ย้อนคดีปล้นโหดปี63 – เป็นอีกคดีสะเทือนที่เกิดขึ้นในปี 2563 เมื่อมีคนร้ายบุกเดี่ยวปล้นร้านทองออโรร่า กลางห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี

แต่การปล้นครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น เมื่อคนร้ายสวมกางเกงลายพรางลงมือกราดยิงประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เสียชีวิตถึง 3 ศพ บาดเจ็บอีก 4 คน ทั้งที่ทุกคนไม่ขัดขืนหรือแม้แต่คิดจะสู้

ก่อนนำมาสู่การระดมกำลังตำรวจพลิกแผ่นดินไล่ล่าโจรโหดรายนี้

สุดท้ายทำเอาหลายคนช็อก เมื่อฆาตกรสังหารหมู่รายนี้เป็นถึงผอ.โรงเรียน ก่อนก้มหน้าชดใช้กรรมที่ก่อไว้

ย้อนคดีปล้นโหด-กราดยิงสลด 3 ศพ

เหตุปล้นสุดอุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี ครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงค่ำวันที่ 9 ม.ค. เมื่อมีคนร้ายบุกเดี่ยวถือปืนติดลำกล้องเก็บเสียง เข้าไปในห้างแล้วกราดยิง รปภ. พนักงานร้านทอง ประชาชนลูกค้า

ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ

จากเหตุการณ์ครั้งนี้คนร้ายกวาดทองรูปพรรณหนัก 28 บาท และมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีก 4 คน ที่น่าสลดใจซ้ำเมื่อหนึ่งในเหยื่อกระสุนคลั่งจากเหตุการณ์นี้เป็นเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบที่เดินจูงมืออยู่กับแม่

ทั้งหมดนี้คนร้ายใช้เวลาไม่เกิน 1 นาทีครึ่ง

สิ้นเสียงกระสุนปืนที่กราดยิงอย่างโหดเหี้ยมกลางห้าง ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องจากสังคมให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

ทำให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ในขณะนั้น บินด่วนลงพื้นที่ พร้อมระดมมือปราบฝีมือดีเข้ามา ทำคดี มอบหมายให้พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร.รับผิดชอบคดีนี้

จากการทำคดีตำรวจตรวจสอบภาพจากวงจรปิดนับร้อยตัว ทั้งภายในห้างและนอกห้าง เพื่อสรุปลักษณะเฉพาะของคนร้าย

นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือกอล์ฟ ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.สิงห์บุรี

พบว่าคนร้ายใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม โดยเฉพาะรองเท้ามีความคล้ายคลึงรุ่น Adidas Tubular X Primeknit Core Black Dark Grey มีราคาเริ่มต้น 7,000-8,000 บาท

หลังจากก่อเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนเลี่ยงเมืองไปทางโพธิ์เก้าต้น จุดนั้นสามารถออกไป จ.สิงห์บุรี หรือ จ.อ่างทอง ก็ได้ อีกทั้งสามารถกลับเข้าเมืองลพบุรีได้เช่นกัน

นอกจากนี้ยังพบว่าคนร้ายเดินขากะเผลก บางช่วงลงน้ำหนักไม่ได้

ส่วนอาวุธปืนพบว่าเป็นรุ่น “CZ P 01 Tactical” ขนาด 9 ม.ม. เป็นปืนที่มีราคาสูง ติดลำกล้อง ลดเสียงได้ แสดงว่าต้องมีความรู้ และโอกาสที่จะเป็นปืนเถื่อนเป็นไปได้น้อย

ถือเป็นคดีที่แตกต่างจากคดีการชิงทรัพย์ทั่วไปที่มักจะใช้ปืนปลอม หรือปืนเถื่อน

ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายเชี่ยวชาญด้านการใช้อาวุธปืนยิงได้อย่างแม่นยำ แม้กระทั่งตอนเคลื่อนไหว

ก่อนนำมาสู่การตรวจสอบปืนที่ลงทะเบียนไว้ใน จ.ลพบุรี กว่า 300 กระบอก ตามมาด้วยการปูพรมออกตรวจค้น 14 จุดที่พบว่าเชื่อมโยงกับคนร้าย

พร้อมพุ่งเป้าไปยังคนร้ายรายนี้อาจเป็นมือปืนฝีมือฉกาจฉกรรจ์ หรือกลุ่มมีสีที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธ

ทำให้กองทัพต้องออกมาปฏิเสธและไม่ขอชี้แจง โดยขอให้เป็นเรื่องของตำรวจที่กำลังทำงานอย่างหนัก

เปิดแผนล่า14วัน-ที่แท้ฝีมือผอ.โรงเรียน

หลังเวลาผ่านพ้นมานาน 14 วัน ในที่สุดการทำงานของตำรวจที่ระดมสรรพกำลังเข้าตรวจสอบติดตามก็ประสบผลสำเร็จ

วันที่ 21 ม.ค. ตำรวจรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอให้ศาลจังหวัดลพบุรีอนุมัติหมายจับ

จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 22 ม.ค. ตำรวจกองปราบปรามที่มาดูแลคดีนี้และติดตามประกบนายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ กอล์ฟ อายุ 38 ปี ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี อยู่ตลอด

ตำรวจควบคุมตัวผอ.กอล์ฟ คนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจ

โดยพ.ต.อ.วิจักษ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมาน จับตานายประสิทธิชัย จนทราบว่าช่วงเช้านายประสิทธิชัยขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 สีดำ ทะเบียน 7กณ 493 กทม. ออกจากบ้านพักใน อ.เมืองลพบุรี เพื่อเดินทางไปสอนที่โรงเรียน จ.สิงห์บุรี

จึงสะกดรอยติดตามนายประสิทธิชัยไปจนถึงบริเวณทางหลวงสาย 311 อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี เมื่อสบโอกาสจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที

ระหว่างการเข้าจับกุมนายประสิทธิชัยไม่มีท่าทีขัดขืน หรือต่อสู้ เชื่ออาจไม่ทันระวังตัว เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ให้ ข่าวมาตลอดว่าคนร้ายอาจหลบหนีไปทางชายแดนแล้ว ทำให้ นายประสิทธิชัยเชื่อว่าตำรวจยังไม่รู้แน่ๆ ว่าคนร้ายเป็นใคร

จากการตรวจค้นภายในรถไม่พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พบเพียงกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ขนาดเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุอยู่ภายในรถจำนวนหลายนัด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาไปยังสถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี

ขณะที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ พร้อมคณะเดินทางมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยว จ.ลพบุรี พร้อมสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตัวเอง ยืนยันว่าคนร้ายให้การรับสารภาพ และมีทีท่าสำนึกผิด ไม่ใช่จับแพะแน่นอน

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ในขณะนั้น สอบปากคำ

ส่วนหลักฐานที่สามารถมัดคนร้ายจนสามารถขออนุมัติหมายจับได้ กองปราบปรามได้ข้อมูลมาก่อนแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ จึงเริ่มตรวจสอบภาพจากวงจรปิด ภาพกล้องเก็บเสียงที่ติดกระบอกปืนพบสัญลักษณ์วงกลมสีขาว จนตามถึงแหล่งผลิต ก่อนได้ข้อมูลว่ามีชิ้นหนึ่งส่งให้ลูกค้าที่ จ.ลพบุรี

นอกจากนี้จากการตรวจสอบปืนซีแซด ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ที่มีผู้ลงทะเบียนถือครองไว้กว่า 300 กระบอก พบว่า 1 ในนั้นเป็นของพ่อนายประสิทธิชัย ที่เป็นตำรวจนอกราชการ ก่อนจะตามเช็กรถจักรยานยนต์ฟีโน่ สีแดง-ขาว เป็นของพ่อตานายประสิทธิชัย

เมื่อตรวจสอบในสังคมออนไลน์พบว่านายประสิทธิชัย เคยผ่าตัดหัวเข่าขวาเมื่อปี 2561 หลังจากนั้นเดินขากะเผลก มาตลอด ซึ่งละม้ายคล้ายกับคนร้ายที่เห็นในกล้องวงจรปิด

นาทีโจรบุกเดี่ยวปล้นทองกลางห้าง จ.ลพบุรี

รวมทั้งรองเท้าที่ใส่ก่อเหตุ พบนายประสิทธิชัยมีรองเท้าชนิดเดียวกันและเคยใส่โพสต์รูปในเฟซบุ๊กด้วย

นอกจากนี้ยังไปตรวจสอบที่สนามยิงปืนในพื้นที่ จ.ลพบุรี และใกล้เคียง เพื่อนำหัวกระสุนมาเปรียบเทียบกับหัวกระสุนที่ใช้ก่อเหตุ จนพอทราบว่าผู้ลงมือเป็นใคร

เมื่อรวมกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นั่นก็คือหยดเหงื่อของคนร้ายที่ทำหยดไว้บนตู้กระจกร้านทอง และติดกับประตูอัตโนมัติที่ใช้ตัวกระแทก ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บไว้เพื่อตรวจสอบกับคนร้าย เชื่อว่าจะสามารถมัดตัวคนร้ายจนดิ้นไม่หลุด

ด้านนายประสิทธิชัยรับสารภาพว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของพ่อ ขณะที่รถจักรยานยนต์ใช้ก่อเหตุเป็นของพ่อตา หลังก่อเหตุก็นำปืนและรถจยย.ไปคืน แล้วใช้ชีวิตแบบปกติ

คนร้ายใส่ชุดลายพรางบุกลงมือโหด

ยืนยันลงมือคนเดียว เคยคิดมอบตัวหลายครั้ง เพราะคิดว่าหนีไม่รอด ถึงขนาดขับรถมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรีเพื่อจะขอมอบตัว แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจ

ส่วนที่ลงมือก็เพราะอยากตาย จากปัญหาความเครียดเรื่อง หนี้สิน ที่ตัวเองคล้ายเป็นตัวปัญหาให้พ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนมาตลอด รวมถึงเครียดเรื่องครอบครัวเก่าที่เลิกไป และอยากตายแบบมีสตอรี่ อยากถูกตำรวจวิสามัญ

ศาลพิพากษาประหารชีวิต

มาถึงวันชี้ชะตาของนายประสิทธิชัย หรือ ผอ.กอล์ฟ เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ศาลอาญาอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.409/2563 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องนาย ประสิทธิชัย เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่า ผู้อื่นฯ, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ และความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวน รวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจน

คุมตัวผอ.กอล์ฟไปชี้จุดนำอาวุธปืนมาทิ้งในแม่น้ำ

ทำให้เชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดี ข้ออ้างที่จำเลยให้การต่อศาลว่าเป็นความคิดชั่ววูบเพราะมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก รับฟังไม่ขึ้นเนื่องจากมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด

สำหรับกรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิตจำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่รปภ.ห้างโรบินสัน และกระสุนทะลุไปโดนเด็กจนเสียชีวิต ศาลถือว่าเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย

ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบา เพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุม ประกอบกับมีคุณงามความดีมาก่อนนั้น

ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัวและการให้การมีประโยชน์ ต่อการแสวงหาหลักฐาน หรือการสอบสวน เนื่องจากพยาน หลักฐานของโจทก์ก็สามารถนำสืบจนทราบได้ และคำให้การไม่มีการให้ประโยชน์ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุให้พิจารณาบรรเทาโทษ

นำตัวผอ.กอล์ฟ ฟังคำพิพากษาชดใช้กรรม

อีกทั้งคำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามต่อสังคม ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษตามกฎหมาย คำขอของจำเลยฟังไม่ขึ้น

เมื่อพิจารณาโทษทั้งหมดจำเลยมีความผิดตามฟ้องหลายกรรมต่างกัน พิพากษาให้ลงโทษทุกกรรม รวมโทษทุกกระทง ประหารชีวิต และปรับเงิน 1,000 บาท พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายทุกคน รวมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ปิดฉากคดีผอ.กอล์ฟ ปล้นโหดกราดยิงกลางห้าง อีกคดีสะเทือนขวัญปี 2563

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน