เจาะคดีฆ่าสลดสุราษฎร์!! ฉุนว่าที่เมียจับโป๊ะ-โม้รวย หนุ่มรัวดับขรก.สาวคาเก๋ง : สดจากสนามข่าว
“ความลับไม่มีในโลก” วลีอมตะนี้เป็นจริงเสมอ ไม่ว่าใครจะโกหกอะไรไว้ไม่แคล้วต้องถูกเปิดโปงออกมาในท้ายที่สุด
เรื่องสลดที่เกิดขึ้นหมาดๆ ทำให้สาวข้าราชการอนาคตไกลถึงต้องใช้ชีวิตแลกกับความจริงที่ว่าที่สามีตามกฎหมายปิดบังไว้
ย้อนกลับไปเมื่อค่ำวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ศิริมงคล สว.สอบสวน สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋งบนถนนสายสุราษฎร์ธานี-กระบี่ (เซาเทิร์นซีบอร์ด) ฝั่งขาเข้าสุราษฎร์ธานี บริเวณบ้านเขาพูล หมู่ 5 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน
หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.พุนพิน พ.ต.ท.โยธินทร์ สิทธิโยธี รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.วิทยา พิทักษ์ รอง ผกก.กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.สส.ผบช.ภาค 8, กก.สส.บก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และสภ.พุนพิน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 แพทย์ร.พ.พุนพิน และกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาท่าสะท้อน บ้านนาเดิมและขุนทะเล
รถที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน 5กฉ 1397 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนนโดยที่ประตูไม่ได้ปิดล็อก เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบศพหญิงสาว สภาพศพสวมเสื้อยืดสีชมพูทับด้วยเสื้อแจ๊กเกตยีนส์สีน้ำเงิน คาดเข็มขัดนิรภัยนั่งอยู่บนเบาะนั่งด้านหน้าข้างซ้าย สภาพคอพับไปด้านขวา โดยใบหน้าสวมใส่หน้ากากอนามัยอยู่ด้วย
ใบหน้ามีบาดแผลถูกทำร้ายปูดบวมเป็นรอยเขียวช้ำที่ขอบตาด้านขวา หน้าท้องมีรอยคล้ายกระสุนปืน 3 แห่ง เป็นแนว ขึ้นชายโครงด้านขวา สภาพเสียชีวิตประมาณ 2-3 วัน พบกระเป๋าเงินตกอยู่ที่วางเท้า ส่วนที่เบาะด้านหลังมีกระเป๋าถือสีดำ 1 ใบวางอยู่
ตรวจสอบเอกสารหลักฐานประจำตัวพบว่าเธอคือ น.ส.ฐิติรัตน์ สีห์ราช อายุ 35 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 170 ม.8 ต.บ้านเพชร อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ทำงานเป็นเจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน กองการเจ้าหน้าที่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
จนท.ตรวจที่เกิดเหตุ
พลเมืองดีผู้แจ้งเหตุให้การว่า รู้สึกผิดสังเกตเห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณประมาณ 2 วัน ไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายไปไหน คาดว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น เมื่อเข้าไปดูจึงพบศพหญิงสาวนอนอยู่ด้านในจึงรีบแจ้งตำรวจให้ทราบเรื่องทันที
เจ้าหน้าที่ประสานญาติผู้เสียชีวิต มายืนยันศพพร้อมสอบสวนจนทราบว่าผู้ตายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีอุปนิสัยร่าเริงเป็นที่รักใคร่ของผู้ร่วมงาน ล่าสุดเพิ่งไปทำศัลยกรรมจมูกมา และกำลังทำเรื่องขอกลับไปทำงานภูมิลำเนาที่ จ.ชัยภูมิ
