เปิดคำสารภาพผัวโหด
ฆ่าเมียสาวโอเกะนาทวี
หมกศพริมถนนที่จะนะ
คอลัมน์สดจากสนามข่าว
เปิดคำสารภาพผัวโหด ฆ่าเมียสาวโอเกะนาทวี หมกศพริมถนนที่จะนะ – ฆ่าเพราะรัก คำพูดที่ขัดแย้งกันอย่าง สิ้นเชิง ก็ในเมื่อรักแล้วทำไมต้องฆ่า
ย้อนไปเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พ.ย. พ.ต.ท.วิระ แก้วมณี สารวัตรสอบสวน สภ.จะนะ จ.สงขลา รับแจ้งพบศพถูกหมกไว้ในพงหญ้าริมถนนสายคูศักดิ์สิทธิ์-อ่าวนาว พื้นที่ หมู่ 5 ต.คู อ.จะนะ จึงร่วมกับ พ.ต.อ. พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ ตำรวจชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) หาดใหญ่
นางมาลี สามา ผู้ตาย
ที่เกิดเหตุพบศพนางมาลี สามา อายุ 50 ปี หรือยายลี เป็นพนักงานที่ร้านคาราโอเกะ ถูกหมกไว้ริมถนนโดยใช้หญ้าคลุมเอาไว้และท่อนบนจมอยู่ในคูน้ำ สภาพเน่าเปื่อย สวมเสื้อสีน้ำเงิน และกางเกงสามส่วนลายดอกไม้
จากการสอบสวนผัวเมีย เจ้าของร้านดอกหญ้า คาราโอเกะ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 10 กิโลเมตร ทราบว่าผู้ตายหายออกไปจากร้านตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมาโดยสามีเป็นคนรับออกไป
สองผัวเมียเล่าว่า ในคืนที่หายไปสามี ชื่อเล่นว่า ลิต ได้มาที่ร้าน และสั่งเบียร์กิน 4 ขวด จากนั้นได้รับนางมาลีขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านไป ต่อมาในช่วงตีสาม สามีก็ได้โทรศัพท์มาที่ร้านถามหายายลีว่ากลับมาหรือยัง ซึ่งภรรยาเจ้าของร้านก็บอกว่ายัง
Advertisement
หลังจากที่ยายลีหายไป พวกตนก็พยายามโทร.ไปถามตลอดว่ายายลีไปไหนทำไมไม่มาทำงาน แต่ก็ปฏิเสธว่าไม่ทราบ จึงได้ขู่จะเข้าแจ้งความถ้าไม่บอกความจริง สุดท้ายก็ปิดมือถือหายไปติดต่อไม่ได้อีกเลย เลยคิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับยายลี จึงได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.นาทวี เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา
พาชี้ที่โอเกะ
ตํารวจตามไปที่บ้านของนายชลิต แก้วนุ่น อายุ 50 ปี สามี ซึ่งอยู่ที่บ้านน้ำขาว ต.น้ำขาว อ.จะนะ แต่ก็ไม่พบ ขณะที่ผลการชันสูตรศพของแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ออกมาแล้ว พบว่าถูกฆาตกรรมโดยพบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมที่ศีรษะ 1 แผล ซึ่งน่าจะเป็นบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิต
“คดีไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อน เพราะจากการสอบสวนพบว่า ทั้งคู่ทะเลาะกันเป็นประจำในคืนเกิดเหตุ นายชลิตไปรับนางมาลีกลับไปอยู่ที่บ้าน โดยบอกว่าได้ขายที่ได้เงินนับแสนบาทและจะพาไปอยู่ด้วยกัน จุดที่พบศพก็เป็นเส้นทางกลับบ้านพักของนายชลิต ส่วนจะเป็นการวางแผนมาก่อนหรือไม่นั้นยังไม่สามารถบอกได้ ต้องรอให้ติดตามตัวนายชลิตมาสอบสวนเสียก่อน” พ.ต.อ.พชรพลกล่าว
พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ และ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ เดชประมวล รองผกก.สส.สภ.จะนะ สั่งให้ตำรวจแกะรอยผัวโหด กระทั่งเวลา 16.00 น. วันที่ 28 พ.ย. ก็สามารถติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ขณะนั่งรถตู้เดินทางออกจาก อ.เมือง จ.สงขลา ปลายทาง จ.บึงกาฬ
จุดเกิดเหตุ
จากการสอบสวนนายชลิตสารภาพว่าทำไปเพราะบันดาลโทสะ และความหึงหวงผู้ตายที่เป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ มักหายไปนานหลายๆ วัน ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน และหึงหวงกลัวว่าจะมีชายอื่นมาติดพัน จึงคิดที่จะหาทางแก้
คืนวันเกิดเหตุขับรถจักรยานยนต์ไปที่ร้านคาราโอเกะ และดื่มกินกับผู้ตาย ก่อนที่จะพาผู้ตายกลับบ้านพักด้วยกันในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว อ.จะนะ แต่ระหว่างทางก่อนถึงบ้านนั้น กำลังจะแวะไปยังบ้านของหมอผีหรือหมอไสยศาสตร์ที่อยู่ใกล้กัน เพื่อให้ผู้ตายกินน้ำมนต์ และทำพิธีทางไสยศาสตร์ เพื่อความสบายใจ และให้ผู้ตายรักหลงตน ไม่นอกใจ กลับมาอยู่กินกับตนเหมือนเดิม
คุมทำแผน
ปรากฏว่าก่อนถึงบ้านหมอผีราว 2 กิโลเมตร ตรงจุดเกิดเหตุที่พบศพ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน และผู้ตายคว้ามือซ้ายมากัดถูกเข้าที่หัวแม่มือ จึงเกิดการใช้กำลังกันขึ้น ตนเลยใช้มีดพกที่ติดตัวมาด้วยปาดคอผู้ตาย 1 ครั้ง แล้วแทงเข้าที่หัวอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นได้กระหน่ำแทงตามร่างกายอีกหลายแผลด้วยความบันดาลโทสะ ก่อนที่จะทิ้งศพไว้ในพงหญ้าข้างทาง แล้วขับรถพามีดไปทิ้งในลำคลองบ้านต้นไทร ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร และ ขับรถกลับบ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว ที่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร พร้อมกับนำกระเป๋าสะพายของผู้ตายไปเผา และนำเสื้อผ้าของตนเองที่เปื้อนเลือดไปซัก และอยู่บ้านทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นายชลิต แก้วนุ่น ไหว้ขอขมา
กระทั่งหลังจากนั้นเมื่อมีชาวบ้านไปพบศพ และกลายเป็นข่าวดังเมื่อช่วงวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านเพื่อนในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา อยู่ 2 วัน และวันที่ 28 พ.ย. จึงตัดสินใจขึ้นรถตู้ออกจาก จ.สงขลา เพื่อเดินทางหลบหนีไปหาเพื่อนอีกคนที่ จ.บึงกาฬ เพื่อกบดานต่อที่นั่น แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตามมารวบตัวได้ในที่สุด
เพราะตีความความรักไปคนละทาง สุดท้ายจึงกลายเป็น เรื่องราวสยอง!
โดยอนงค์ วงศ์ช่วย
เรื่อง/ภาพ
