คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ซัลโวผิดตัว – “ยิงใคร!!? เพราะแฟนใหม่ยังนั่งกินข้าวกันอยู่ต่อหน้าตรงนี้”
เสียงอดีตเมียเก่าที่ผ่านลำโพงโทรศัพท์ มือถือทำให้หนุ่มวัย 32 ถึงกับตัวค้างแข็งในฉับพลัน
ย้อนกลับไปไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น เวลา 19.00 น. วันที่ 30 พ.ย. พ.ต.ต.จันติ วรรณูปถัมภ์ สว.(สืบสวน) สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บภายในซอยข้างตลาดนัดมาบยางพร ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง
หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานบก.ภ.จว.ระยอง แพทย์โรงพยาบาลปลวกแดง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยปลวกแดง
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บห 5090 ระยอง จอดคาอยู่บนถนน ท่ามกลางบรรดาไทยมุงจำนวนมาก
ตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อกันชาวบ้านออกห่างแล้ว พบรถคันดังกล่าวมีรอยกระสุนปืนยังเจาะเข้ากระจกประตูฝั่งคนขับ 3 รู กระจกแตกร้าวทั้งบาน
Advertisement
บริเวณเบาะที่นั่งคนขับพบร่าง นายสาคร ขันคงลิง อายุ 37 ปี คนขับ ที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลท่วมตัว เพราะคมกระสุนเจาะเข้าลำตัว เจ้าหน้าที่รีบนำออกจากรถรีบช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลปลวกแดงทันที ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
รอยกระสุนเจาะเข้ากระจกประตู
สอบสวนเพื่อนผู้บาดเจ็บทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสาครกำลังขับรถไปกินหมูกระทะกับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คน ที่ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายล่วงหน้าไปก่อนแล้ว เมื่อขับรถถึงจุดที่เกิดเหตุ จู่ๆ มีคนร้ายเป็นชาย ขี่รถจักรยานยนต์ประกบรัวยิงได้รับบาดเจ็บ ก่อนขี่รถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงโทรศัพท์ให้เพื่อนย้อนกลับมาช่วยเหลือ และแจ้งเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
ตร.สอบพยานและเพื่อนผู้บาดเจ็บ
ขณะที่นายสาครยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ที่สำคัญไม่เคยรู้จักกับมือปืนมาก่อน
เจ้าหน้าที่จึงรีบวิทยุแจ้งตำรวจทุกหน่วยในสังกัดให้สกัดจับรถต้องสงสัย ขณะที่ฝ่ายสืบสวนกระจายกำลังออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุและโดยรอบ เพื่อหาเบาะแสและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย
ขณะที่ตำรวจกำลังตรวจเก็บหลักฐาน และสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็มี นายสุรพล ชุ่มวมล อายุ 32 ปี ชาวต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดไม่ไกล จากนั้นเดินถืออาวุธปืนขนาด .22 เข้ามอบตัว ประกาศว่าเป็นมือปืนที่ก่อเหตุ
นายสุรพล ชุ่มวมลมอบตัวยิงผิดตัว
เรื่องดังกล่าวทำให้ตำรวจและบรรดาไทยมุงต่างชะงักไปชั่วขณะ เพราะไม่รู้ว่ามาเล่นมุขไหน
แต่เจ้าหน้าที่ก็ตรวจยึดอาวุธปืนและควบคุมตัวไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่สภ.ปลวกแดง
นายสุรพลก้มหน้ารับสารภาพว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมเผยต้นสายปลายเหตุทั้งหมดว่า เพิ่งเลิกรากับอดีตภรรยาได้ไม่นาน แต่รู้ระแคะระคายว่าอดีตเมียรักไปมีคนรักใหม่จึงเกิดความหึงหวง
ก่อนเกิดเหตุเห็นรถของผู้บาดเจ็บขับผ่านก็จำผิดคิดว่าเป็นรถกิ๊กใหม่ของอดีตเมีย จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไปจนสบโอกาสในช่วงปลอดคนชักอาวุธปืนประกบรัวยิงไม่ยั้ง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หนีไป
ขณะอิ่มเอมเปรมใจที่ทำร้ายอริหัวใจได้ ก็โทรศัพท์ไปเยาะเย้ยเมียเก่าว่า “ยิงกิ๊กแล้ว”
แต่แทนที่จะได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความแตกตื่นตกใจ อีกฝ่ายกลับถามอย่างงงๆ ไม่เข้าใจ ว่า “ยิงใคร? ยิงบ้าอะไร! เพราะแฟนใหม่ยังนั่งกินข้าวกันอยู่ต่อหน้าตรงนี้”
“ตอนนั้นผมรู้ว่ายิงผิดคนจึงย้อนกลับมามอบตัว เพื่อยอมรับผิด และขอโทษคนที่ถูกยิงด้วย” นายสุรพลสารภาพด้วยเสียงเศร้าสร้อย
เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวดำเนินคดี 2 ข้อหาหนัก คือ พยายามฆ่า และมีปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดเกิดเหตุ พร้อมส่งตัวฝากขังต่อศาลในวันถัดมา
ไอ้หนุ่มหมาหวงก้างรายนี้ต้องระเห็จเข้าไปใช้ชีวิตในคุกเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบที่ถูกความหึงหวงเข้าครอบงำจนก่อเหตุร้ายแรง
แต่คนที่ต้องไปรดน้ำมนต์ล้างซวยขนานใหญ่ไม่พ้นเหยื่อปืน นับว่าโชคยังดีที่ไม่ถึงกับต้องเอาชีวิตไปทิ้งโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ อะไรด้วย
ชยพล ปัญญาวิศิษฎ์กุล
