กฤษณะ เชิญธงไชย

ณัฎฐนันท์ ศิรสันติวรกุล

เรื่อง/ภาพ

เวลาห่างกันไม่กี่ชั่วโมง กลับเกิดเหตุอหังการใน 2 มุมประเทศ ห่างกันนับพันกิโลเมตร เมื่อแก๊งวัยรุ่นกวนเมือง สุดเหิมบุกรุมตื้บคู่อริคาโรงพยาบาลเหมือนกัน

เหตุแรกเกิดขึ้นในกลางดึกวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา เมื่อกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนยกพวกบุกห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร กรูเข้ารุมทำร้ายวัยรุ่น 3-4 คนที่กำลังรักษาบาดแผลจากการถูกทำร้ายคาเตียงคนไข้

หนึ่งในกลุ่มคนร้ายใช้ไม้เบสบอลกระหน่ำฟาดคู่อริไม่ยั้งจนหนำใจ ก่อนพากันเดินออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่ก่อนจากยังยิงปืนขึ้นฟ้าหลายนัดเพื่อประกาศศักดา

พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รรท.ผกก.สภ.กระทุ่มแบน นำกำลังรุดไปตรวจสอบทันทีหลัง รับแจ้ง พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.ที่คนร้ายยิงทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลเกลื่อนพื้นถนนรวม 12 ปลอก

ส่วนผู้บาดเจ็บจากเหตุดังกล่าวมีทั้งหมด 3 คน โดย 2 คนเป็นชาวกระทุ่มแบนบาดเจ็บเล็กน้อย ทราบชื่อ นายเนวิน แป้นเงิน อายุ 24 ปี และ นายธีรยุทธ เชื้อแพ่ง อายุ 26 ปี

ผู้บาดเจ็บรายสุดท้ายเป็นชาวนครชัยศรี จ.นครปฐม อาการหนักสุด ชื่อ นายสุรเชษฐ์ อนันต์ชัยศิลป์ อายุ 26 ปี เพราะถูกกระหน่ำฟาดศีรษะแตกยับ แพทย์ต้องเย็บแผลให้กว่า 20 เข็ม และมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย

เหตุอุกอาจครั้งนี้มีหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลที่สามารถจับภาพพฤติกรรมและรูปพรรณคนร้ายทั้งหมดไว้ได้อย่างชัดเจน

สอบเพื่อนผู้บาดเจ็บทราบว่า ได้ข่าวนายสุรเชษฐ์ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บจึงพากันมาเยี่ยมประมาณ 10 คน

จังหวะนั้นเองกลุ่มคนร้ายก็เข้ามาไล่ทำร้ายจนต้องเผ่นกระเจิงคนละทิศละทาง โดยทั้งหมดยืนยันว่าไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน

ผ่านไปเกือบ 24 ชั่วโมง ตรงกับวันลอยกระทง 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ช่วงใกล้เที่ยงคืนก็เกิดเหตุแก๊งวัยรุ่นเปิดศึกตะลุมบอนคาห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลดอยเต่า อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่

พ.ต.ท.อาชวพล สุขสมเพียร รอง ผกก.สส.สภ.ดอยเต่า รรท.ผกก.สภ.ดอยเต่า เผยว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่หาข้อมูล สอบปากคำพยานและกลุ่มโจ๋ที่ถูกทำร้ายจนทราบตัวทั้งสองฝ่ายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเยาวชนในพื้นที่ อ.ดอยเต่า

สาเหตุสืบเนื่องจากทางอำเภอดอยเต่าจัดงานลอยกระทงขึ้นที่บริเวณแพและชายหาดดอยเต่า มีทั้งพายเรือแข่ง ดนตรี รำวง ประเพณีต่างๆ ทำให้มีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากทั้งในพื้นที่และต่างพื้นที่เข้ามาเที่ยวงาน และต่อมาหลังงานเลิกแล้วเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันหลายจุด

เจ้าหน้าที่มูลนิธิก็เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งรักษาที่โรงพยาบาล แต่ในพื้นที่มีแค่โรงพยาบาลดอยเต่าแห่งเดียวเท่านั้น ทำให้บรรดาคู่อริที่เพิ่งวิวาทกัน และกลุ่มเพื่อนที่รู้ข่าวแวะมาเยี่ยมต้องเผชิญหน้ากันอีกรอบ จึงยกพวกตะลุมบอนกันอีกรอบโดยไม่แคร์สายตาแพทย์พยาบาลและคนไข้อื่นที่ต้องวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด

กว่าจะเคลียร์เรื่องจนสงบก็ล่วงเข้าไปเวลาตีสามวันที่ 7 พ.ย.

แต่ทรัพย์สินและอุปกรณ์การแพทย์ของโรงพยาบาลพังเสียหายยับเยิน

หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.อาชวพล ประชุมร่วมกับ ว่าที่ร.ต.บำรุงเกียรติ วินัยพานิช นายอำเภอดอยเต่า และผู้ใหญ่บ้านบงตัน ผู้ใหญ่บ้านแอ่น พร้อมคู่กรณี เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงในพื้นที่

โดยที่ประชุมได้หารือกันเพื่อหาแนวทางและรับปากจะมาช่วยกันพัฒนาอำเภอดอยเต่าให้เป็นอำเภอที่น่าอยู่ มีประเพณีที่ดีงามและเป็นแหล่งสถานที่ ท่องเที่ยว และจะไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ซึ่งทุกฝ่ายก็เข้าใจและพร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุง

กระทั่งวันที่ 9 พ.ย. กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ทั้ง 2 ฝ่าย รวมกว่า 50 คน เข้าขอขมาต่อผอ.โรงพยาบาลดอยเต่า ด้วยความสำนึกผิดและร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณ ประโยชน์ให้กับทางโรงพยาบาลด้วย โดยการปรับปรุงภูมิทัศน์และทำความสะอาดบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสีย

ส่วนคดีที่ร.พ.กระทุ่มแบน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร.ลงพื้นที่คุมคดีด้วยตัวเอง ตำรวจในพื้นที่ ก็ทั้งจัดชุดไล่ล่าและกดดันผ่านครอบครัว ผู้ก่อเหตุที่มีหลักฐานโยงถึงทั้งหมด

กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดรวม 13 คน แยกเป็น 11 คนที่บุกเข้าไปในโรงพยาบาล ส่วนอีก 2 คนที่เหลือคือ นายอนุรักษ์ หรือ อาร์ม พุฒศิริ อายุ 31 ปี และ นายธิติพงศ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 40 ปี เป็นคนที่ยิงปืนข่มขู่หน้าโรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่ตรวจประวัติผู้ต้องหาทั้งหมดก็ต้องตกตะลึง เพราะแต่ละคนมีบัญชีความผิดด้านอาชญากรรมยาวเป็นหางว่าว ทั้งลัก วิ่ง ชิงปล้น ยาเสพติด ปล่อยเงินกู้นอกระบบ และหลายคนยังมีหมายจับติดตัวด้วย

แต่ทุกคนคงอดซ่าไปอีกนาน เพราะต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่หลังกำแพงคุก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน