แฟ้มคดี - ช็อก‘ยาเค’ที่ไม่ใช่‘ยาเค’ ยาบิ๊กล็อตเป็นสารเคมี จี้กระทรวงยุติธรรมตอบ ยอมรับปปส.พลาดเอง

ช็อก‘ยาเค’ที่ไม่ใช่‘ยาเค’ – ช็อกกันไปเลยทีเดียว สำหรับกรณีการตรวจจับยาเคตามีน บิ๊กล็อต 11.5 ล้านตัน ที่ป.ป.ส. เพิ่งตั้งโต๊ะแถลงไปเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ถือเป็นยาเสพติดล็อตใหญ่ที่สูงล็อตหนึ่ง ที่มีมูลค่ากว่า 2.8 หมื่นล้านบาท

ส่งแล็บยูเอ็นตรวจ

ใครๆ ก็คิดว่าเป็นผลงานชิ้นโบแดงของป.ป.ส.อย่างแน่นอน

แต่เมื่อผลตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ กลับพบว่าส่วนหนึ่งเป็นเพียงสารเคมี ไม่ใช่ยาเสพติดดังที่เคยกล่าวอ้าง

ส่งผลให้เกิดการตั้งคำถามว่าอะไรทำให้เป็นเช่นนั้น

ร่ำลือกันไปถึงว่ายาเสพติดล็อตดังกล่าวเป็นของผู้ยิ่งใหญ่ ที่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าแตะต้อง

เมื่อไปเจอ ‘ตอ’ ก็ต้องทำเนียนให้เรื่องสร่างซา หมดกระแส

จน รมว.ยุติธรรมต้องออกมาย้ำเองว่าเป็นเพราะความขาดความรู้ของป.ป.ส.เองทำให้เข้าใจผิด

และประกาศเอาผิดคนที่วิพากษ์วิจารณ์ทำให้เสื่อมเสีย

ก็ต้องดูว่าจะลดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หรือจะสร้างความกังขาให้มากขึ้นกว่าเดิม

ย้อนนาทีแถลงจับคาโกดัง

สำหรับกรณีการจับกุมยาเสพติดบิ๊กล็อตครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 พ.ย. โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรมนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป.ป.ส. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก และ พล.ต.ต.ชาคริต สวัสดี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมแถลงผลการตรวจยึดเคตามีนล็อตใหญ่ที่สุดในประเทศไทย น้ำหนักกว่า 11.5 ตัน

โดยระบุว่าการตรวจยึดยาเคตามีน เป็นการประสานความ ร่วมมือภายใต้โครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) และโครงการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ณ พื้นที่ท่าเรือสากล (Seaport Interdiction Task Force : SITF) ตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) 300 กิโลกรัม ที่ไต้หวัน สืบสวนขยายผลทราบว่าถูกส่งมาจากประเทศไทย ทางเรือ

ตรวจแล้วไม่ใช่เคตามีน

จึงสืบสวนขยายผลขบวนการลักลอบส่งเคตามีน จนกระทั่งพิสูจน์ทราบโกดังเก็บสินค้าที่ ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นเครือข่ายยาเสพติด ภายหลังการตรวจสอบ พบของกลางเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 457 กระสอบ กระสอบละ 25 กิโลกรัม น้ำหนักรวม 11.5 ตัน

ทั้งนี้ถ้าขายปลีก คิดเป็นมูลค่า 28,750,000,000 บาท เคตามีนนั้นจะนิยมใช้ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องราตรียามค่ำคืน เมื่อเสพเข้าไปแล้วจะเกิดอาการประสาทหลอน และทำร้ายระบบของสมอง

ขณะที่เส้นทางการลำเลียงยาเสพติด อยู่ระหว่างการตรวจสอบประเทศต้นทาง เชื่อว่ามีการลำเลียงผ่านบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ จ.เชียงราย ก่อนนำเข้ามาพักที่โกดังแห่งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยเป็นคนไทย 2 คน ทำหน้าที่ในการลำเลียงยาเคตามีนทั้งหมดมาไว้ที่โกดังนี้

จับบิ๊กล็อตที่สุดอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ช็อก‘ยาเค’ดันไม่ใช่‘ยาเค’

อย่างไรก็ตาม หลังการแถลงจับกุมยาเคบิ๊กล็อตผ่านไปร่วม 2 สัปดาห์ ก็ยังไม่มีความคืบหน้า มีเพียงนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป.ป.ส. ที่เปิดเผยความคืบหน้าว่าไม่พบว่ามีแก๊งยาเสพติดชาวไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งก็ไม่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายนัก เพราะยากที่จะเชื่อว่าการขนย้ายยาเสพติดมหาศาลในประเทศไทย จะไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องแม้แต่คนเดียว

รมต.แถลงแจง

จนกระทั่งวันที่ 22 พ.ย. ก็ยิ่งช็อกขึ้นไปอีก เมื่อนายวิชัยเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบของที่คิดว่าเป็นยาเค ที่จับกุมได้ในโกดังริมแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วขนย้ายมาเก็บรักษาไว้ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จำนวน 466 กระสอบ

ตรวจสอบทางเคมีกับของกลางทั้ง 66 กระสอบที่ถูกเปิดไว้ก่อน กลับเป็นสารไตรโซเดียมฟอสเฟต ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร

ยาเคกลับไม่ใช่ยาเคอีกต่อไป!??

ขณะเดียวกันนายวิชัยยืนยันว่าไม่มีใครสับเปลี่ยนของกลาง แต่ที่เชื่อว่าเป็นยาเคก่อนหน้านี้เพราะตรวจสอบกับสารละลายเบื้องต้นพบว่าเป็นสีม่วง เหมือนกับสารละลายที่ทำปฏิกิริยากับเคตามีนเท่านั้น

ทั้งนี้การตรวจยึดเบื้องต้นก็ไม่ได้ยืนยันว่าเป็นเคตามีน เพียงแต่ระบุว่าเป็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายเคตามีนเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เพื่อความโปร่งใส เราได้เชิญหน่วยงานอื่นๆ เข้ามาร่วมตรวจสอบ พิสูจน์หลักฐาน, ป.ป.ส., UNODC และเจ้าหน้าที่จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และส่งตรวจยังแล็บของยูเอ็น

ส่วนที่ล่าช้านั้น เพราะแต่แรกที่ไต้หวันจับกุมตรวจยึดของกลางได้วันที่ 23 ต.ค. ส่งเอกสารให้ไทยลงวันที่ 29 ต.ค. ป.ป.ส.รับเรื่องวันที่ 2 พ.ย. จึงจะสืบสวนหาข้อมูลถึงวันที่ 12 พ.ย. แล้วเข้าตรวจค้นโกดัง พร้อมทำบันทึกการเข้าตรวจค้น

ซึ่งผลการทดสอบสารเคมี ที่พบเบื้องต้นพบเป็นเคตามีนจึงบันทึกเป็นสารคล้ายเคตามีนทุกรายการ โดยมีพยานนำตรวจค้นและตำรวจท้องที่ได้สอบปากคำเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ พฐ.เก็บหลักฐานเป็นที่เย็บปิดปากถุง พร้อมประสานประเทศต้นทางเก็บหลักฐานใบส่งสินค้าและอื่นๆ ซึ่งจะนำมามอบให้ บช.ปส.ภายหลัง

เร่งพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่

สมศักดิ์รับปปส.พลาดเอง

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ซึ่งรับทราบเรื่องการจับกุมยาเค สั่งการในที่ประชุมครม. มอบหมายให้นายสมศักดิ์ไปจัดการเคลียร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนโดยเร็ว เพราะขณะนี้สังคมเกิดความสงสัยและในสื่อออนไลน์มีคนด่ารัฐบาลเต็มไปหมด

จนกระทั่งวันที่ 24 พ.ย. นายสมศักดิ์แถลงยอมรับว่ามีความผิดพลาดทางวิชาการ ในการตรวจสอบภาคสนามจึงทำให้เข้าใจว่าวัตถุดังกล่าวเป็นเคตามีน ป.ป.ส.ไม่เคยพบมาก่อนว่า ไตรโซเดียมฟอสเฟตให้ผลการตรวจเป็นสีม่วง ลักษณะเดียวกับเคตามีน

ตนยอมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และยอมรับผิด เนื่องจากเป็นความผิดพลาดทางวิชาการที่ขาดองค์ความรู้ใหม่ๆ ซึ่งหลังจากผลการตรวจสอบสารดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ถึงที่สุดแล้วก็จะต้องมีคนออกมารับผิดชอบ

บุกจับคาโกดัง

“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับสารตัวนี้ เนื่องจากเป็นสารใหม่และไม่เคยปรากฏขึ้นในประเทศไทยแต่เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ ตนได้ประสาน ให้กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และ ป.ป.ส.ร่วมกันนำวัตถุดังกล่าวไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของแต่ละหน่วยงาน ยืนยันว่าของกลางทั้งหมดไม่ได้หายหรือมีการเคลื่อนย้ายไปไหนทั้งสิ้น และตามระเบียบราชการไม่ได้ให้อำนาจรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องในการเก็บของกลาง”

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม วันที่แถลงข่าว ตนไม่ได้ฟันธง 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเป็นเคตามีน และจากความเข้าใจผิด ทำให้มีการนำข่าวไปเชื่อมโยงจนเกิดความเสียหายกับบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง จึงได้ตั้งคณะทำงานติดตามการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จทางคอมพิวเตอร์ ยันไม่ได้กลั่นแกล้งประชาชนที่แสดงความคิดเห็น

สิ่งที่เป็นผลกระทบต่อกระทรวงยุติธรรมหรือ ป.ป.ส.นั้น ตนยอมรับได้ ผิดก็ต้องยอมรับ แต่การสร้างความสับสนเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น เป็นสิ่งที่ไม่สมควร

เอาผิดกับคนที่กล่าวหาให้ร้าย กระทรวงยุติธรรม!??

ขณะที่ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เคตามีนเป็นสารอินทรีย์ ส่วนสารไตรโซเดียมฟอสเฟตเป็นสารอนินทรีย์ เป็นสารคนละกลุ่ม สารไตรโซเดียมฟอสเฟตเป็นสารอุตสาหกรรมอาหารและยา หรืออุปกรณ์ทำผม ผงซักฟอก ราคาถูก ประเทศไทยผลิตเองไม่ได้ แหล่งผลิตใหญ่ที่สุดคือประเทศจีน

จึงได้ตั้งคำถาม 3 ประเด็นเกี่ยวกับคดีเคตามีนกลายเป็นไตรโซเดียมฟอสเฟต คือ 1.ชุดตรวจมั่วหรือเปล่า 2.เล่นแร่แปรธาตุไหม 3.ขอดูผล Lab GC-MS ได้หรือไม่ เพราะสารไม่เกิดเป็นสีม่วง

เป็นข้อสงสัยทางวิทยาศาสตร์

ได้แต่รอผลล็อตใหญ่อีก 400 กว่ากระสอบ ว่าจะใช่ยาเสพติดจริงหรือไม่

และเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนไหน เป็นการขาดองค์ความรู้อย่างที่รัฐมนตรีระบุหรือไม่

เชื่อว่าสังคมจะจับตามองอย่างใกล้ชิด