คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ตามตร.ปิดคดีฆ่าอุกอาจ – คดีทะเลาะวิวาทส่วนใหญ่มักมีสุรา หรือ น้ำเปลี่ยนนิสัย เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะเรื่องศักดิ์ศรี ในวงสุรานั้นหามีใครยอมลดราวาศอกให้กันได้ไม่
เช่นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 20 พ.ย. พ.ต.ท.ธณัชพงศ์ กิรัมย์ รองผกก.สส.สน.สายไหม พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุระ จันทร์แก้ว สว.กก.สส.บก.น.2 ร.ต.อ.สุวิทย์ หล่มศักดิ์ รอง สว.สส. ร.ต.อ.วสันต์ เพิ่มพูน รองสารวัตร (สอบสวน) สน.สายไหม นำกำลังชุดสืบสวน เข้าตรวจสอบเหตุชายวัยรุ่นถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในหมู่บ้านเอื้ออาทร (สายไหม) ถนนสายไหม ซอย 33/1 แขวงและเขตสายไหม กทม.
ภายในที่เกิดเหตุ บริเวณบันไดทางขึ้น-ลงชั้น 2 อาคารที่ 44 พบชายวัยรุ่นถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ที่บริเวณท้องด้านขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส หน่วยกู้ชีพจึงปั๊มหัวใจ ใช้เวลานานกว่า 30 นาทีแต่ไม่เป็นผล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จากการสอบถามนายหนุ่ม (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เพื่อนของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายชื่อ นายณัฐพัฒน์ หรืออาร์ม อายุ 20 ปี ชาว อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนเกิดเหตุผู้ตายพร้อมแฟนสาวมาหาตนที่ห้องพักซึ่งอยู่ชั้น 3 ของอาคาร 44 เมื่อมาถึงก็นั่งพูดคุยกันได้ประมาณ 10 นาที
จากนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาหานายณัฐพัฒน์หลายครั้ง ดูจากลักษณะการพูดคุยค่อนข้างที่จะสนิทสนม จนกระทั่งครั้งสุดท้ายช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. มีข้อความแช็ตบอกว่า เดินทางมาถึงแล้ว จากนั้นทางผู้ตายจึงออกจากห้องและเดินลงบันไดไป ช่วงระยะเวลาไม่ถึง 1 นาที จู่ๆก็มีเสียงปืนดังสนั่นขึ้น 1 นัด
ตนจึงรีบวิ่งมาดูก็พบนายณัฐพัฒน์ นอนหายใจรวยรินพร้อมกับพูดบอกว่า “ไม่ไหวแล้ว” ก่อนจะนอนหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ที่ผ่านมานานๆ ครั้ง ผู้ตายจะเดินทางมาหาตน ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบ เพราะผู้ตายไม่เคยพูด เล่าเรื่องปัญหาอะไรให้ฟัง
สอบพยาน
ด้านนายสมนึก รัศมี อายุ 60 ปี รปภ.อาคารดังกล่าว เปิดเผยว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนกำลังออกตรวจความเรียบร้อยตามอาคารต่างๆ มีชายวัยรุ่น 4 คนสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ใส่เสื้อคลุมแขนยาวสีดำ กางเกงขายาว มายืนซุ่มอยู่บริเวณทางขึ้นอาคาร 44 ตนจึงยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ
จากนั้นชายวัยรุ่น 2 คน เดินขึ้นบันได ส่วนอีก 2 คนยืนรออยู่ด้านล่าง ช่วงเวลาไม่นานก็มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้งหมดจะวิ่งไปขึ้นรถจักรยาน ยนต์ 2 คัน ขี่บิดเร่งเครื่องหลบหนีออกไป ตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ
ตำรวจตรวจสอบข้อมูลในมือถือของผู้ตายจนได้ข้อมูลว่าใครเป็นคนโทร.และส่งข้อความมาหา จากนั้นชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.2 นำตัวนายโม่ (นามสมมติ) ที่เป็นคนใช้โทรศัพท์แช็ตข้อความส่งมาหาผู้ตายมาสอบสวนที่ สน.สายไหม
นายสุรเดช อ่อนอาจศรี หรือคม
นายโม่ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนถูก นายคม ซึ่งรู้จักกันมาประมาณ 2-3 สัปดาห์ใช้อาวุธปืนจ่อหัวบังคับให้พิมพ์ข้อความ แช็ตกับนายณัฐพัฒน์ผู้ตาย เพื่อล่อลวงให้ลงมาทำร้าย เมื่อผู้ตายเดินออกมาถึงบริเวณบันไดชั้น 2 ตนเห็นนายคมชักอาวุธปืนออกมาจากเอว แล้วจ่อยิงนายณัฐพัฒน์ต่อหน้าต่อตาแล้วขับรถหนีไป
นายโม่ ให้การอีกว่า ก่อนหน้านี้นาย ณัฐพัฒน์ ผู้ตายมีปัญหาเรื่องส่วนตัวกับนายคมมาก่อน แต่สามารถเคลียร์ปัญหากันได้ ก็คิดว่าจบไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมจึงมาก่อเหตุ ในครั้งนี้
เมื่อได้ข้อมูลว่าใครเป็นคนก่อเหตุ ตำรวจก็ตามไปที่บ้านพักแต่เจ้าตัวหลบหนีไป เสียก่อน ต่อมาเวลา 17.30 น. ที่สน.สายไหม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยส.ส. นายคณาธิป แก้วสระแสน ที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สน.สายไหม นำตัวนายสุรเดช หรือคม อ่อนอาจศรี อายุ 26 ปี อดีตอาสาสมัครทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามามอบตัวกับตำรวจ หลังหลบหนีไปหาเพื่อนที่อยู่ใน จ.นครสวรรค์ นายคณาธิปกล่าวว่าได้รับการประสานจากญาตินายคมให้พาเข้ามอบตัว เนื่องจากกลัวไม่ปลอดภัย
มือปืนนั่งคอตก
นายคมถูกแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีและพกพาอาวุธปืนเข้าไปในเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหายิงปืนในที่สาธารณะฯ” ขณะที่การสืบสวนได้ข้อมูลว่าสาเหตุที่ก่อเหตุเพราะถูกผู้ตายซึ่งเป็นรุ่นน้องพูดจาดูหมิ่นปีนเกลียวในวงเหล้า ทำให้มีปัญหาส่วนตัวกับผู้ตายมานาน อีกทั้งถูกผู้ตายข่มขู่จะทำร้ายมาหลายครั้ง อีกทั้งรู้มาว่าผู้ตายมีแผนจะดักทำร้ายและลอบยิงตน จึงชิงลงมือก่อนโดยปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนไทยประดิษฐ์ของผู้ตายที่มาฝากเอาไว้ขณะยังดีกันอยู่ หลังก่อเหตุก็โยนทิ้งไปในพงหญ้าข้างทางช่วงถนนเลียบคลองสามลำลูกกา จ.ปทุมธานี
ส่วนที่เข้ามอบตัวก็เพราะกลัวถูกวิสามัญฆาตกรรม ทั้งนี้วัยรุ่นอีก 3 คนที่ไปกับนายคม เจ้าหน้าที่จะกันไว้เป็นพยาน เนื่องจากหลังเกิดเหตุทั้งหมดเข้าพบกับตำรวจเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่ถูกนายคมหลอกว่าจะพามากินน้ำกระท่อมจึงตามกันมา
เพราะคำว่าศักดิ์ศรีคำเดียว ทำให้คนหนึ่งต้องตาย อีกคนต้อง ติดคุก ลดๆ ไปซะบ้างชีวิตจะได้เป็นสุข
