คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนเหตุตร.ไล่ล่าระทึกท่ามกลางคำชื่นชมของต่างชาติที่มีต่อรัฐบาลไทย หลังเป็นที่ประจักษ์ว่ามาตรการที่ถูกนำมาใช้สามารถควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ในระดับดี

แต่ก็ต้องแลกมาด้วยเศรษฐกิจที่ดิ่งลงเหวชนิดยังไม่เห็นแสงปลายอุโมงค์ และเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในรูปแบบตัว Kเชฟ ไม่ใช่ Vเชฟ ไม่ใช้ Uเชฟ อย่างที่หวังหรือคาดการณ์เอาไว้

การฟื้นตัวแบบ Kเชฟ หมายถึงจะมีคนที่ไม่ได้ไปต่อ บางคนไม่สามารถกลับมายืนยังจุดที่เดิมก่อนโควิดได้ และบางคนที่ชีวิตยิ่งกว่าดิ่งลงเหว

คุมตัวทำแผนฯ

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. เมื่อ ร.ต.อ.จรยุทธ บุญทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ที่ห้างทองมังกรเยาวราช ภายในห้างเทสโก้โลตัส สาขาปากเกร็ด ในตลาดปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด ไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการรุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.นภธร วาขัยยุง รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.พรรษา จิวรรักษ์ สว.สส. พ.ต.ต.พรนารายณ์ แสงทอง สวป. สภ.ปากเกร็ดและกำลังชุดสืบสวน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณชั้นล่างของห้างพบ น.ส.อารีรัตน์ กลิ่นจันทร์ อายุ 21 ปี พนักงานขาย รอให้ปากคำด้วยอาการ ตื่นตระหนก พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างสูงใหญ่ ผิวดำแดง สวมเสื้อสีดำคลุมทับด้วยเสื้อแขนยาวสีแดง-เทา เข้ามาทำทีท่าขอซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 10 บาท 1 เส้น จึงหยิบสร้อยคอตามที่คนร้ายต้องการ แต่พอดูได้สักพัก คนร้ายเปลี่ยนใจบอกว่าเงินมีไม่พอ ก่อนที่คนร้ายจะขอไปกดเงินที่ ตู้เอทีเอ็ม

นาทีเผ่น

สักครู่ชายดังกล่าวก็เดินกลับมาแล้วขอดูสร้อยคอหนักเส้นละ 5 บาท กับ 3 บาท อย่างละ 1 เส้น จากนั้นได้ลองสวมใส่ที่คอ ก่อนจะวิ่งออกไปจากร้าน ตนจึงวิ่งตามและตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชนที่เดินอยู่หน้าห้างให้ช่วยจับคนร้าย

ขณะนั้น ร.ต.ต.นพดล ปัญญาครอง รอง สว.จร.สภ.ปากเกร็ด ที่ปฏิบัติหน้าที่การจราจรอยู่ใกล้เคียงได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจึงได้วิ่งติดตามคนร้าย กระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้ภายในโรงเรียนปากเกร็ด ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 100 เมตร พร้อมสร้อยคอของกลางทั้ง 2 เส้น มูลค่า 2.2 แสนบาท

โดยระหว่างถูกจับกุมตัวนายอรรถกรมีอาการจุกเสียด แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องช่วย ปฐมพยาบาลแล้วนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย

หนีจนลมจับ

หลังได้รับการปฐมพยาบาลจนดีขึ้น นายอรรถกร ศรีเวียง อายุ 36 ปี คนร้ายก็ให้การว่า เป็นชาว ต.หนองผอ อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยเปิดธุรกิจร้านนวดน้ำมัน ในย่านปากเกร็ด หลังจากเกิดโควิด-19 ประสบสภาวะขาดทุน ทุกเดือน จึงเลิกกิจการ และไม่มีงานทำ ก่อนหน้านี้ได้เอาสร้อยคอหนัก 2 บาท ของภรรยาไปจำนำ แต่ไม่มีเงินไถ่คืน

ไปไม่รอด

ก่อนก่อเหตุได้ขี่รถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ทีทีเอ็กซ์ สีแดง-เทา หมายเลขทะเบียน 1กผ 9259 กทม. จอดไว้ที่ลานจอดหลังห้าง ก่อนเข้าไปในห้างเทสโก้โลตัส เดินผ่านร้านทองจึงคิดวางแผนก่อเหตุ หวังเอาไปขายเอาเงินซื้อสร้อยทองคืนภรรยา ส่วนที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่าย แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด

สอบพยาน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอรรถกรไปร้านทองเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยทางพนักงานของร้านทองยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุพร้อมมอบภาพวงจรปิดที่บันทึกได้ให้เจ้าหน้าที่เป็นหลักฐาน ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “วิ่งราวเอาทรัพย์สินผู้อื่น” ก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับร้านทองแห่งนี้เพิ่งถูกคนร้ายวิ่งราวแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง ไปเมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหลังก่อเหตุได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้ทันควัน

คนเราเมื่อจนตรอกจริงๆ หากจิตใจไม่หนักแน่น เพียงลม วูบเดียวก็เปลี่ยนชีวิตไปได้ตลอดกาล

 

สันติ ประหร่ำภากรณ์

ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน