คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
แฉเหลี่ยมจิ้งจอกสังคม – มีคำกล่าวว่า ‘‘คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ” ในสังคมปกติก็ยังเกิดเรื่องราวเป็นคดีความไม่เว้นแต่ละวัน ยิ่งเป็นในโลกโซเชี่ยลที่ไม่เห็นหน้าค่าตากัน จะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่คุยกับเราอยู่เป็นตัวจริงเสียงจริง จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อโดยง่าย
เช่นเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่หลงตกเป็นเหยื่อของจิ้งจอกสังคมจนทำให้ชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็น เรื่องราวเธอถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ภายหลังพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ. สั่งการให้ พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.ปพ. พ.ต.ต.ปฐมพงศ์ ทอง จํารูญ สว.กก.วิเคราะห์ฯ บก.ปพ.
นำกำลังคอมมานโดร่วมกับตํารวจ สภ.เมืองราชบุรี เข้าจับกุมนายจักราวุฒิ ยิ้มพัฒน์ อายุ 26 ปี ลูกจ้างของอุทยานแห่งชาติบ้านนาสาร ตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรี ข้อหา ”กรรโชกทรัพย์และรีดเอาทรัพย์” ที่หน้าบ้านเลขที่ 84/7 ถ.คลองหา ต.นาสาร อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางในคดีกว่า 26 รายการ เช่นคลิปอนาจารหญิงสาวและเด็ก
เฟซบุ๊กปลอมหลอกเหยื่อ
จากการจับกุมทราบว่า เมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2563 น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ผู้เสียหายได้เล่นเฟซบุ๊กแล้วไปพบผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อว่า ”พรพิมุข พัฒสังวาลย์” ทราบภายหลังคือนายจักราวุฒิ ผู้ต้องหารายนี้โพสต์ข้อความเชิญชวนหญิงสาวที่สนใจจะถ่ายภาพเซ็กซี่ พร้อมมีการเสนอค่าตัวราคาสูง ผู้เสียหายรู้สึกสนใจและอยากหารายได้พิเศษจึงเข้าไปพูดคุยกับผู้ต้องหาที่นึกว่าเป็นผู้หญิงสาวตามรูปโปรไฟล์เพื่อตกลงที่จะถ่ายภาพ โดยผู้เสียหายยังได้ถ่ายภาพเซ็กซี่ของตนเป็นตัวอย่างส่งไปให้กับผู้ต้องหาใช้พิจารณาด้วย
ต่อมาน.ส.เอก็ได้รับแจ้งว่ารูปที่ส่งมายังไม่ผ่านพอที่จะได้ค่าจ้าง พร้อมหว่านล้อมให้ลองถ่ายภาพที่มีความเซ็กซี่มากขึ้น ผู้เสียหายก็หลงเชื่อจึงได้ถ่ายภาพโป๊เปลือยของตนเองส่งไปให้ดูอีกครั้ง ปรากฏว่าครั้งนี้เมื่อผู้ต้องหาได้รับภาพโป๊เปลือยแล้วก็ได้หลอกให้น.ส.เอถ่ายภาพมากขึ้นอีกหลายๆ มุมเพื่อแลกกับค่าจ้าง จํานวน 2 แสนบาท
เฟซบุ๊กจริง
น.ส.เอ จึงถ่ายภาพโป๊เปลือยของตนเองส่งไปให้ผู้ต้องหาดูอีก ในครั้งนี้ผู้ต้องหาได้หลอกขอรหัสผู้ใช้งาน (User) และ รหัสผ่าน (Password) บัญชีเฟซบุ๊กของน.ส.เอ โดยอ้างว่าจะนําไปส่งงานให้กับผู้ว่าจ้าง เหยื่อก็หลงเชื่อยอมมอบรหัสผู้ใช้งานไปให้ หลังจากนั้นน.ส.เอก็ไม่สามารถเข้าใช้งานเฟซบุ๊กของตนได้อีกเลย จนต้องสมัครใหม่
ต่อจากนั้นประมาณเดือนมิถุนายนปีเดียวกัน ผู้ต้องหาก็ส่งคําขอเป็นเพื่อนทางเฟซฯ แต่น.ส.เอไม่ตอบรับ ผู้ต้องหาจึงส่งข้อความมาข่มขู่เรื่องภาพโป๊เปลือยว่าจะนําไปโพสต์ประจาน แต่ถ้าหากโอนเงินไปให้ก็จะไม่นําภาพดังกล่าวไปประจาน ด้วยความกลัวน.ส.เอจึงยินยอมโอนเงินไปให้ โดยผู้ต้องหาก็ให้ติดต่อและโอนเงินไปให้บัญชีของเพื่อนที่จ.สุราษฎร์ธานี
และในวันเดียวกันได้มีผู้ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า ”วีรบุรุษ นิรนาม” ได้ทักข้อความมาหาน.ส.เอ อ้างว่าเป็นเพื่อนของผู้ต้องหา พร้อมบอกเลขบัญชีธนาคารเพื่อให้โอนเงิน ปรากฏว่าหลังจากโอนเงินไปแล้ว ผู้ต้องหายังตามข่มขู่น.ส.เอให้ส่งคลิปวิดีโอส่วนตัวไปให้อีก และยังให้โอนเงินไปให้เพิ่มอีกหลายครั้งด้วย
เป็นวิทยากรของอุทยานฯ
ต่อมาปรากฏว่า น.ส.เอไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้ผู้ต้องหาได้เพราะถูกให้ออกจากงานช่วงโควิดระบาด สุดท้ายก็จำต้องไปขายบริการทางเพศเพื่อส่งเงินที่ได้จากการค้าประเวณีให้ผู้ต้องหา จนต้องเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความ
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมร่วมกับตํารวจสภ.เมืองราชบุรี สืบสวนจนทราบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ”พรพิมุข พัฒสังวาลย์” และ ”วีรบุรุษ นิรนาม” ทั้ง 2 คนก็คือ นายจักราวุฒิ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นลูกจ้างประจําอุทยานแห่งชาติและยังมีหน้าที่เป็นครูฝึกให้กับลูกเสือเนตรนารีที่มาเข้าค่ายที่อุทยานแห่งชาติอีกด้วย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายศาลเข้าจับกุมดังกล่าว
นาทีจับ
สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตอนแรกตนต้องการดูภาพและคลิปโป๊ของเหยื่อเพื่อเอามาเก็บดูไว้เอง แต่เมื่อน.ส.เอหลงกลส่งภาพโป๊มาให้แล้วไม่อยากทำต่อ ตนก็จะข่มขู่ว่าถ้าไม่ส่งภาพมาให้อีกก็จะปล่อยภาพและคลิปประจานไปให้คนที่รู้จักกับผู้เสียหายดู จากนั้นก็บังคับให้เหยื่อส่งคลิปในรูปแบบที่ตัวเองต้องการมาให้หากไม่ได้ก็ให้ส่งเป็นเงินมาแทน
ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อส่งภาพโป๊มาให้ดูประมาณ 10 คน แต่เมื่อถูกข่มขู่ว่าจะโพสต์ประจานก็บล็อกเฟซบุ๊กไป มีแต่ น.ส.เอ คนเดียวเท่านั้นที่หลงกลตกเป็นเหยื่อจึงหลอกเอาเงินเรื่อยมา
จิ้งจอกสังคมรายนี้ถูกแจ้งข้อหาตามหมายจับ ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองราชบุรี ดำเนินคดีต่อไป
