วัยรุ่นวัยแรง ฮอร์โมนพลุ่งพล่าน มีเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ใช้กำลังตัดสิน หากเป็นเมื่อ 30 ปีก่อนก็คงแค่ชกต่อยกันด้วยหมัดลุ่นๆ แต่ในยุคที่หลายคนเสพติดความรุนแรง หมัด เท้า เข่า ศอก มันจึงยังไม่พอ
เช่น เหตุสลดที่เกิดขึ้นกับนายพันยศ เจริญภักดี หรือ น้องปลื้ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.พิษณุโลก
แฟนสาวกอดลา
ย้อนไปเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 2 เม.ย. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันบริเวณหน้าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม ริมถนนเส้นบายพาสสายเลี่ยงเมืองแยกเอกซเรย์มุ่งหน้าแยกบ้านกร่าง พื้นที่หมู่ 8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงประสานตำรวจสายตรวจและตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพมงคลธรรมรุดตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบกลุ่มนักเรียนชายหญิงจำนวนมากอยู่ในอาการแตกตื่น ตกใจ ยืนมุงดูร่างของนายพันยศ เจริญภักดี หรือ ปลื้ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5.2 ถูกคมกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ เลือดไหลนองพื้น เสียเลือดจำนวนมาก กู้ภัยเร่งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
นายบุญร่วม หอมสะอาด รอง ผอ.โรงเรียนเล่าว่า จากการสอบถามกลุ่มเพื่อนของน้องปลื้มเล่าให้ฟังว่า น้องปลื้มมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเพื่อนนักเรียนชาย ม.5.10 คนนึง เคยชกต่อยกันมาหลายครั้ง ล่าสุดเช้าวันนี้ฝ่ายปกครองได้เรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายไปตกลงกัน เรื่องเหมือนจะจบ แต่กลับมีการนัดเคลียร์เปิดอกคุยกันในเย็นวันนี้ โดยน้องปลื้มกับคู่กรณีตกลงกันว่าจะไม่มีการทำร้ายร่างกาย ไม่มีอาวุธ
คุมทำแผนฯ
พอถึงเวลานัดได้ปรากฏว่าคู่กรณีน้องปลื้มกลับขับรถพากลุ่มคนนอกโรงเรียนมาด้วย แต่ตัวคู่กรณีน้องปลื้มกลับไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ขับรถออกไปจากจุดเกิดเหตุเพียงแป๊บเดียว น้องปลื้มก็โดนคนนอกโรงเรียนนับ 10 คนรุมทำร้ายร่างกายบนศาลาหน้าโรงเรียน ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะเห็นกลุ่มที่ทำร้ายน้องปลื้มมีอาวุธทั้งมีดและปืน
ต่อมามีอาจารย์มาเห็นเหตุการณ์จอดรถแล้วรีบลงไปห้ามแต่ยังไม่ทันถึง น้องปลื้มก็พยายามเอาตัวรอดกระโดดลงมาจากศาลา ก่อนที่คนในกลุ่มนั้นใช้อาวุธปืนยิงมาที่น้องปลื้ม โดยที่หัวล้มลงไป ต่อหน้าครู เพื่อนนักเรียนจำนวนมาก จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็รีบขับรถจักรยานยนต์ หนีไป
คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร เพราะรู้ตัวคู่กรณีอยู่แล้ว ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่นานผู้ปกครองก็พาหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว พร้อมให้การซัดทอดว่าคนร้ายที่ลงมือยิงคือนายพัฒนกร หรือ ไอ้ตั้ม อายุ 19 ปี โดยหลังก่อเหตุเจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า “ขอโทษนะครับที่ทำให้มันเป็นเรื่องขึ้นแบบนี้ ถ้าไม่มีใครมาอยู่ในจุดที่ผมอยู่ไม่มีใครเข้าใจหรอกครับ ถ้าเขาไม่ทำผมก็คงไม่ทำหรอกครับ ผมรู้ตัวผมผิด เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ผมยอมรับผิดครับ แต่ถ้าผมไม่พูดอะไรเลยก็คงไม่มีใครเข้าใจหรอกครับ ถ้าผมไม่โดนทำก่อนผมคงไม่ทำหรอกครับ ทุกคนย่อมมีเหตุผลของตัวเอง ผมผิด ผมยอมรับผิดครับ”
นายพัฒนกร หรือ ไอ้ตั้ม มอบตัว
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก สั่งให้เร่งล่าตัวไอ้ตั้มอย่างรีบด่วน หลังถูกกดดันหนักสุดท้ายไอ้ตั้มก็ติดต่อขอ มอบตัว หลังหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่จ.สุโขทัย จากนั้นพ.ต.อ.ภาคภูมิสั่งการให้ชุดสืบสวนเดินทางไปรับตัวกลับมาสอบสวนที่สภ.เมืองพิษณุโลก เบื้องต้นเจ้าตัวยอมรับว่าใช้อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ยิงนักเรียนชายคู่อริจริงและทำคนเดียว สาเหตุมาจากเรื่องทะเลาะวิวาทในกลุ่มเพื่อน
หลังสอบสวนตร.แจ้งข้อหาพยายามฆ่าก่อนนำตัวส่งฝากขัง วันเดียวกันพ.ต.อ.ภาคภูมิก็ได้รับแจ้งว่าน้องปลื้มเสียชีวิตแล้ว โดยหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะตั้งข้อหานายพัฒนกรเพิ่มในชั้นศาล ในข้อหาฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนาอีกครั้ง ขณะที่พรรคพวกที่ร่วมก่อเหตุที่เหลืออีก 5-6 คน สุดท้ายก็ต้องทยอยถูกจับจนครบแน่นอน
อนุชา แก้วคำมา เรื่อง/ภาพ
