คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ปิดคดีอุ้มนักธุรกิจจีน – บ่ายวันที่ 9 ธ.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (สด.) แถลงผลการสืบสวนจับกุม นายสมบูรณ์ หรือ ม่อน, นายสุชาติ หรือ เอส, นายวันชัย หรือ ชัย, นายวรพงศ์ หรือ เมฆ และชายชาวจีนสัญชาติมาเลเซีย รวม 5 คน
ในคดีที่ทั้งหมดร่วมกันลักพาตัวนายเฉิน เล่ย หรือลูคัส อายุ 43 ปี นักธุรกิจชาวจีน เรียกค่าไถ่ จำนวน 15 ล้านบาทในพื้นที่สุขุมวิท พร้อมของกลาง รถยนต์มิตซูบิชิแชมป์ สีขาว ทะเบียน กพ 800 นนทบุรี บัตรกดเงินสดและสมุดบัญชีธนาคาร และโทรศัพท์มือถืออีกหลายเครื่อง มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท
คดีนี้เป็นที่รับรู้ของสังคมภายหลังนักร้อง-นักแสดงสาว น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์ โพสต์ในอินสตาแกรมว่า มีผู้หญิงถูกลักพาตัว 4 คน บริเวณสุขุมวิท 39 เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้มีการสืบสวนติดตามคนร้ายกันอย่างเงียบๆ มาก่อนหน้า นั้นแล้ว
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ เผยที่มาที่ไปของคดีนี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากนายเกรียงไกร ใจคำ ว่านายเฉิน เล่ย หรือลูคัส เพื่อนนักธุรกิจถูกอุ้มหายตัวไปจากซอยสุขุมวิท 39 เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 โดยกลุ่มคนร้ายได้ติดต่อเรียกเงินค่าไถ่ 15 ล้านบาท จากนาย เชา ตัง ยิน อายุ 43 ปี สัญชาติมาเลเซีย อาชีพไกด์ เพื่อแลกกับชีวิตของนายลูคัส
หลังรับแจ้งตำรวจสด.สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้ายได้ลักพาตัวนายลูคัสขึ้นรถยนต์ส่วนตัว มิตซูบิชิ แชมป์ สีขาว ใช้กระดาษติดอำพรางแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าและด้านหลัง
ต่อมาสืบทราบว่ารถคันดังกล่าวถูกนำไปหลบซ่อนอยู่ที่รีสอร์ต แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นกระทั่งพบผู้ต้องหา และช่วยเหลือ นายลูคัสได้อย่างปลอดภัย
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า นายลูคัส ซึ่งเป็นนักธุรกิจสปาหลายแห่งในกรุงเทพฯ และเป็นผู้ว่าจ้างให้นายสุชาติ ที่เป็นผู้รับเหมาเข้ามาตกแต่งภายในสปา แต่เกิดผิดสัญญาเรื่องการก่อสร้าง มีปัญหาเรื่องเงิน จนทำให้กลุ่มผู้ต้องหาไม่พอใจ ประกอบกับผู้ต้องหาไกด์ชาวมาเลเซียที่มีปัญหากับผู้เสียหายอยู่ก่อนแล้วและถูกโกงเงินไปกว่า 10 ล้านบาท จึงได้วางแผนกับกลุ่มผู้รับเหมาให้ร่วมก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนจับกุมตัวโดยพบว่าคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เป็นชาวเมียนมา ทำหน้าที่อุ้มวันแรกที่ยังหลบหนี
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ยังยึดของกลางบัตรกดเงินสดของผู้เสียหายซึ่งถูกคนร้ายนำไปกดออกมาใช้ร่วมกว่า 1 ล้านบาท นำไปซื้อสร้อยคอทองคำ แมคบุ๊ก เครื่องเสียง และส่วนหนึ่งได้นำมาแบ่งกัน เบื้องต้น แจ้งข้อหา ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลอื่นเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ และร่วมกันปล้นทรัพย์
ส่วนกรณีนักร้อง-นักแสดงสาว น้ำชาชีรณัฐ ยูสานนท์ โพสต์ใน อินสตาแกรมว่ามีการอุ้มผู้หญิงน่าจะเข้าใจผิด เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. และสืบสวนขยายผลจนจับกุมกลุ่มคนร้ายดังกล่าวได้ในวันที่ 8 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ดาราสาวนำเสนอข้อมูล ทั้งนี้ก็ต้องขอบคุณเจ้าตัวด้วย
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่สน.ทองหล่อ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คือ 1.นายสมบูรณ์ หรือม่อน และนายวันชัย หรือชัย มาสอบปากคำเพิ่มเติม นายสมบูรณ์กล่าวว่า มีเรื่องจะพูดมากมาย อยากชี้แจงว่าตนไม่ผิด ไม่มีใครจ้าง สาเหตุคือ โดนโกงค่าแรงหลายบาท และต้องการเงินคืนเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย เพียงแค่จับไปคุย โดยเหตุการณ์นี้ทำขึ้นเพียงแค่ 3-4 คน ไม่ใช่ 7 คนตามที่เป็นข่าว
ด้านนักร้องนักแสดงสาว น้ำชา ชีรณัฐ ได้เปิดแถลงข่าวที่ร้าน Emmie’s พระราม 9 ชี้แจงถึงเจตนาที่โพสต์เฟซบุ๊กเตือนภัยว่าได้ข้อมูล มาจากเว็บไซต์หนึ่งที่คนต่างประเทศเขียน เป็นบทความภาษาอังกฤษแล้วเราก็แปลมาอีกทีนึง พออ่าน เราเป็นผู้หญิงก็ตกใจ ทุกคนต้องตกใจ อยู่ๆ มาโดนอุ้มตอนกลางวันแสกๆ เลยโพสต์เพื่อเตือนให้ประชาชน ทุกคนระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็ก คนแก่ เลยแชร์ไปเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนระวังตัว ไม่ประมาทเท่านั้นเอง และได้พูดคุยกับเพื่อนตำรวจด้วย เพราะอยากช่วยคนที่โดนอุ้ม เมื่อได้รับการยืนยันจากเพื่อนตำรวจ
“ชาอยากฝากทุกๆ คนให้ระมัดระวัง และช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับประชาชนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อน คนรักทุกคน ช่วยกันเป็น กระบอกเสียงด้วยแล้วกันค่ะ อะไรที่เตือนได้ก็เตือนกัน” น้ำชากล่าว