กฤษณะ เชิญธงไชย

เรื่อง/ภาพ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม บริเวณหน้าบริษัท พงศ์โชตนาการยาง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 128 ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คึกคักเป็นพิเศษ

บรรดาไทยมุงต่างมารอดู ด้วยรับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก นำโดยพ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.สภ.ช้างเผือก พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กำลังควบคุมตัวนายนภดล ใจคำ อายุ 30 ปี ที่อยู่ 148/1 หมู่ 12 ต.แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หนุ่มลูกจ้างในบริษัทดังกล่าวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในคดีลักทรัพย์นายจ้าง

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 กันยายน พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ฟองจันทร์ โป่งปันต๊ะ อายุ 29 ปี เป็นผู้รับมอบอำนาจจาก นายฐิติรัฐ ชัยวงค์ เจ้าของบริษัท โชตนาการยาง จำกัด ประกอบกิจการขายยางรถยนต์รายใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ ว่าเกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบริษัทไปหลายรายการ

พ.ต.อ.อดุลย์ สมนึก ผกก.สภ. ช้างเผือก พ.ต.ท.ชนินทร์ เคหะ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.ณัฐพล เอกฉันท์ สว.สส. ร.ต.อ.ณัฐนนท์ หมื่นกัน ร.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เครือทอง รอง สว.สส.ฯ รีบนำกำลัง ชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบทันทีที่รับ แจ้งเหตุ

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายรายนี้ปีนกำแพงเข้ามาทุบเอาตู้เซฟที่อยู่ภายในห้องบัญชีไป โดยภายในมีทรัพย์สินประกอบด้วยเอกสารต่างๆ โฉนดที่ดิน เอกสารเกี่ยวกับทะเบียนรถของบริษัททั้งหมดประมาณ 11 คัน เช็คธนาคารและเงินสดอีกประมาณ 60,000 กว่าบาท

นอกจากนี้ คนร้ายยังได้ถอดเอาเครื่องเซิร์ฟเวอร์จำนวน 3 ตัว ที่มีไว้บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดของทางร้าน ซึ่งมีทั้งหมดถึง 64 ตัวไปอีกด้วย

ดูเหมือนคนร้ายรายนี้จะรู้ลู่ทางภายในบริษัทเป็นอย่างดี รู้ว่าตู้เซฟซ่อนอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะรู้ว่าต้องเอาตู้เซิร์ฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดไปด้วย แต่ที่มันไม่รู้คือ ยังมีเซิร์ฟเวอร์วงจรปิดส่วนหนึ่งที่อยู่รอดปลอดภัย จนกลายมาเป็นหลักฐาน ให้ชุดสืบสวนตามสืบได้

ภาพที่ได้มาเผยให้เห็นคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ดคลุมศีรษะ และใส่หมวกไอ้โม่งคลุมหัวปิดบังอำพรางหน้าตาอย่างมิดชิด และได้อาศัยเส้นทางจากด้านหลังของร้านเข้ามาก่อเหตุ โดยในภาพเห็นว่าคนร้ายเดินขากะเผลก แต่ดูแล้วไม่น่าจะพิการจริงๆ แต่ทำเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่เสียมากกว่า

อีกทั้งคนร้ายน่าจะมีการวางแผนการลงมือมาแล้ว อีกทั้งพบว่าผู้ต้องหานั้นรู้ช่องทางที่ซ่อนตู้เซฟ รวมทั้งเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่บันทึกภาพกล้องวงจรปิดเป็นอย่างดี จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนในที่ทำงานอยู่ภายในร้าน

ชุดสืบสวนติดตามเส้นทางหลบหนีและเส้นทางก่อนเข้าไปลักทรัพย์ โดยใช้กล้องวงจรปิดจากละแวกใกล้เคียงกับบริษัท ที่เกิดเหตุ พร้อมสังเกตตำหนิรูปพรรณคนร้ายและทะเบียนรถที่คนร้ายใช้ มาเปรียบเทียบกับประวัติพนักงาน

ตร.พบว่ามีลักษณะตรงกับนายนภดล ใจคำ พนักงานแผนกช่างไฟฟ้า ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานและรถที่ใช้ตรงกัน จึงขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับที่ จ.641/2560 ลงวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ก่อนนำกำลังบุกเข้าจับกุมนายนพดลขณะทำงานอยู่ภายในบริษัท ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนๆ พนักงาน ที่แทบไม่เชื่อว่าคนร้ายจะกลายเป็นเพื่อนร่วมงานของตัวเอง

สอบสวนปากคำในเบื้องต้น นายนภดลรับสารภาพว่ากระทำผิดจริง โดยปีนแนวรั้วกำแพงเข้ามาในร้าน หลบซ่อนตัวและตัดไฟฟ้า ก่อนยกเอาตู้เชฟบรรจุเงินสดและใบโฉนดที่ดินนำไปงัดตัดที่บ้านแม่ยาย ที่หมู่ 1 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อนำเงินออกมาใช้ จากนั้นนำตู้เซฟและเครื่องเชิร์ฟเวอร์ ไปทิ้งน้ำ บริเวณริมน้ำตกแม่สา บ้าน ป่าม่วง หมู่ 5 ต.แม่แรม อ.แม่ริม

เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยรุดไปลงงมค้นหาตรงจุดที่ผู้ต้องหาสารภาพแต่ยังไม่เจอ จากนั้นนายนภดลพาตำรวจไปเอาเงินที่ซ่อนไว้ที่บ้านที่หมู่ 12 ต.แม่แรม อ.แม่ริม โดยเงินเหลืออยู่จำนวน 34,160 บาท ก่อนที่ตำรวจจะพาตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเช้าวันนี้

นายนภดลเปิดเผยสาเหตุที่ตัดสินใจลงมือก่อเหตุว่า เพราะตนเองติดหนี้นอกระบบ ประกอบกับชอบเล่นการพนันไก่ชน เล่นพนันบอล จนกลายเป็นหนี้สินรุงรังชักหน้าไม่ถึงหลัง จึงคิดเอาเงินไปใช้หนี้ เห็นว่าที่ทำงานมีตู้เซฟคาดว่าจะมีเงินอยู่จำนวนมาก จึงลงมือก่อเหตุ กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดังกล่าว

หลังเสร็จสิ้นการทำแผนฯ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายนภดลไปสอบสวนดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์โดยเข้าช่องทาง ซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกการ กระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อหลบหนี” ต่อไป

อีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการพนันมีแต่จะนำความหายนะ มาสู่ผู้ลุ่มหลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน