สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีสยองบุรีรัมย์เสี่ยร้านเบาะหึงเมียลั่นไกดับต่อหน้าลูก
ย้อนคดีสยองบุรีรัมย์เสี่ยร้านเบาะหึงเมียลั่นไกดับต่อหน้าลูก : แม้นเพิ่งจะแต่งงานกันมาเพียงไม่กี่เดือน แต่เมื่ออารมณ์หึงหวงพลุ่งพล่านจนขาดสติ ชีวิตคู่ของ น.ส.จันทร์จิรา พินิจรัมย์ หรือกี้ อายุ 23 ปี กับ นายสุริชัย อังกูรเจริญพร หรือ นิว อายุ 33 ปี เสี่ยเจ้าของร้านรับทำเบาะก็มีอันสิ้นสุดลง แต่การจากกันครั้งนี้กลายเป็นการจากกันชั่วนิรันดร์
ย้อนไปเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 ก.พ. ร.ต.อ.วีระชน ปรากฏมาก รองสว. (สอบสวน) สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านหลังหนึ่งในอ.กระสัง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.บุรีรัมย์ และแพทย์เวรร.พ.กระสัง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างหน้าทีวีพบศพน.ส.จันทร์จิรา พินิจรัมย์ หรือกี้ อายุ 23 ปี นอนหงายเสียชีวิตในสภาพเลือดท่วมตัว พบบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณชายโครงทั้งสองข้าง และตามลำตัวรวม 4 นัด ทั้งยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 4 ปลอก จึงรวบรวมไว้เป็น หลักฐาน
จากการสอบสวนนางแต๋ว พินิจรัมย์ อายุ 65 ปี แม่ผู้เสียชีวิตที่ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนถึงกับเป็นลม ให้การทั้งน้ำตาว่า ผู้ก่อเหตุคือลูกเขยชื่อนายสุริชัย อังกูรเจริญพร หรือนิว อายุ 33 ปี เสี่ยเจ้าของร้านรับทำเบาะที่ จ.ระยอง
นางแต๋วเล่าว่าขณะตนพร้อมสามี ลูกสาว และหลานสาววัย 4 ขวบ นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกัน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าบ้าน จึงลุกเดินไปเปิดก็เห็นนายสุริชัย ลูกเขยยืนอยู่บอกว่าอยากคุยกับน.ส.จันทร์จิรา แต่ทั้งสองคุยกันได้ไม่นานก็มีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง ไม่ถึง 10 นาที จับใจความได้ว่าเป็นเรื่องเงินและเรื่องหึงหวงกัน แต่ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะคิดว่าเป็นสามีภรรยากัน แล้วจู่ๆ ลูกเขยก็พูดขึ้นว่า “จะจบหรือไม่จบ ถ้าเธอไม่จบพี่ก็ไม่จบ เดี๋ยวพี่จะไปแจ้งตำรวจนะ” ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าที่ลูกเขยพูดว่าจะแจ้งตำรวจจะแจ้งเรื่องอะไร จากนั้นนายสุริชัยก็ยืนขึ้นชักปืนออกมายิงลูกสาวหลายนัดจนนอนแน่นิ่งต่อหน้าต่อตาของตนแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่แม้กระทั่งจะได้ร้องขอชีวิตลูกสาวด้วยซ้ำ ที่สำคัญตอนนั้นหลานสาววัย 4 ขวบลูกของน.ส.จันทร์จิราก็เห็นเหตุการณ์เพราะวิ่งเล่นอยู่หน้าทีวี
ขณะที่นายประยูร พินิจรัมย์ พ่อผู้เสียชีวิต ให้การว่า หลังจากลูกสาวเลิกรากับสามีเก่ามาประมาณปีกว่า ก็มาคบหากับนาย สุริชัย ผู้ก่อเหตุ โดยมีลูกสาวติดมาด้วย 1 คน และเพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อปลายเดือน ต.ค. 63 หลังแต่งงานลูกสาวก็ไปอยู่กับกินกับนาย สุริชัย ที่จ.ระยอง
ช่วงที่อยู่จ.ระยอง ลูกสาวจะโทรศัพท์มาบอกแม่ว่ามีปากเสียงกับนายสุริชัยบ่อยครั้งเพราะนายสุริชัยเป็นคนขี้หึงชอบระแวงว่าลูกสาวตนจะนอกใจ แต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานายสุริชัย ลูกสาวและหลานสาว ก็เดินทางมาพักที่บ้านอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วนายสุริชัยก็กลับไปทำงานที่จ.ระยอง แต่ลูกสาวอยู่บ้านต่อไม่ได้กลับไปด้วย
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรับไม่ได้และไม่ให้อภัยนายสุริชัยอย่างเด็ดขาดเพราะฆ่าลูกสาวตนเองอย่างโหดเหี้ยม กระหน่ำยิงตั้งหลายนัดทั้งที่ไม่มีทางสู้ แถมก่อเหตุต่อหน้าแม่ยาย และลูกสาววัยเพียง 4 ขวบ โดยไม่สะทกสะท้าน อยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.วิษณุสั่งการให้ตั้งจุดสกัดทุกเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ก็สามารถสกัดจับตัวนายสุริชัย ผู้ก่อเหตุได้ขณะขับรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 3 กช 2020 กรุงเทพฯ ผ่านมาทางถนนหน้าโรงพักเพื่อจะหลบหนี พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวนนายสุริชัยยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุยิงน.ส.จันทร์จิรา ภรรยาของตัวเองจริง เนื่องจากระแวงว่าภรรยาจะปันใจให้ชายอื่นจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง จึงโมโหชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาด้วยออกมากระหน่ำยิงภรรยาจนเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” และข้อหา “มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” คุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อตัดสินใจจบชีวิตคู่ด้วยความรุนแรง ก็มีแต่ทางสยองเท่านั้นที่รออยู่
สุรชัย พิรักษา, เรืองรุจ วังแจ่ม
เรื่อง/ภาพ