คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ย้อนคดีระทึกร้านข้าวต้ม – ภาพเหตุการณ์ 2 ชายหนุ่มทะเลาะวิวาทกับคู่กรณีในร้านข้าวต้ม ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อชายสูงอายุ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเพื่อไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวถูกเผยแพร่ออกสู่โลกโซเชี่ยล เพราะพฤติกรรมที่ไม่มีความยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา เจ้าของพื้นที่ถึงกับนั่งไม่ติด ต้องรีบลงพื้นที่สืบสวนหาข้อมูลกระทั่งสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุอุกอาจได้ในเวลาเพียงแค่วันเดียว
ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ได้มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ชายกร่าง ชักปืนขู่ภายในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่ง ริมถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 เขตประเวศ กทม. ซึ่งเป็นคลิปภาพชายสวมเสื้อสีดำ แสดงท่าทางจะเข้าไปทำร้ายชายอีกคน โดยมีเพื่อนชายและหญิงที่มาด้วยกัน และคนที่อยู่ในร้าน พยายามเข้าไปช่วยห้ามปราม และบอกให้ใจเย็น ซึ่งในภาพจะเห็นชายเสื้อดำอีกคนเหน็บอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดไว้ในกระเป๋าด้านหลังกางเกงที่สวมใส่อยู่ ก่อนชักปืนออกมาส่ายไปมาทั่วร้าน จากนั้นจึงเก็บปืนและมีหญิงสาวที่มาด้วยกันก็เข้ามา พาตัวออกนอกร้านไป
จากการสอบถาม นายศิริชัย เดชา อายุ 71 ปี เจ้าของร้านข้าวต้มที่เกิดเหตุ เล่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.42 น. วันที่ 6 ธ.ค. ก่อนเกิดเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุ 3 คน มีชาย 2 คน ผู้หญิง 1 คน ได้เข้ามาสั่งอาหารและนั่งโต๊ะที่ติดกับริมถนน ส่วนกลุ่มคู่กรณีมา 3 คน นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามภายในร้าน ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้พูดจาในลักษณะก่อกวน แต่ตนทำเป็นไม่สนใจและเดินหนีออกมา
“ช่วงจังหวะเดียวกันที่ชายกลุ่มคู่กรณีได้เดินออกมาสูบบุหรี่ด้านข้างร้าน เมื่อผมหันมาอีกทีก็เห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าไปชกต่อยกับชายคู่อริแล้ว ระหว่างนั้นเพื่อนของชายที่ก่อเหตุได้ชักอาวุธปืนออกมา ทำให้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้านต่างพากันวิ่งกระเจิงชุลมุน ผมจึงเข้าไปห้ามปรามเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาท แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ยอม ก่อนจะชักอาวุธปืนขึ้นมาขู่อีกครั้งในลักษณะส่ายไปส่ายมา จากนั้นผู้หญิงที่มาด้วยกันกับผู้ก่อเหตุก็ได้เข้ามาห้ามปรามและพาตัวออกนอกร้านไป” นายศิริชัยเจ้าของร้านข้าวต้มกล่าว
นายศิริชัยให้การอีกว่า ช่วงระหว่างเกิดเหตุชายคนที่มีอาวุธปืนได้ชักปืนขึ้นมาถึง 3 ครั้ง ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องแล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขึ้นรถจักรยานยนต์ 2 คัน ไม่ทราบรุ่นและสี ขับหลบหนีไป ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นตนคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งใจที่จะเข้ามาหาเรื่องที่ร้าน
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ธ.ค. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ. ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบก.น.5 รรท.ผกก.สน.บางนา ว่า พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางนา และ ร.ต.อ.พิทักษ์ มีจิตร์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลบางนา จับกุมนายโชคอนันต์ หรือ โชค เศรษฐี อายุ 34 ปี เป็นคนที่ชักอาวุธปืน จ่อศีรษะ และ นายพรเทพ หรือ หรั่ง แซ่ลิ้ม อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ ก่อเหตุดังกล่าวข้างต้น
ซ้าย – นายพรเทพ หรือหรั่ง แซ่ลิ้ม
ขวา – นายโชคอนันต์ หรือโชค เศรษฐี
พร้อมของกลางรองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อคอนเวิร์ส รุ่นแจ๊ค สีดำ จำนวน 1 คู่ เสื้อยืดคอกลม สีดำ ด้านหน้ามีลวดลายรูปดาว และพิมพ์อักษร U.S.ARMY AIR FORCE จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว กระเป๋าผ้าคาดอก สีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ สิ่งเทียมอาวุธปืน (บีบีกัน) จำนวน 1 กระบอก รองเท้าผ้าใบ ยี่ห้อโกลด์ซิตี้ สีดำ จำนวน 1 คู่ เสื้อยืดคอกลม สีดำ ด้านหน้ามีลวดลายบ๊อบมาเล่ย์ จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว ยี่ห้อลีวายส์ สีสนิม จำนวน 1 ตัว โดยทั้ง 2 รายเดินทางมามอบตัวที่ สน.บางนา
ร้านข้าวต้มที่เกิดเหตุ
พกปืนหรา นาทีปืนจ่อ
ทั้งนี้ตำรวจสืบทราบจนรู้ว่าผู้ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทในร้านข้าวต้ม ย่าน ซ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ก่อนมีการชักปืนขึ้นมาข่มขู่ลูกค้าในร้านและเจ้าของร้านเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. โดยตรวจสอบจากคลิปและสืบสวนติดตามตัว จนทางผู้ต้องหาประสานขอเข้ามอบตัวที่สน.บางนา
ภายหลังการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างนั่งในร้านอาหารแห่งนี้ นายพรเทพ หรือหรั่ง ได้มีเรื่องชกต่อยกับทางคู่กรณีเพราะถูกมองหน้า ประกอบกับความเมาสุรา ทำให้นายโชคอนันต์ หรือโชค ได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือเพื่อน จึงชักอาวุธปืนบีบีกันขึ้นมาข่มขู่ก่อนแยกย้ายกันไป
พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นปัญหาทะเลาะวิวาทส่วนตัว โดยอาวุธปืนที่ใช้อ้างว่าเป็นปืนบีบีกัน อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการสอบสวน พร้อมตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ข่มขู่ให้คนอื่นตกใจกลัว” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แม้จะอ้างว่าเป็นปืนปลอม แต่พฤติกรรมเอามาข่มขู่เช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องควรเอาเป็นตัวอย่าง เพราะหากเจอกับคู่กรณีที่มีปืนจริงๆ เรื่องคงไม่จบลงเช่นนี้