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตได้พาแฟนหนุ่มไปพบครอบครัวที่ จ.ชัยภูมิ และมีแผนจะแต่งงานกันด้วยกันเร็วๆ นี้ โดยญาติฝ่ายหญิงให้เบาะแสเจ้าหน้าที่ว่า ทราบเพียงฝ่ายชายอ้างว่ามีฐานะดีในพื้นที่ภาคใต้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่มุ่งเป้าไปที่แฟนหนุ่มของผู้ตายเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง เนื่องจากทราบว่าทั้งคู่เดินทางลงมาภาคใต้ด้วยกัน โดยแฟนหนุ่มเป็นคนขับ แต่หลังเกิดเหตุกลับหายตัวไปไร้ร่องรอย
สาเหตุที่เชื่อว่าไม่ใช้ฝีมือของบุคลที่สาม ก็เพราะทรัพย์สินในรถไม่ถูกประทุษร้ายและที่ตัวผู้เสียชีวิตพบรอยกระสุนถูกยิงด้วยอาวุธปืนบริเวณใต้ชายโครงขวา ทิศทางกระสุนปืนมาจากฝั่งคนขับรถชัดเจน
บัตรประจำตัวข้าราชการกรุงเทพมหานคร
จากการแกะรอยของเจ้าหน้าที่พบว่าคือนายโอชา สวนจันทร์ อายุ 39 ปี เป็นชาวหมู่ 3 ต.บ้านราม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จึงรับประสานตำรวจพื้นที่ช่วยสืบหาเบาะแส พร้อมรวบรวมหลักฐานต่อศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระทั่งอนุมัติหมายจับในวันที่ 22 ธ.ค.
แค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังได้หมายจับ พ.ต.ท.ธนัญชัย นวลนิรันดร์ รอง ผกก.ปพ. บก.สส.ภ.8 ก็นำกำลังไปจับกุมนายโอชาได้ในพื้นที่ อ.หัวไทร ก่อนคุมตัวกลับไปสอบสวนที่สภ.พุนพิน ท้องที่เกิดเหตุ
นายโอชารับสารภาพว่า เพิ่งคบหากับฝ่ายหญิงมาได้ระยะหนึ่ง โดยโกหกว่าเป็นคนมีฐานะและมีสวนอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาไปหาพ่อแม่ฝ่ายหญิงที่ จ.ชัยภูมิ และมีแผนจ
แต่งงานกัน หลังจากนั้นได้พาผู้ตายไปบ้านที่จ.นครศรีธรรมราช
แต่เมื่อฝ่ายหญิงทราบว่าไม่ได้เป็นผู้มีอันจะกินเหมือนที่คุยโม้ ก็โทร.กลับไปบอกที่บ้านว่าเหมือนโดนถูกหลอก
ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่อ.หัวไทร ระหว่างทางในพื้นที่จ.สมุทรสาคร เกิดมีปากเสียงกับผู้ตายเกี่ยวกับเรื่องที่ตนไปหลอกว่าเป็นคนรวย ด้วยความโมโหจึงใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่ผู้ตายหลายนัดจนเสียชีวิต นำเสื้อแจ๊กเกตมาคลุมตัวไว้ และใส่แมสก์ที่หน้า ทำเหมือนคนนอนหลับ
พาชี้จุดทิ้งปืนแยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
จากนั้นได้นำอาวุธปืนไปทิ้งในพื้นที่แยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และขับรถพาศพแฟนสาวนั่งมาในรถด้วยนานกว่า 6 ชั่วโมง จนมาถึงพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี นำรถมาจอดที่จุดเกิดเหตุ
ก่อนโทร.ไปบอกกับน้องชายว่าทำปืนลั่นใส่แฟนจนตาย ให้น้องชายขับรถมารับเพื่อหลบหนีไปอ.หัวไทร จนทางญาติพี่น้องขอติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อนำตัวเข้ามอบตัว เนื่องจากทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว
ปิดฉากอีกโศกนาฏกรรมที่เริ่มต้นด้วยความรัก แต่ต้องจบลงที่ความตาย
สุรชัย ส้มเกลี้ยง-ธนภัทร ชีระจินต์-เรื่อง/ภาพ
