คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีเซียนพระหัวร้อน – ด้วยความที่เป็นเพื่อนรุ่นน้อง นายภูณพณษวัส หรืออาร์ท สำเภาทอง อายุ 37 ปี จึงยอมลงให้ทุกครั้งที่ถูกรุ่นพี่พูดแขวะถากถางว่าเป็นเซียนพระเก๊ แต่ความอดทนของคนย่อมมีที่สิ้นสุด

ย้อนไปเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 ธ.ค. 2563 ร.ต.อ.นวพรรษ ธิดา รองสารวัตร (สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต บริเวณลานจอดรถที่ร้านอาหาร ป.กุ้งเผา สาขาปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี ขาออก แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม.

จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต. เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รอง ผบก.น.7 พ.ต.ท.ฐิติวุธ ร่อนแก้ว รอง ผกก.ป.สน.บางยี่ขัน และฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่ขัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (สพฐ.ก.) แพทย์แผนกนิติเวช ร.พ.ศิริราช และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหลังร้าน ป.กุ้งเผา สาขาปิ่นเกล้า พบศพนายดำรงค์ ทวีเขตต์ อายุ 49 ปี อาชีพพ่อค้า ผลไม้ ภายในซอยร.พ.เจ้าพระยา ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ สภาพสวมเสื้อยืดเเขนสั้นสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าผ้าใบสีเหลือง มีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอก 2 นัด นอนหงายจมกองเลือด ใกล้ศพพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติเวช ร.พ.ศิริราช เพื่อรอทางญาติมาติดต่อรับศพต่อไป

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ที่ลานจอดรถดังกล่าว เห็นชายอายุประมาณ 30 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์วิ่งเข้าไปหาผู้ตาย จากนั้นเวลาไม่นานทั้งคู่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันขึ้น ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังสนั่นไม่ต่ำกว่า 4 นัด พยานจึงรีบก้มตัวต่ำหลบเอาชีวิตรอด โดยไม่ทันเห็นว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้นจึงเข้าไปดูก็พบผู้ตายนอนจมกองเลือดแล้ว

พล.ต.ต.เอกชัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถและสอบถามพยานแวดล้อมภายในร้านทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาเที่ยวดื่มสังสรรค์ที่ร้านอาหาร ป.กุ้งเผา แต่บังเอิญพบกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นรุ่นน้องที่รู้จักและเคยมีปัญหาขัดแย้งเรื่องบางอย่าง หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินออกจากร้าน แล้วขี่รถจักรยานยนต์ออกไป ก่อนจะย้อนกลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้ง และคอยดักรอผู้ตายเพื่อเคลียร์ปัญหากัน แต่คงพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ผู้ก่อเหตุจึงชักอาวุธปืนยิงใส่ผู้ตาย

ต่อมาเวลา 13.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 พ.ต.อ.สุวัฒน์ เกิดแก้ว รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รอง ผบก.น.7 รรท.ผกก.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.อานันท์จักร์ กนกนพวัชร์ รอง ผกก.สส.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.อภิชาต กาฬภักดี สว.สส.สน.บางยี่ขัน ชุดสืบสวนสน.บางยี่ขัน และชุดสืบสวนบก.น.7

ร่วมกันแถลงจับกุมนายภูณพณษวัส หรืออาร์ท สำเภาทอง อายุ 37 ปี พร้อมของกลางเครื่องกระสุนปืน 5 นัด เสื้อยืดสีเทา 1 ตัว กระเป๋าหนังสีน้ำตาล 1 ใบ จับกุมบริเวณถนนหน้าวัดบัวขวัญ 1 หมู่ 9 ซ.งามวงศ์วาน ถ.งามวงศ์วาน ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

พล.ต.ต.เอกชัยเปิดเผยว่า นายภูณพณษวัส หรืออาร์ท เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุยิง นายดำรงค์ ทวีเขตต์ อายุ 49 ปี จนเสียชีวิตคาลานจอดรถด้านหลังร้าน ป.กุ้งเผา สาขาปิ่นเกล้า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ชุดสืบสวน สน.บางยี่ขัน และชุดสืบสวน บก.น.7 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ กระทั่งได้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และในร้านอาหารยืนยันตรงกันว่าคือนายภูณพณษวัส โดยหลังเกิดเหตุพบว่าหลบหนีไปอยู่บริเวณหน้าวัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี

นายภูณพณษวัสให้การในเบื้องต้นว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง สาเหตุมาจากที่ตนประกอบอาชีพรับเช่าพระ แต่ถูกผู้ตายมักชอบพูดจาถากถางเรื่องที่รับเช่าพระเก๊ ทำให้เสียความรู้สึก ทุกครั้งที่ดื่มสุราพอเมาก็จะแขวะตลอด จนกระทั่งวันที่เกิดเหตุไปกินเหล้าในร้าน ป.กุ้งเผา สาขาปิ่นเกล้า พบกับผู้ตายและมีปากเสียงรุนแรงในร้านจนรปภ.เชิญตัวออกมา ด้วยความแค้นจึงกลับไปที่ห้องพัก นำอาวุธปืนกลับมายิงผู้ตายเสียชีวิต ขณะที่ยืนอยู่บริเวณลานจอดรถ

พ.ต.ท.อานันท์จักร์เผยรายละเอียดการติดตามจับกุมเพิ่มเติมว่า ชุดสืบสวนได้มีการเรียกประชุมแผนการสืบสวนเพื่อเร่งตรวจสอบข้อมูลเส้นทางหนีของคนร้ายจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้ใช้เส้นทางถนนราชพฤกษ์ข้ามสะพานพระราม 5 ตามคำบอกเล่าผู้ต้องหาได้จอดรถไว้และนำโทรศัพท์ไปทิ้ง ก่อนที่จะหลบหนีไปบ้านญาติที่อยู่ใกล้กับทาง วัดบัวขวัญ จากนั้นนำอาวุธปืนไปทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสะพานพระราม 7

ส่วนประเด็นความขัดแย้งคาดว่าจะเป็นเหตุการซื้อขายพระ ทำให้ผู้ตายชอบพูดจาถากถางต่อหน้าเพื่อนๆ มาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี เกี่ยวกับการรับเช่าพระเก๊ ขณะเกิดเหตุนายภูณพณษวัสอ้างว่าเกิดบันดาสโทสะก่อเหตุดังกล่าว

เพราะยึดติดกับคำว่า “ลูกผู้ชายฆ่าได้ แต่หยามไม่ได้” สุดท้ายก็ต้องระเห็จไปชดใช้ความผิดในคุก

 

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี
สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน