ย้อนคดีสยองดอกคำใต้

ชาวนาฉุนกดราคาข้าว

ปืนส่องปลิดชีพพนักงาน : สดจากสนามข่าว

ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม รัฐบาลทุกรัฐบาลมีความพยายามผลักดันให้ไทยขึ้นแท่นเป็นครัวของโลก แต่ภาพความฝันอันหรูหรานั้นมันช่างสวนทางกับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาไทยเสียนี่กระไร

ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง ที่ลงทุนไป ซ้ำร้ายมาเจอกับราคาข้าวที่ต่ำติดดิน แม้จะรู้ว่าขายแล้วขาดทุนก็ต้องจำยอม อย่างนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้ปลดหนี้สิน ได้ลืมตาอ้าปากกันเสียที

ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 พ.ต.ท.ชนะ ศรีวิชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ภายในลานตากข้าวท่าข้าวโชคอุดม 3 ถนนดอกคำใต้-จุน หมู่ 3 ต.ดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา แก่นจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พะเยา พ.ต.อ.พีรพัทธ บุญพุทธ ผกก.สภ.ดอกคำใต้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ดอกคำใต้ และชุดกู้ภัยคุณธรรมแสงทองดอกคำใต้

ที่เกิดเหตุพบศพ นายธรรมนิตย์ เปรมประเสริฐ อายุ 34 ปี เจ้าหน้าที่แจ้งราคาข้าวเปลือกของบริษัทแห่งหนึ่ง สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ เข้าที่บริเวณศีรษะ ใกล้กันพบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ตกอยู่ห่างจากศพประมาณ 2 เมตร ขณะเดียวกันพบ นายสุพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นชาวนาใน ต.ดอกคำใต้ และเป็นผู้ก่อเหตุ ยืนรอมอบตัวอยู่ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยมีอาการคล้ายเมาสุรา ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้สอบสวน แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะหมู่บ้านโดยผิดกฎหมาย

จากการสอบถาม นายน้อย ผู้อยู่ในเหตุการณ์และเป็นพนักงานตรวจสอบคุณภาพข้าวบริษัทเดียวกัน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จนต้องวิ่งหนีกัน และพบว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ก่อเหตุอาจไม่พอใจราคาข้าวเปลือกที่นำมาขายในวันนี้ ซึ่งราคาต่ำกว่าวันที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวมีความชื้นและมีสิ่งเจือปนไม่ได้มาตรฐาน

พ.ต.อ.พีรพัทธกล่าวว่า นายสุพจน์ผู้ก่อเหตุนำข้าวเปลือกมาขายที่ลานตากข้าวดังกล่าว แล้วมีการประเมินราคาต่ำทำให้เกิดความไม่พอใจ จนโต้เถียงกันกับนายธรรมนิตย์ ผู้ตาย ประกอบกับมีอาการเมาสุรามาด้วยจึงใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่ผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ เพื่อส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้านพี่สาวผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า น้องชายตน เป็นคนขยันทำมาหากิน ประกอบอาชีพเป็นทั้งชาวนาและช่าง มีนิสัยที่ อ่อนโยนและช่วยเหลือเพื่อนบ้านและสังคมมาโดยตลอด แต่ที่ตัดสินใจยิงคนตรวจข้าวนั้น คาดว่าจะเป็นการกดดันในเรื่องของการขายข้าว

ตนเองก็รู้มาจากกลุ่มชาวบ้านที่ขายข้าวในพื้นที่ว่ามีปัญหามาโดยตลอด ทั้งที่ข้าวในแปลงเดียวกันใน ภาคเช้าสามารถจำหน่ายได้ แต่ในช่วงบ่ายไม่สามารถจำหน่ายได้ ซึ่งตรงนี้คาดว่าจะเป็นแรงกดดันให้ก่อเหตุดังกล่าว แต่ก็รู้สึกเสียใจที่น้องชายวู่วามจนเกินไป

ขณะที่ชาวนาเพื่อนบ้านนายสุพจน์ ระบุว่า ปีนี้ถือว่าราคาข้าวตกต่ำอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งในทุกปีราคาข้าวหอมมะลิจะอยู่ที่ 13 ถึง 15 บาทแต่มาในปีนี้เหลือเพียง 8 บาทถึง 9 บาท จนทำให้เกษตรกรประสบกับภาวะขาดทุนทุกราย ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาหากทำนาประมาณ 5 ไร่ ก็จะขายข้าวได้เงิน 40,000 ถึง 50,000 บาท แต่มาในปีนี้เหลือเพียง 20,000 บาท ซึ่งประสบกับภาวะขาดทุนเนื่องจากถูกพ่อค้ากดราคาจนทำให้ได้รับความเดือดร้อน และสาเหตุที่มีการยิงกันถือว่าเป็นแรงกดดันจากปัญหาดังกล่าว

ปัญหาการขายข้าวไม่ได้ราคาไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เป็นมาทุกปีเรื่องนี้ทางภาครัฐก็ไม่ได้นิ่งดูดาย นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ กรมการค้าภายใน ตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกตามฤดูกาลที่กำลังออกสู่ตลาด โดยกรมการค้าภายใน โดยล่าสุดนายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและปฏิบัติการ ร่วมกับพาณิชย์จังหวัด ตรวจสอบการรับซื้อข้าวเปลือกของท่าข้าวในพื้นที่ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี พบการกระทำผิดซึ่งถือว่าเป็นการเอาเปรียบชาวนา ใน 3 กรณี คือ 1.ไม่มีหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าว โดยใช้สำเนาหนังสืออนุญาตประกอบการค้าข้าวของที่อื่นมาแสดง 2. การกำหนดราคารับซื้อข้าวเปลือกของผู้ประกอบการ และ 3.ไม่ใช้เครื่องวัดความชื้นในการรับซื้อข้าวเปลือก

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ขอให้ผู้ประกอบการรับซื้อข้าวเปลือกรับซื้อข้าวเปลือกอย่างเป็นธรรมและเกษตรกรต้องระมัดระวัง และดูแลประโยชน์ของตนด้วย หากพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศได้ทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน