คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าคดีรวบ6โจ๋ชนเผ่า รุมตื้บ5ตร.ปางมะผ้า – พลันที่โลกโซเชี่ยล นำคลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายตำรวจ ออกเผยแพร่โดยใช้ชื่อว่า “นักเลงชนเผ่า” ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลาย ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่ใช้ความรุนแรงและแนะให้ตำรวจเอาผิดกับคนทำผิดอย่างเด็ดขาด

นาทีเกิดเหตุ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 18 ม.ค. พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นใน อ.ปางมะผ้า รุมทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขณะเข้าระงับเหตุ บริเวณร้านค้าในตลาดติดทางหลวงหมายเลข 1095 เป็นเหตุให้ ร.ต.อ.เกรียงไกร วันตา รองสวป.สภ.ปางมะผ้า ได้รับบาดเจ็บถูกขวดปาเข้าที่ศีรษะ ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในเบื้องต้นทาง สภ.ปางมะผ้า ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 64 เวลาประมาณ 23.30 น.

แจ้งข้อหาแก๊งโจ๋

โดยหลังเกิดเหตุจับกุมคนร้ายได้ 1 ราย คือนายจำรัส เลาลี ชาวจ.แม่ฮ่องสอน ถูกดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ และข้อหาเมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย หรือครองสติไม่ได้ในถนนหรือที่สาธารณสถานโดยผิดกฎหมาย ข้อหาต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่และข้อหาทำลายสิ่งของของทางราชการ (รถสายตรวจ)

ในวันนี้ สภ.ปางมะผ้า ได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อออกหมายจับผู้ที่ร่วมก่อเหตุอีก 6 ราย ประกอบด้วย นายอิทธิพล เลาลี, นายธีรศักดิ์ ยี่ป๋า, นายเอกชัย เลาลี, นายกมลศักดิ์ เลาหมู่, นายจิรายุ เลาหมี่ และนายณัฐวัศ สีลี้ โดยตำรวจได้ประสานงานกับฝ่ายปกครองและหน่วยทหารในพื้นที่ นำกำลังเข้าปิดล้อมจับกุมหลังจากที่ได้รับหมายจับจากศาล ส่วนผู้ต้องหาที่ 7 เป็นเยาวชน แยกดำเนินการ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่บาดเจ็บทั้งหมด 5 นาย ประกอบด้วย 1.ร.ต.อ.เกรียงไกร วันตา รองสวป.ปฏิบัติหน้าที่ หน.สายตรวจ (บาดเจ็บศีรษะแตกจากการถูกขว้างด้วยขวดเบียร์ แพทย์ลงความเห็นรักษาอาการ 21 วัน ถือว่าสาหัส) 2.ส.ต.ท.สันติพงศ์ โพธิพฤกษ์ 3.ส.ต.ต.อัครเดช ทองชัย 4.ส.ต.ท.อรรถวิทย์ วงศ์จันทร์ 5.ส.ต.ท.ปวริศ อินต๊ะ

เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปางมะผ้า ร่วมกับชุดนปพ. ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เข้าปิดล้อมตรวจค้นและจับกุม ผู้ต้องหาที่ 2-6 รวม 5 คน ได้ที่บริเวณบ้านของกลุ่มผู้ต้องหาในพื้นที่ ม.2 และม.4 ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน จากนั้นควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหา 1.ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้อาวุธ และร่วมกระทำตั้งแต่สามคนขึ้นไป 2.ร่วมกันทำร้ายร่างกาย เจ้าพนักงานเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและสาหัส 3.ร่วมกันทำให้เสียหาย เสื่อมค่าทรัพย์สิน 4.เมาสุราประพฤติตนวุ่นวาย

ด้านนายธีรศักดิ์ หนึ่งในวัยรุ่นที่ถูกจับกุมออกมาเปิดเผยว่า ผมต้องขอโทษด้วยและยอมรับผิด ผมเมาตำรวจก็เมา ในส่วนที่ผมต่อยตำรวจยอมรับว่าผิดจริง ในระหว่างที่ชุลมุนมีกลุ่มหนึ่งปาขวดเข้ามาใส่ตำรวจในวันเกิดเหตุ ตอนแรกตนไม่ได้มีเหตุกับตำรวจก่อนหน้า แต่เป็นวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นชนเผ่าลีซูเหมือนกัน หลังจากที่ร้านปิด พากันมารวมตัวกันที่หน้าร้านลาบฝางเพื่อที่จะพากันกลับบ้าน

ต่อมามีรถสายตรวจวิ่งเข้ามาแล้วเหยียบเท้าตนไม่พอเจ้าหน้าที่ตำรวจในรถอีกคนได้ลงมาแล้วใช้กระบองตีตน ทำให้เพื่อนที่เห็นพากันกรูเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่จนเกิดชุลมุนกันขึ้น ขณะเดียวกันที่กลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีเรื่องกับตำรวจมาก่อนหน้านี้ ได้มาสมทบและใช้ขวดขว้างใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ร.ต.อ.เกรียงไกร วันตา รองสวป. เจ็บ

“เรื่องนี้หากทางตำรวจขอโทษพวกผมก็จะไม่ว่าอะไร และไม่มีใครกล้าตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่วันนั้นพอเหยียบเท้าผมเสร็จตำรวจกลับถามว่า จะเอาไง ทำให้พวกผมไม่พอใจเลยก่อเหตุขึ้นมา”นายธีรศักดิ์กล่าว

นายสุวพันธ์ เลาลี อายุ 53 ปี บิดาของนายเอกชัย เลาลี ที่ถูกตำรวจจับออกมาเปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นขอความเป็นธรรมให้กับเด็กด้วย เพราะว่าก่อนนั้น เด็กทั้งหมดไปกินเหล้าที่ผับริมโค้งใกล้กับที่เกิดเหตุ และได้มีปัญหาทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้วาจาไม่สุภาพกับเด็กก่อน ทำให้เกิดความขัดเคืองใจ ต่อมาเมื่อร้านปิด เด็กพากันมายังจุดเกิดเหตุเพื่อรอเพื่อนอีกคนนำรถมารับเพื่อกลับบ้าน มีรถสายตรวจวิ่งเข้ามาเบียดเด็กจนแทบจะหกล้ม เลยทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท ขณะนี้แค่โต้เถียงกันเฉยๆ ต่อมาได้มีตำรวจใช้กระบองตีที่เด็ก ทำให้เกิดการตะลุมบอนกันขึ้น

เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเด็กเมาและมีส่วนผิด แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ผิดด้วยเช่นกัน และการแจ้งข้อหาของเจ้าหน้าที่ก็รุนแรงเกินเหตุ ซึ่งอยากจะขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมา ณ ที่นี้ด้วย

ขณะเดียวกันนายสุวพันธ์ นำคลิปที่เด็กวัยรุ่นถ่ายไว้มาเปิดให้ดู โดยในคลิปจะเห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งท่าทางคล้ายคนเมายืนคุยกับเด็กวัยรุ่น และวัยรุ่นได้ถามว่าชื่อไร กลับตอบด้วยวาจาไม่สุภาพ ซึ่งความขัดแย้งขณะนั้น น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะมีการทะเลาะวิวาทกับตำรวจใน ภายหลัง

เรื่องนี้คงต้องฟังความทั้ง 2 ฝ่าย เพราะหากยุติได้ด้วยความเป็นธรรม เรื่องราวย่อมไม่บานปลาย กลายเป็นน้ำผึ้ง หยดเดียว

เกียรติศักดิ์ รักสัตย์

ทศพล บุญพัฒน์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน