คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีเชือดคอสยองกรุง – แม้จะยังคาใจต่อคำให้การของหญิงสาว ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอุกอาจกลางเมืองกรุง แต่เมื่อผู้ต้องหารับสารภาพและยังไม่อาจหาหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่สามได้ ตำรวจจึงต้องคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลตามขั้นตอน หลังควบคุมตัวไว้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด

ที่ตำรวจยังกังขาเนื่องจากฆาตกรเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ส่วนคนตายนั้นคือครูมวย และยังเป็นอดีตนักชกมวยไทยที่มีประวัติโชกโชนบนสังเวียนผ้าใบ

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงคืนรอบต่อวันที่ 21-22 ก.พ. พ.ต.ท. พรประสิทธิ์ มาละมัย สว.สอบสวน สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุมีชายถูกปาดคอเสียชีวิต ภายในซอยอ่อนนุช 70/1 แขวงและเขตประเวศ กรุงเทพฯ

จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผกก.สน.ประเวศ, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.), แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ปากซอยหมู่บ้านเสรีอ่อนนุช 19 พบศพนายวิชาญ หรือ แดง มะลิทอง อายุ 46 ปี สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงวอร์มสีดำ ไม่ใส่รองเท้า และมีกางเกงในสีดำตกอยู่ใกล้ศพ

หามีดของกลาง

จากการตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์ ถูกปาดที่บริเวณลำคอนอนหงายจมกองเลือดอยู่ใกล้รถยนต์โตโยต้า วีออส มีคราบเลือดแห้งจำนวนมากติดอยู่รอบคัน และที่บริเวณเบาะนั่งด้านหลังภายในรถพบคราบเลือดอีกจำนวนหนึ่ง

จากการสอบถามพยานในละแวกใกล้เคียงให้การว่า ช่วงเวลา 22.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับเข้ามาในบริเวณดังกล่าวจำนวนหลายคัน จากนั้นได้ยินเสียงคนร้องโวยวาย แต่ไม่กล้าออกมาดูเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย ก่อนที่จะพบว่ามีผู้เสียชีวิตดังกล่าว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

จากการสืบสวนประวัติผู้ตายเป็นอดีตนักมวยเก่า ฉายา วิชาญน้อย ศิษย์เจ๊พเยาว์ ปัจจุบันเปิดค่ายมวยชื่อ 789 มวยไทยยิม และเป็น ครูมวยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ

สอบผู้ต้องหา

ก่อนเกิดเหตุบอกทางญาติว่าเดินทางมาจาก จ.สุพรรณบุรี เพื่อมาทำธุระที่กรุงเทพฯ ก่อนจะพบเป็นศพ นอกจากนี้ผู้ตายยังมีกำหนดการที่จะเข้าอุปสมบทในวันที่ 20 มี.ค.นี้ด้วย

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 เข้ามาติดตามคดีนี้ทันที เบื้องต้นติดต่อไปยังญาติที่ จ.สุพรรณบุรี ได้ข้อมูลว่าผู้ตายมีครอบครัวแล้ว มีลูก 1 คน ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผู้ตายไปติดพันสาววัย 32 ปี ซึ่งฝ่ายหญิงเองก็มีสามีแล้ว

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.รุดคุมคดีเอง

เมื่อกลางปีที่ผ่านมาสามีฝ่ายหญิงรู้ว่าภรรยานอกใจแอบคบกับ ผู้ตายทำให้เกิดความโกรธแค้นก่อเหตุขับรถชนนายวิชาญจนบาดเจ็บ และได้แจ้งความไว้ที่ สน.ประเวศ หลังจากนั้นอีกไม่กี่เดือนนายวิชาญถูกกลุ่มคนร้ายหลอกให้มาพบ โดยอ้างว่าจะฝึกมวย แต่ถูกอุ้มไปทำร้ายบาดเจ็บก่อนปล่อยตัว นายวิชาญได้แจ้งความไว้ที่ สน.อุดมสุข

หลังเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้นายวิชาญต้องพาลูกและภรรยาไปหลบอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี นาน 2-3 เดือน ก่อนเกิดเหตุครั้งนี้นายวิชาญได้อ้างกับเมียว่าจะมาทำธุระที่กทม. กระทั่งมาถูกคนร้ายฆ่าปาดคอดังกล่าว

เจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่หญิงสาวคนดังกล่าวทันที

วันที่ 23 ก.พ. 1 วันให้หลัง เจ้าหน้าที่เชิญตัวสาวคนดังกล่าวมาให้ปากคำ ซึ่งเธอก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดี อ้างว่าขณะเกิดเหตุไปเจรจากับผู้ตายภายในรถ เพื่อขอยุติความสัมพันธ์กัน

แต่เกิดมีปากเสียงและผู้เสียชีวิตพยายามบีบคอผู้ต้องหา ผู้ต้องหาจึงคว้ามีดที่เตรียมมาปาดคอไป 1 ครั้ง ก่อนจะนั่งทบทวนว่าจะหลบหนีหรือเข้ามอบตัว แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจนำมีด มือถือของผู้ตายไปโยนทิ้ง และหลบหนีไปตั้งหลัก กระทั่งตำรวจไปเชิญตัวมาจึงตัดสินใจยอมรับสารภาพทันที พร้อมยืนยันว่าลงมือตามลำพังเท่านั้น

เมื่อผู้ต้องหายอมรับสารภาพเองทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขอฝากขังที่ศาลอาญาพระโขนง ในวันที่ 24 ก.พ.

แต่จากคำสัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ผกก.สนประเวศ ยืนยันว่าตำรวจยังไม่ได้หยุดการสืบคดีอยู่แค่นี้

เพราะยังมีข้อสงสัยบางอย่าง หากพบว่าเชื่อมโยงถึงใคร เพิ่มเติมจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น

สมศักดิ์ ชฏารัตน์

พนม คงเจริญ

ณเดช โรจนประดิษฐ์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน