คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดี อส.ชุมพรปืนดุ – “ตาทำไมยายเลือดออก เต็มเลย ยายเป็นอะไร” คำพูดซื่อๆ จากเด็กชายวัย 3 ขวบ ที่ถามผู้เป็นตา ภายหลังเกิดเหตุฆ่าสยอง

ย้อนไปเมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ธ.ค. ขณะที่ น.ส.พิมพ์นภา ถิ่นวงศ์เกลอ อายุ 29 ปี ชาวจ.ชุมพร กับแม่คือ นางพรเพ็ญ แจะซ้าย อายุ 47 ปี และ นายชัยพจน์ ทอดสวัสดิ์ อายุ 52 ปี สามีใหม่ของนางพรเพ็ญ และหลานชายวัย 3 ขวบ กำลังนอนอยู่ในบ้าน นายฉัตรชัย แสงสวัสดิ์ หรือ อส.โต้ง อายุ 35 ปี อดีตสามีที่เลิกรากันไปเมื่อ 4 เดือนก่อน ขับรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ มาจอดที่หน้าบ้าน ก่อนจะใช้เท้าถีบประตูตะโกนโวยวายเสียงดัง

สอบสวนปากคำ

น.ส.พิมพ์นภาพยายามหลีกเลี่ยงไม่อยากพบหน้าอดีตสามีอีก จึงวิ่งไปแอบอยู่ในห้องเก็บของหลังบ้าน เพราะเห็นท่าไม่ดี เนื่องจากมีเพื่อนโทร.มาบอกว่านายฉัตรชัย มีอาการมึนเมาและกำลังขับรถมาหาตนที่บ้าน และยังบอกกับเพื่อนอีกว่า “หากวันนี้ไม่ยอมคืนดีก็จะฆ่าทิ้งให้หมดบ้าน”

แต่หลังจากตะโกนอยู่นานไม่มีใครเปิดประตูบ้านให้ นายฉัตรชัยจึงเดินไปทางข้างบ้านงัดหน้าต่างจนหลุดออกมา ก่อนจะปีนเข้ามาในห้องนอนแล้วตะโกนเรียกหาอดีตภรรยา ขณะที่นางพรเพ็ญพยายามพูดและบอกว่าลูกสาวไม่อยู่ไปนอนบ้านเพื่อนในตัวเมืองชุมพร แต่นายฉัตรชัยไม่เชื่อยังเดินตามหาต่อไปจนมาเกือบถึงห้องเก็บของที่ น.ส.พิมพ์นภาแอบอยู่

นายฉัตรชัย หรืออส.โต้ง
น.ส.พิมพ์นภา เล่าเหตุสยอง

นางพรเพ็ญเห็นท่าไม่ดีจึงเข้ามาขวางพยายามพูดให้ใจเย็น แต่แล้วกลับมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ตามมาด้วยเสียงนายชัยพจน์และเด็กชายร้องเสียงดังขึ้นมา สักพักก็ได้ยินเสียงสตาร์ตรถขับออกไป เมื่อน.ส.พิมพ์นภา ออกมาจากห้องเก็บของก็เห็นแม่นอนตายจมกองเลือดไปแล้ว

พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จ.ชุมพร พ.ต.อ.ศุภเกียรติ เทิดตระกูล ผกก.สภ.ปะทิว ร่วมกันนำกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับแจ้ง โดยจากการสอบสวนนายชัยพจน์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง ตนรับไม่ได้กับภาพที่ภรรยาถูกนายฉัตรชัย ยิงตายต่อหน้าต่อตา ซ้ำร้ายใจยังโหดเหี้ยมก่อเกตุต่อหน้าเด็ก 3 ขวบ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ อีกด้วย

พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร ร่วมพิธีเผาศพ

นายชัยพจน์ ยังให้การอีกว่า หลังนาย ฉัตรชัยก่อเหตุยิงภรรยาตนแล้วยังเดินไปทุบประตูห้องอีกห้องจนพัง ตนจึงอาศัยช่วงนั้นอุ้มหลานชายวิ่งไปหลบซ่อนตัวในป่า เมื่อเห็นว่านายฉัตรชัยขับรถออกไปแล้ว จึงได้ออกมาและเข้าไปดูศพภรรยา และตนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ตอนที่หลานถามทำไมยายเลือดออกเต็มเลย ยายเป็นอะไร ตนเองต้องปลอบ ก่อนพาหลานออกมานั่งร้องไห้อยู่นอกบ้าน จนกระทั่งตำรวจมาถึง

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้น.ส.พิมพ์นภาถึงกับผวา เพราะตำรวจยังไม่สามารถจับตัวนายฉัตรชัยได้ทำให้ต้องอยู่อย่างหวาดผวาเพราะไม่รู้ว่านายฉัตรชัย จะกลับมาเอาชีวิตเหมือนที่เคยพูดไว้จะฆ่าให้หมดหรือไม่

ด้านพ.ต.อ.ศุภเกียรติ เผยว่าตำรวจสืบทราบว่ามีเพื่อนคนหนึ่งพาหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยใช้รถยนต์คันก่อเหตุขับหลบหนี ขณะนี้รู้พื้นที่แหล่งกบดานแล้วและได้ประสานตำรวจในพื้นที่ให้ประกบตัวไว้ก่อน แต่ทั้งนี้ผู้ต้องหามีอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. พกติดตัวไปด้วย 2 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตามจับกุม

ส่วนกรณีที่ภรรยาของมือปืนรายนี้และญาติๆ เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยนั้น ได้ สั่งการให้ตำรวจชุดสายตรวจไปดูแลความปลอดภัยและประจำอยู่ที่บ้าน

หลังถูกไล่ล่ากดดันอยู่หลายวัน ในที่สุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ธ.ค. นายฉัตรชัย ก็เข้ามอบตัวกับนายอำเภอพะโต๊ะ ผู้บังคับบัญชา ก่อนตำรวจควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ปะทิว ในสภาพอิดโรยจากการหลบหนี เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง

นายฉัตรชัย ให้การภาคเสธว่า ตนไม่ได้ใช้อาวุธปืนยิงแม่ยายแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุเกิดจากตนทราบว่าภรรยาที่หนีออกจากบ้านไปกับผู้ชายคนใหม่นาน 4 เดือน เดินทางกลับมาหาแม่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ จึงพาลูกชายและลูกสาว 2 คน ไปฝากไว้กับเพื่อน แล้วแวะดื่มเหล้าด้วยกัน

จากนั้นช่วงดึกได้ขับรถไปหาภรรยาที่บ้านแม่ยายและได้ตะโกนเรียกให้แม่ยายเปิดประตูแต่ไม่มีใครเปิด จึงงัดหน้าต่างเข้าไปทางห้องนอนที่ภรรยาตนเคยนอนแต่ไม่พบ จึงค้นหาตามจุดต่างๆ ขณะเดียวกันแม่ยายได้ถือปืนขู่และขัดขวาง พร้อมบอกว่าอย่าเข้ามาทำแบบนี้ในบ้านแม่ ตนจึงเข้าไปแย่งปืน ช่วงชุลมุนปืนเกิดลั่นถูกแม่ยายเสียชีวิต ตนตกใจขับรถหลบหนีไปที่ อ.ท่าแซะ แล้วขับไปเติม น้ำมันใน อ.ทุ่งตะโก ก่อนจะขับยาวไปถึง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีรรมราช จากนั้น นำรถยนต์ไปฝากไว้ที่บ้านยายของเพื่อนก่อนจะหลบหนีขึ้นไปอยู่ในป่า ก่อนตัดสินใจเดินเลาะออกจากป่าแล้วโบกรถสิบล้อมาเป็นทอดๆ จนมาถึงถนนทางแยกเข้าอำเภอพะโต๊ะ จากนั้นเข้ามอบตัวกับนายอำเภอดังกล่าว

ถึงจะอ้างว่าเป็นการแย่งปืนและไม่ใช่ปืนของตน แต่ตำรวจก็มีพยานยืนยันว่า อส.โต้งมีปืนถึง 2 กระบอก โดยนำปืนที่พกขนาด 9 ม.ม.ออกมาโชว์และอีกกระบอกอยู่ในกระเป๋าสะพาย เมื่อเมาได้ที่ อส.โต้ง บอกว่าจะไปยิงภรรยาแล้วรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งไปก่อเหตุดังกล่าว

จะอ้างอย่างไรก็คงยากจะดิ้นหลุด

 

ชูศักดิ์ ตระหง่าน
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน