คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
นาทีจับ‘เสี่ยแพร’เงินกู้ – อาชีพปล่อยเงินกู้นอกระบบ อาชีพสีเทาที่หากินบนความทุกข์ร้อนของผู้อื่น เพราะด้วยดอกเบี้ยมหาโหด หากไม่ถึงกับจนตรอกจริงๆ แล้วคงไม่มีใครหน้ามืดไปขอกู้เงินมาเป็นแน่
บ่ายวันที่ 15 ธ.ค. ตำรวจชุดสืบสวน โรงพักเมืองขอนแก่น นำโดย พ.ต.ท.สุกฤษฏิ์ พุทธิทัยธีรธร สว.(สส.) พร้อมหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าจับกุมนายธเนศ เปล่งคำ หรือ เสี่ยแพร อายุ 42 ปี
ภายในห้องพักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ หลังตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ พีอาร์สาว ภายในสนามฟุตบอลหญ้าเทียม เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยกล้องวงจรปิดของสนามสามารถบันทึกนาทีลงมือโหดเอาไว้ได้
นาทีลงมือโหด
ขณะที่น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี หญิงสาวที่ถูกทำร้ายร่างกาย ย้อนเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยรับว่าตนกู้ยืมเงินจำนวน 130,000 บาท จากนายแพรชายที่อยู่ในคลิป ก่อนเกิดเหตุได้พูดคุยกันว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินจ่าย และกำลังทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ยืนยันว่าจะจ่ายแน่นอน ไม่ได้คิดหลบหนี หรือปิดกั้นการติดต่อสื่อสาร สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวให้นายแพรทราบ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่คิดหนีแน่นอน
บีบีกันของกลาง
วันเกิดเหตุนายแพร ไปหาแม่ที่บ้าน ก่อนจะเดินทางมาที่สนามฟุตบอล เมื่อมาถึงก็ดึงแขนแล้วกระชากศีรษะลากออกมา ตามที่เห็นในวงจรปิด ขณะลากออกมาได้สักพักก็หยิบปืนออกมา ตอนนั้นก็ไม่ทราบว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอมออกมาจ่อ แล้วพูดว่า “กูยิงมึงตายดีไหมเนี่ย วันนี้กูไม่ได้มาเอาเงิน กูมาเอาชีวิตมึง”
บังคับให้กราบเท้า
พอนายแพรพูดจบประโยค ก็เอาด้ามปืนมาทุบที่ใบหน้า และศีรษะตนอย่างแรงหลายครั้ง ก่อนจะลากมาถึงลานจอดรถหน้าทางเข้าสนามฟุตบอล บังคับให้กราบเท้า โดยบอกว่า “มึงกราบเท้ากูสิ” พร้อมทั้งเอาด้ามปืนตบหน้า เหยียบซ้ำ และเตะเสยหน้าจนหนูหงายหลัง และยังทำร้ายซ้ำไปซ้ำมา คนที่เห็นเหตุการณ์ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย เพราะกลัวว่าจะเป็นปืนจริง อาจโดนลูกหลงไปด้วย ก่อนจะมีตำรวจที่มาเตะฟุตบอลเข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้ไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีก เพราะเสียโฉม บาดเจ็บ บอบช้ำไปทั้งตัว
วันนั้นตำรวจควบคุมตัวนายแพรไปดำเนินคดีแค่ข้อหา ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ ปรับ 1,000 บาท แล้วปล่อยตัวไป ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจบอกว่าต้องรอผลตรวจจากแพทย์ประมาณ 1 เดือน จึงจะแจ้งข้อหาได้ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นกลัวว่านายแพรจะมาทำร้ายคนในครอบครัว หรือตนเองอีก
เหยื่อสาวร้องสื่อ
หลังภาพวงจรปิดเผยแพร่ออกไป อีกทั้งเมื่อน.ส.เอ นำสภาพใบหน้าที่บวมปูดและบอบช้ำออกมาเปิดหน้าชน ร้องเรียนสื่อมวลชนให้ช่วยทวงความยุติธรรม กระแสความไม่พอใจก็โถมเข้าใส่ตำรวจ
พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่ง สาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น รีบเข้ามาดูแลทันทีก่อนที่จะบานปลาย หลังสอบสวนข้อเท็จจริง จึงมีคำสั่งย้าย รอง สวป.สภ.เมืองขอนแก่นพร้อมพนักงานสอบสวนที่เข้าเวรในวันดังกล่าว เนื่องจากมีความบกพร่อง ไม่ละเอียดรอบคอบในการ ปฏิบัติหน้าที่ ก่อนสั่งให้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การจับกุมเสี่ยแพร ดังกล่าว
เสี่ยแพร ดูหมายจับ
ด้านพ.ต.อ.ปรีชาเผยว่า ในส่วนคดีความของนายธเนศ จัดเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ลงมือทำร้ายร่างกายผู้หญิง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ข้อหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และข้อหา เป็นผู้ทวงถามหนี้กระทำการทวงถามหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง หรือกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายของลูกหนี้” โดยเจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา โดยตำรวจได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นฝากขังด้วย ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เผยอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหานั้นจากการตรวจสอบพบว่า โอนเงินให้ง่ายมาก ไม่มีการตรวจสอบหลักฐานของผู้กู้ยืม ดูเพียงสถานที่ทำงาน ที่อยู่ ตัวตนก็โอนเงินให้ทันที ในส่วนของการจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการขยายผลและตรวจสอบ เนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก ในส่วนที่ว่าเงินก้อนที่ให้ผู้เสียหายยืมนั้น เป็นเงินของบุคคลมีสี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการทวงหนี้ที่อ้างบุคคลให้เกิดความสำคัญ เพื่อจะให้ทวงหนี้ได้ง่ายขึ้น แต่ก็จะมีการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
แก๊งปล่อยเงินกู้นอกระบบทั้งหลายพึงรู้ไว้ บ้านเมืองเราเลยยุคบ้านป่าเมืองเถื่อนมานานแล้ว หากยังใช้วิธีการรุนแรงอยู่เช่นนี้ วันหนึ่งก็คงได้ตามเสี่ยแพรเข้าไปนอนในคุกอย่างแน่นอน
