คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ตามตร.ไขคดีฆ่าน้องหลิว – แม้นจะผ่านมานานถึง 8 ปีแล้ว แต่นาย สมศักดิ์และนางสุรีพรรณ ยอดพะเนา พ่อและแม่ของ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือน้องหลิว ที่หายตัวไปอย่างลึกลับจากบริเวณห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาคลองรั้ง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2555 ก็ยังคงหวังว่าจะได้รู้ข่าวคราวของลูกสาว แม้นจะหวั่นใจอยู่ลึกๆ ว่ามันอาจไม่ใช่ข่าวดี
เรื่องราวของน้องหลิวเริ่มขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน หลังเจ้าตัวเดินทางจากบ้านที่ ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มาทำงานที่นิคมอุตสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้ไม่ถึง 1 เดือน ก่อนหายตัวไปลึกลับ
หลังจากน้องหลิวหายไป ครอบครัวเดินทางมาเก็บข้าวของเครื่องใช้ภายในหอพัก ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 304 ภายในห้องพักยังมีเสื้อผ้าของใช้ทั่วไปในสภาพปกติไม่มีร่องรอยการรื้อค้น
ครอบครัวออกติดตามหา ทั้งสอบถามจากเพื่อนสนิทและเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่นิคมอุตสาหกรรม 304 ต่อมามีผู้ปล่อยข่าวลือว่า น้องหลิวน่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศ
กระทั่งปี 2562 ทางครอบครัวเห็นว่าน้องหลิวขาดการติดต่อไปนานแล้ว จึงพยายามอีกครั้งในการติดตามหาน้องหลิว โดยแจ้งคนหายมายังมูลนิธิกระจกเงาให้ช่วยติดตามประสานตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวของคนหายในระบบราชการ แต่ไม่พบว่ามีการมาทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่พบความเคลื่อนไหวในระบบบัตรทอง/ประกันสังคม และที่สำคัญไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ จึงมีการตั้งประเด็นเรื่องน้องหลิวอาจเสียชีวิตแล้ว ซึ่งครั้งนี้ทางครอบครัวสงสัยว่าข้าราชการครูคนหนึ่งที่น้องหลิวคบหาอยู่อาจเกี่ยวข้องด้วย
ทีมงานมูลนิธิกระจกเงาลงพื้นที่ประสานงานตามโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อจุดที่หายไป กระทั่งพบข้อมูลศพนิรนามที่ใกล้เคียงกับน้องหลิวจำนวน 3 ศพ ซึ่งทั้งหมดถูกฆาตกรรมเสียชีวิตและนำศพไปทิ้งอำพราง
ต่อมามีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมารดาน้องหลิว ตรวจเทียบกับดีเอ็นเอศพนิรนามทั้ง 3 ศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างกระดูกของศพไว้ เมื่อนำมาเทียบดีเอ็นเอกันพบว่า ศพหญิงนิรนามที่ถูกพบเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2555 บริเวณไร่อ้อย หมู่ 13 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ตรงกับดีเอ็นเอของมารดาน้องหลิว
โดยศพมีสภาพเน่าอืด ใบหน้าเปลี่ยนรูป ไม่มีเอกสารติดตัว ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบบาดแผลจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายจุด จากนั้นถูกส่งไปฝังที่สุสานแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี นานกว่า 8 ปี กลายเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ กระทั่งเกิดการติดตามจนทราบว่าศพดังกล่าวเป็นน้องหลิวที่หายตัวไป
ต่อมาวันที่ 18 ก.พ. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผช.ผบ.ตร. พร้อมคณะ ได้เดินทางมา สภ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าวร่วมกับ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และชุดคลี่คลายคดี
พล.ต.ต.ณัฐพงษ์เผยหลังประชุมกว่า 3 ช.ม.ว่า ที่ผ่านมาสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 20 ปาก รวมถึงสอบปากคำผู้ต้องสงสัย รายดังกล่าว หลังจากยืนยันศพนิรนามว่าเป็นน้องหลิวเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งก็ยอมรับว่า เคยพบกับผู้เสียชีวิต 1 ครั้ง ส่วนรายละเอียดยังไม่ขอเปิดเผย จะเป็นผลทางคดี
วันรุ่งขึ้น พล.ต.ท.รอย สั่งการทีมสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 นำหมายศาลจับเลขที่ จ.28/2564 ของศาลจังหวัดสระแก้ว ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของตนเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุอันสมควร” เข้าจับกุมตัว นายจุมพล หรือ ผอ.ตุ๊ อายุ 56 ปี ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ดอนปรู อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่ สภ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยนายจุมพลยังคงให้การปฏิเสธ
ด้านนางสุรีวรรณ์ ยอดพะเนา แม่ของน้องหลิว กล่าวว่า ในเรื่องคดีความก็ขอให้ตำรวจดำเนินการไป และดีใจที่ได้พบเถ้ากระดูก จะได้ทำบุญให้ลูกได้ ซึ่งดีใจมากที่ตำรวจจับตัว ผอ.ได้ ตอนแรกคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลย เพราะ ผอ.ผู้นี้ก็เคยมากินมานอนที่บ้านตน ตนก็รู้จักดี ไม่น่าเชื่อว่าจะทำเช่นนี้ อยากให้ตำรวจลงโทษให้หนักถึงขั้นประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน
ผอ.ตุ๊จะผิดจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่ สุดท้ายแล้วศาลยุติธรรมเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน
ไตรรัตน์ มีวงษ์ / เรื่อง/ภาพ
