดนัย เจ้าของบ้านเสียชีวิตอีกรายเป็น 2 ศพ

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง

อาวุธสังหาร

ต่อมาไม่นาน นายสุรพล หรือ เก๋ สุริยัน อายุ 39 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.หมูสี พร้อมอาวุธปืนสั้นขนาด 9 ม.ม. พร้อมกระสุนในแม็กกาซีน 5 นัด โดยให้การว่า ตนอยู่กินกับ น.ส.บุญตา หรือ ตา การสมบัติ อายุ 45 ปี น้องสาวของนายดนัยเมื่อ 2 ปีเศษ มีบ้านอยู่ติดกัน แต่ที่ผ่านมาตนถูกครอบครัวนายดนัยและนางธนาทิพย์พูดเย้ยหยันว่าตนจะมาเกาะเมียกิน เพราะภรรยาตนมีฐานะ ตนอดกลั้นมานาน

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง

นายสุรพล หรือเก๋ สุริยัน มือปืน

นายสุรพลเล่าเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ครอบครัวของผู้ตายซื้ออาหารมานั่งกินที่บ้านที่อยู่ติดกัน และพูดเย้ยหยันตนอีก จนตนทนไม่ไหวจึงถือปืนออกมาเพื่อขู่ แต่ถูกนางธนาทิพย์แจ้งความและยังตกลงกันไม่ได้ ตนพยายามอดทนอดกลั้นมาโดยตลอดกว่า 2 ปี จนมาถึงวันนี้ทนไม่ไหวแล้ว จึงแอบไปเอาอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ของภรรยามาเตรียมไว้

พอตกเย็นตนตัดสินใจมาเคลียร์ให้เรื่องจบไป จึงถือปืนเดินออกจากบ้านโดยภรรยาตามมาห้ามพยายามดันตนให้กลับบ้านแต่สู้แรงตนไม่ได้ ตนผลักล้มหลายครั้ง จนถึงใกล้วงหมูกระทะ ตนจึงลั่นกระสุนใส่ นางธนาทิพย์ และ น.ส.นภทรัพย์ ก่อน แต่นายดนัย และนายทศวรรษ บุตรชาย เห็นเหตุการณ์พอดีจึงลุกวิ่งมาหาตนเพื่อทำร้าย ตนจึงหันปากกระบอกปืนยิงใส่ทั้ง 2 คนจนร่างทรุด ตอนนั้นตนยิงไปเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น แต่จำไม่ได้ว่ายิงไปทั้งหมดกี่นัด

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

ขณะที่การสอบสวน น.ส.บุญตา ซึ่งก็บาดเจ็บจากการถูกสามีผลักจนล้มหลายครั้ง ให้การว่า ที่ผ่านมามีปัญหากันมาตลอด เพราะภรรยาพี่ชายและน้องสาวเขาชอบมาพูดจาเย้ยหยันว่านายเก๋สามีจะมาเกาะเมียกิน จนเมื่อคืนสามีทนไม่ไหวจะออกมาเคลียร์ แต่ตนไม่ทราบว่าสามีนำปืนติดตัวมาด้วยก็เดินตามมาจนเกิดเหตุสยองขึ้น

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง

กอดลาภรรยา

วันรุ่งขึ้น ร.ต.อ.สิตย์ จันทีนอก รองสว.(สอบสวน) สภ.หมูสี นำตัวนายสุรพลมาสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีทนายความเข้ารับฟังการสอบสวนด้วย ซึ่งพอนายสุรพลเจอกับน.ส.บุญตา ภรรยา ก็โผเข้าสวมกอดสั่งเสียภรรยา โดยนายสุรพลถูกดำเนินคดี 5 ข้อกล่าวหาหนักคือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 3.พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร 4.ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน และ 5.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่มีใบอนุญาต พร้อมควบคุมตัวส่งฟ้องฝากขังยังศาลจังหวัดสีคิ้ว นครราชสีมา

ผ่าคดีฆ่าสยองปากช่อง

หาข้อมูล

ด้าน น.ส.ณัชการ ไทยยิ่งยงค์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นญาติของนาง ธนาทิพย์และ น.ส.นภทรัพย์ 2 ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนอยู่ในกลุ่มญาติ พี่น้องกำลังนั่งกินหมูกระทะร่วมกันจำนวน 8 คน ขณะนั้นนายสุรพลเดินถือปืนเข้ามาแล้วตะโกนว่าตายๆๆ แล้วเล็งปากกระบอกปืนเข้ากราดยิง ตนกระโดดออกมายืนและหลายคนวิ่งหนีเอาตัวรอด จนเห็นนายดนัย นางธนาทิพย์ และคนอื่นถูกยิงนอนจมกองเลือด ตนทำอะไรไม่ถูกจึงวิ่งออกมาโทรศัพท์แจ้ง 191

ส่วนศพนายดนัยและนายทศวรรษ 2 พ่อลูก ญาตินำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านไร่ โดยตั้งโลงศพไว้คู่กัน ส่วนอาการของนางธนาทิพย์และ น.ส.นภทรัพย์ 2 ผู้บาดเจ็บแม้กระสุนจะไม่ถูกจุดสำคัญ แต่แพทย์ยังให้นอนรักษาตัวที่ ร.พ.

เรื่องราวจะแตกต่างออกไป หากนายสุรพลเลือกที่จะไม่ใส่ใจ และเดินหนีออกมาจากเสียงติฉินนินทา

วัชรากร นามสีฐาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน