คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีจับโมเดลลิ่งฉาว – ลืมหายไปสิ้น เพียงเพราะพฤติกรรมของคนไม่กี่คนที่สร้างเรื่องราวฉาวโฉ่

ย้อนไปเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ก.พ. 2564 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอและโฆษกดีเอสไอ, พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.ต. จตุพล บงกชมาศ ผอ.กองกิจการต่างเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ และ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รองผอ.กองกิจการ ต่างเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ แถลง

ร่วมกับเจ้าหน้าที่เอเอฟพี, เอฟบีไอ, เอชเอสไอ, ตำรวจนิวซีแลนด์ ป.ไทย, OUR, ผู้แทนกรมกิจการเด็กและเยาวชน, ผู้แทนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์, สน.โชคชัย และสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แถลงผลจับกุมนายดนุเดช แสงแก้ว หรือนุ หรือเนเน่ อายุ 28 ปี เจ้าของเนเน่โมเดลลิ่ง (Nene Modeling) ซึ่งถือว่าเป็นโมเดลลิ่งเด็กที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย หลังพบว่าเป็นเครือข่ายเผยแพร่ภาพสื่อลามกอนาจารเด็กแหล่งใหญ่ระดับโลก

ดีเอสไอร่วมตร.ต่างประเทศ

นายดนุเดชถูกจับเมื่อวันที่ 11 ก.พ. พร้อมของกลางคลังภาพลามกอนาจารทั้งเด็กชายและเด็กหญิงกว่า 5 แสนไฟล์ภาพในคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ เจลหล่อลื่น และถุงยางอนามัยจำนวนหนึ่ง ที่บ้านพักแห่งหนึ่งซึ่งเปิดเป็นสำนักงานโมเดลลิ่ง ในต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวว่า สืบเนื่องจากตั้งแต่เมื่อปี 2561 ดีเอสไอได้รับข้อมูลจากตำรวจสากลว่า พบสื่อลามกอนาจารเด็กไทยแพร่หลายในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก จึงร่วมกันบูรณาการสืบสวนสอบสวนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ชื่อ “ปฏิบัติการข้อมือดำ” กระทั่งพบเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม นายฐกร (ขอสงวนนามสกุล) หรือบาส อายุ 30 ปี ในเขตพื้นที่ สน.โชคชัย พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำลามกอนาจารเด็ก และเสื้อผ้าเด็กจำนวนหนึ่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2563

พ.ต.ท.กรวัชร์กล่าวต่อว่า โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายภาพลามกอนาจารผ่านเว็บไซต์มืด โดยวิธีการของกลุ่มผู้กระทำความผิดจะจัดเตรียมห้องส่วนตัวเพื่อบันทึกภาพขณะทำอนาจาร และข่มขืนกระทำชำเราเด็กก่อนนำไปขายทอดตลาดมืด จากนั้นดีเอสไอจึงดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามความผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานอนาจารและกระทำชำเราเด็ก รวมไปถึงข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยศาลตัดสินสั่งจำคุก รวม 9 ปี

ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี รองผอ.กองกิจการต่างเทศฯ ชี้แจง

ด้าน ร.ต.อ.เขมชาติกล่าวเสริมว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศออสเตรเลียสามารถแกะรอยจากภาพสื่อลามกอนาจาร ก่อนประสานดีเอสไอจนนำไปสู่การจับกุมนายฐกร ซึ่งมีพฤติการณ์ชอบทำทีเข้าไปตีสนิทกับผู้ปกครองของเหยื่อผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก โดยออกอุบายว่าเป็นโมเดลลิ่งก่อนเชิญชวนให้บุตรหลานเข้ามาเป็นดารา- นักแสดง

นายดนุเดช แสงแก้ว หรือเนเน่ ถูกจับ

“เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ นายฐกรจะลงมือล่วงละเมิดทางเพศในทันที โดยก่อเหตุในลักษณะนี้กับเหยื่อมาแล้วหลายราย พร้อมทั้งบันทึกภาพไว้ทั้งหมดก่อนถูกจับกุมได้ดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมกระทั่งสืบทราบว่า ไฟล์ภาพสื่อลามกอนาจารกว่า 5 แสนไฟล์ถูกจัดเก็บไว้ที่สำนักงานโมเดลลิ่ง “เนเน่โมเดลลิ่ง” โดยนายดนุเดชมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างชัดเจน จึงขยายผลนำกำลังเข้าตรวจยึดและจับกุมตัวผู้ต้องหาดังกล่าว” ร.ต.อ.เขมชาติกล่าว

นายดนุเดช โมเดลลิ่งแสบรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลมีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, กระทำชำเราและพยายามกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 15 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ช่างน่าเสียดายแทนที่ต่างชาติจะจดจำเมืองไทยในแง่ดีๆ กลับกลายเป็นมาจำได้เพราะเรื่องฉาวโฉ่ไปเสียได้

วสันต์ ทิพย์ประโภชน์

ชาญพงษ์ บุญอุทิศ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน