สุเชษฐ์ แรกรุ่น

ลูกจ้าง! ที่ยอมเหนื่อยยากตรากตรำทำงานหนักอยู่ทุกวัน ก็ย่อมหวังเงินค่าแรงมาใช้จ่ายจุนเจือครอบครัว แต่หากทำแล้วไม่ได้เงินก็ย่อมต้องทวงถามเป็นเรื่องธรรมดา จะจ่ายครบบ้างไม่ครบบ้างก็ยังได้เงิน แต่ใครจะคาดคิดว่าเมื่อหนุ่มวัย 20 ปี มาทวงถามเงินค่าแรงจากนายจ้าง กลับต้องลงเอยที่ได้ความตายเป็นสิ่งตอบแทน

เรื่องราวสะเทือนขวัญเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ. อรรถพร วังบุญคง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายหน้าบ้านเลขที่ 121 หมู่ 13 ต.เทพราช อ.สิชล รับแจ้งแล้วจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.สำเริง ชูกะนันท์ ผกก.สภ.เปลี่ยน พ.ต.ท.สมชาย มวยดี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ รอง ผกก.สส. ชุดสอบสวน แพทย์เวร ร.พ.สิชล และมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งอำเภอสิชล

บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีบรรดาไทยมุงกำลังรุมล้อมดูศพเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องแหวกวงล้อมเข้าไปตรวจสอบ พบผู้ตายเป็น ชายวัยรุ่นทราบชื่อต่อมาคือนายอดิศักดิ์ แซ่หลี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 13 ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

สภาพศพนุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าท้ายทอยจำนวน 1 นัด ความรุนแรงของกระสุนลูกซองทำให้กะโหลกศีรษะแตก มันสมองปนเลือดกระจาย ส่งกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

 

ตํารวจสอบสวนทราบว่า นายอดิศักดิ์หนุ่มผู้ตายมีอาชีพทำงานรับจ้างทั่วไป และได้รับจ้างแบกไม้ยางพาราในสวนของนายจ้างคนหนึ่ง โดยหลังเสร็จงานนายจ้างได้ค้างค่าแรงเป็นเงิน 5,000 บาท

ก่อนเกิดเหตุนายอดิศักดิ์กับแฟนสาวและเพื่อน 2 คนขับรถ จยย.ไปที่บ้านของนายจ้างเพื่อทวงเงินที่ค้างอยู่ แต่นายจ้างยังไม่มีเงินให้ ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนนายอดิศักดิ์โมโหและได้เข้าชกต่อยกับนายจ้างและลูกชายของนายจ้าง ขณะที่เพื่อน 2 คนที่ไปด้วยกันได้ขับรถหนีออกจากที่เกิดเหตุไป

จากการสอบสวนพยานทราบว่า ช่วงที่ทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันนั้น นายอดิศักดิ์ซึ่งถูกทิ้งอยู่คนเดียวสู้แรงนายจ้างและลูกชายไม่ไหว จึงวิ่งหนีไปร้องขอความช่วยเหลือที่บ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของญาติๆ กัน โดยห่างจากบ้านนายจ้างที่ทะเลาะกันประมาณ 500 เมตร แต่นายจ้างและลูกชายยังไม่หายแค้น จึงได้ขับรถ จยย.ไล่ติดตามหา

จนมาเจอนายอดิศักดิ์ขณะกำลังเคาะประตูเรียกให้ญาติเปิดประตูบ้านให้ นายจ้างพ่อลูกก็เดินปรี่เข้าไปใช้ปืนลูกซองสั้นจ่อยิงที่ศีรษะ 1 นัด จนเสียชีวิตคาที่ จากนั้น 2 พ่อลูกก็ขี่รถ จยย.หลบหนีไป

พ.ต.อ.สำเริงสั่งให้ตรวจสอบจนทราบชื่อผู้ก่อเหตุทั้ง 2 พ่อลูก คือนายสมนึก สมัยกาญจน์ อายุ 51 ปี และนายสยมภู สมัยกาญจน์ อายุ 28 ปี ทั้งคู่อยู่บ้าน เลขที่ 94/1 หมู่ 13 ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

ตำรวจระดมกำลังติดตามหาตัว 2 พ่อลูกทั้งที่บ้านพักและบ้านญาติๆ หรือสถานที่ซึ่งคาดว่าทั้งคู่จะไปหลบซ่อนอยู่เพื่อหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ยังไม่พบตัว

รุ่งขึ้น พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อม พ.ต.อ.สำเริง ชูกะนันท์ ผกก.สภ.เปลี่ยน และพ.ต.ท.สมชาย มวยดี รอง ผกก.ป. พร้อมชุดสืบสวนได้ประชุมสรุปสาเหตุและสอบปากคำพยานเพิ่มเติม เพื่อรวบรวมหลักฐาน เตรียมขออนุมัติหมายจับนายสมนึก และนายสยมภู สมัยกาญจน์ 2 พ่อลูก จากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งวางแผนติดตามจับกุมตัว

วันที่ 26 ก.ย. พ.ต.ท.สมชายเผยความคืบหน้าว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและได้ไปขอหมายศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อออกหมายจับ ล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับออกมาแล้วทั้ง 2 คนพ่อลูกในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร”

“ส่วนสาเหตุมาจากทวงหนี้แล้วชกต่อยก่อนตามไปยิงจนตาย อย่างไรก็ตามทราบว่าระหว่างผู้ตายและ 2 พ่อลูกนั้นแท้จริงแล้วก็เป็นเครือญาติกัน แต่มาเกิดเรื่องทะเลาะจนยิงกันตายได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมั่นใจว่าจะสามารถจับกุม 2 พ่อลูกมาดำเนินคดีในไม่ช้า” พ.ต.ท.สมชายกล่าว

หลังระดมตั้งด่านสกัดทั่วเมือง สุดท้ายวันที่ 27 ก.ย. ทั้งคู่ก็จนมุม เมื่อพยายามขี่รถจักรยานยนต์ผ่านด่านตรวจบ้านเขาหิน-เขาทราย หมู่ 6 ต.เปลี่ยน อ.สิชล แต่ถูกเจ้าหน้าที่ประจำด่านจดจำได้ว่าเป็นนายสมนึกและนายสยมภู จึงจับกุมตัวไว้ เบื้องต้นทั้งคู่ปฏิเสธที่จะให้การใดๆ ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น จึงถูกคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

มีอะไรก็พูดคุยอะลุ้มอล่วยกัน เพราะความรุนแรงนอกจากไม่แก้ปัญหาแล้วยังมีแต่จะทำให้บานปลายมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน