อดิศร จิตตเสวี

พิรยุทธ นิ่มนนท์

เรื่อง/ภาพ

ตี3 วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ นายรณชัย เกิดวุฒิพร อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 9/325 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วยความเพลิดเพลิน ที่หน้า เซเว่น อีเลฟเว่น ซอยแจ้งวัฒนะ 14 แม้นจะมีวัยรุ่น 2 คนขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดใกล้ๆ เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจ

มารู้ตัวอีกทีก็เมื่อมีหน้าแข้งของหนึ่งในนั้นฟาดเข้าเต็มใบหน้า ก่อนจะตามมาทั้งหมัด ทั้งเท้า จนสลบเหมือด ทั้ง 2 คนร้ายค้นทรัพย์สินในตัวนายรณชัย ได้กุญแจรถจักรยานยนต์ และกระเป๋าสตางค์ ที่มีเงินอยู่ภายใน 1,500 บาท ก่อนแยกกันขี่รถจักรยานยนต์ที่ขี่มาก่อเหตุและของนายรณชัย หนุ่มผู้เคราะห์ร้ายหลบหนีไป

คดีนี้ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ติดตามจับกุมตัว 2 คนร้ายได้ แต่การสืบสวนจับกุมนำไปสู่ข้อมูลที่น่าตกใจ ด้วยกลายเป็นว่าทั้ง 2 คนร้าย เป็นเด็กที่แอบหลบหนีออกมาจากสถานพินิจเพื่อมาก่อเหตุ พอสะใจแล้วก็กลับเข้าไปเพื่อกบดานหนีการจับกุม

เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อบ่ายวันที่เกิดเหตุนั่นเอง โดยที่ สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.กฤษณ์พนธ์ เพ็ชรสดศิลป์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สำอาง ขาวสะอาด สว.สส. ร่วมกันสอบสวน นายเสกสรรค์ หรือ นิว แทนปั้น อายุ 19 ปี และ นายกันตวิชญ์ หรือ เนม มาลีพันธุ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันชิงทรัพย์ รถจักรยานยนต์ และทำร้าย นายรณชัย เกิดวุฒิพร อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 9/325 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. อดีตคนขับรถของอดีต ส.ส.สุรชาติ เทียนทอง

เหตุเกิดบริเวณหน้าเซเว่น อีเลฟเว่น ซอยแจ้งวัฒนะ 14 เมื่อเวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา ภายหลังติดตามจับกุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นสถานฝึกอบรมเยาวชนที่กระทำผิดของสถานพินิจ ตั้งอยู่ที่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

พ.ต.อ.มานะ เผยรายละเอียด การจับกุมว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ขณะที่นายรณชัยขี่รถจักรยาน ยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปี้ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนไปจอดบริเวณหน้าเซเว่น อีเลฟเว่น ซอยแจ้งวัฒนะ 14 แล้วลงจากรถไปนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ

ต่อมามีคนร้าย 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอด แล้วลงไปร่วมกันใช้กำลังทำร้าย โดยเตะต่อยนายรณชัย ได้รับบาดเจ็บ ก่อนแย่งเอากุญแจรถจักรยานยนต์ และกระเป๋าสตางค์ มีเงินอยู่ภายใน 1,500 บาท จากนั้น ได้แยกย้ายกันขับรถของนายรณชัยและรถที่ขับมาหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พร้อมทั้งประสานสน.ใกล้เคียงจนทราบ ว่า รถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ตรงกับรถจักรยานยนต์ที่ถูก 4 คนร้ายปล้นชิง มาจากผู้เสียหาย บริเวณหน้าโรงเรียนพระหฤทัย ดอนเมือง ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง โดยร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บด้วย โดยเหตุดังกล่าว สน.ดอนเมือง เป็นผู้รับผิดชอบ และกำลังไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายอยู่เช่นกัน

ชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไล่เส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนพบว่าไปสิ้นสุดที่แฟลตการเคหะแจ้งวัฒนะ เมื่อไปตรวจสอบก็พบรถจักรยานยนต์ของกลางทั้งสองคดีถูกจอดซุกเอาไว้ ซ้ำยังพบตัวนายเอ อายุ 14 ปี และนายบี อายุ 17 ปี นั่งกินเหล้าอยู่ใต้ถุนแฟลต

เค้นสอบไม่นานทั้งคู่ก็รับสิ้น ว่าร่วมกับนายเสกสรรค์และนายกันตวิชญ์ ก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์จริง ซ้ำยังเผยอีกว่าทั้งนายเสกสรรค์และนาย กันตวิชญ์ แอบหลบหนีออกมาจากบ้าน กาญจนาภิเษก สถานฝึกอบรมเยาวชนที่กระทำผิดของสถานพินิจ ตั้งอยู่ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ก่อนมาชวนกันไปตระเวนก่อเหตุ ซึ่งพอได้รถจักรยานยนต์มาแล้วทั้งคู่ก็ขี่รถแยกกันไป

ตำรวจสอบเค้นจนทราบว่าทั้งคู่กำลังนั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้านกาญจนาภิเษก จึงประสานเจ้าหน้าที่สถานพินิจจนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนนายเอ อายุ 14 ปี และนายบี อายุ 17 ปี ที่ร่วมกัน ปล้นทรัพย์รถจักรยานยนต์ ถูกนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ดำเนินคดี

พ.ต.อ.มานะกล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติทั้งคู่ถือว่าโชกโชน เพราะ นายกันตวิชญ์ ถูกจับกุมในคดีชิงทรัพย์และร่วมกันโทรมหญิง ส่วนนายเสกสรรค์ เคยก่อเหตุทำร้ายพ่อเลี้ยงจนเสียชีวิตมาแล้ว จากนี้จะประสานให้พนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง อายัดตัวนายเสกสรรค์และนายกันตวิชญ์ ที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ ดำเนินคดีต่อไปด้วย

การให้โอกาสกับเยาวชนที่ก้าวพลาดไปนับเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่สุดท้ายแล้วหากยังทำตัวเป็นดอกบัวประเภทที่อยู่ใต้โคลนตม ก็ไม่มีทางรอดพ้นคุกตะราง ไปได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน