อุทาหรณ์คนรักหมาดุ!!
‘แบนด็อก’ขย้ำเจ้าของดับ
กูรูแนะวิธีเลี้ยงเพลย์เซฟ
โดย…อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล / นนทวรรณ มนตรี
เรื่อง/ภาพ
เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับข่าว ‘สุนัข’ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์กัดเจ้าของหรือคนอื่นต้องเลือดตกยางออกเบาบ้างหนักบ้าง รุนแรงถึงขั้นต้องสูญเสียชีวิตก็มีบ่อยครั้ง
โดยเฉพาะสุนัขสายพันธุ์ผสมอย่างอเมริกัน พิตบูล เทอร์เรีย ที่แรกเริ่มมีการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสุนัขบูลด็อกและสุนัขเทอร์เรีย
เพื่อต้องการสุนัขที่มีลักษณะของการล่าเหยื่อของสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย กับความแข็งแกร่งและความปราดเปรียวที่เหมือนกับสุนัขพันธุ์บูลด็อก
จุดประสงค์แรกที่สร้างสุนัขสายพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อการล่าสัตว์ในทวีปยุโรป เมื่อเผยแพร่ไปยังสหรัฐก็ถูกนำไปใช้ต้อนสัตว์ในปศุสัตว์
บ้านเจ้านายใหม่
ด้วยความที่มีสัญชาตญาณนักล่า แข็งแรง และทรหดอดทน
ในอดีตจึงใช้ในการแข่งขันกัดสุนัข หรือสู้กับวัว!!?
เมื่อกว่า 10 ปี ในประเทศไทยก็นิยมแข่งขันกัดสุนัข แต่ถูกคนทั่วไปต่อต้านอย่างหนักจนค่อยซาหายไป
แต่ด้วยนิสัยอ่อนโยนกับคนที่มันรักทำให้หลายคนนิยมเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
ล่าสุดเกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อ นายวิศิษฐ์ สงวนมาก อายุ 56 ปี ถูกเจ้าไจแอนท์ สุนัขพิตบูล สายพันธุ์แบนด็อก อายุ 2 ปี ที่เลี้ยงไว้ด้วยความรักถึงขนาดให้นอนร่วมเตียงเดียวกัน
ลุกขึ้นมาขย้ำคออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่อตีสามวันที่ 15 เม.ย. เป็นแผลฉกรรจ์ที่คอ หู และหนังศีรษะเปิด เลือดสาดกระจายไปทั่วบ้านพักใน จ.ชลบุรี
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรีบนำร่างนายวิศิษฐ์ส่งรักษาที่ร.พ.บางละมุง แต่อาการสาหัสต้องส่งรักษาต่อที่ร.พ.ชลบุรี
นายวิศิษฐ์ สงวนมาก ผู้เสียชีวิต
แต่แพทย์ก็สุดยื้อสิ้นลมไปในช่วงเช้าวันที่ 16 เม.ย.
ขณะที่ญาติยืนยันว่า ผู้ตายรักเจ้าไจแอนท์มาก ไม่เคยตีเลยสักครั้ง แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดถึงกัดขนาดนี้ ขอเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบเลี้ยงสุนัขพันธุ์พิตบูล
ขณะที่เจ้าไจแอนท์ในวันเกิดเหตุยังมีอาการหงุดหงิดคลุ้มคลั่งเห่ากระโชกตลอดเวลา ต้องประสานนายศึกษา เกตุนาค สมาชิกกลุ่มเค้กพิทบูล ทีมสารพัดพิท มายิงลูกดอกยาสลบ ก่อนส่งต่อให้สมาชิกกลุ่มรับไปเลี้ยงต่อตามประสงค์ครอบครัวผู้วายชนม์
หน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาลเบื้องต้นในวันเกิดเหตุ
ล่าสุดเจ้าไจแอนท์ได้ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ใน จ.นครสวรรค์ ไม่เหลือร่องรอยของความดุร้าย มีเพียงความเซื่องซึมที่ต้องพรากจากนายเก่า
‘มาร์ค พิทบูล’ หรือ นายณัชพล สุพัฒนะ ประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ‘Pitbullzone’ แสดงความคิดเห็นว่า สายพันธุ์ ‘แบนด็อก’ เกิดจากการผสมพิตบูลกับสายพันธุ์อื่นที่ตัวใหญ่ เช่น บูลมาสติฟฟ์ เกรตเดน ร็อตไวเลอร์ ให้มีความกล้าเหมือนพิตบูล แต่ตัวใหญ่ขึ้นเพิ่มแรงปะทะ
ในอดีตแบนด็อกถือเป็นสุนัขต้องห้าม!!?
เพราะผสมพันธุ์มาเพื่อใช้ในเกมล่าหมูป่าในต่างประเทศ ไม่เหมาะกับการเลี้ยง แต่ในไทยกลับเป็นที่นิยมมาประมาณ 15 ปี
สุนัขไซซ์ใหญ่อย่างแบนด็อก เราควรเลี้ยงแบบสุนัข ไม่ควรเอามานอนในห้องนอน ไม่ควรนอนเตียงเดียวกัน หมอนเดียวกัน ใช้ผ้าห่มผืนเดียวกัน
โฉมหน้าเจ้าไจแอนท์
เพราะอย่าลืมว่าแบนด็อกเป็นหมาตัวใหญ่ ดุ อย่าเอาอันตรายใส่ตัว
ถ้าเอามานอนด้วยถือว่าหาเรื่องตาย!!?
ถ้าเจอแบนด็อกนิสัยดีก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอตัวที่เป็นจ่าฝูง ที่มีความก้าวร้าว มันจะเป็นอันตรายกับเรา
‘มาร์ค พิทบูล’ ยังเผยข้อสังเกตว่า ถ้าเราจะเอาสุนัขพันธ์ุนี้มาเลี้ยงให้สังเกตตอนที่มันเด็กๆ เพราะในคอกหนึ่งมันจะมีตัวเป็นจ่าฝูงอยู่หนึ่งตัว
ให้เราโยนกระป๋องน้ำอัดลมไปกลางวงแบนด็อกที่มันเล่นอยู่ให้มันตกใจ
ถ้าตัวไหนวิ่งจุกตูดหนีไปอย่าเลี้ยง เพราะขี้ระแวง ขี้กลัวเกินไป โตมาอาจระแวงมากัดเจ้าของได้
ส่วนตัวที่กระโจนเข้าใส่ก็อย่าเลี้ยงเช่นกัน ตัวนี้ถือว่าเป็นจ่าฝูง
สิ่งสำคัญของการเลี้ยงแบนด็อก อย่าทำตัวเป็นทาสสุนัข สุนัขอาจจะรักเรา แต่มันจะไม่เคารพเรา เราต้องทำตัวเป็นนายมันไม่ใช่ทาส เราต้องเลี้ยงแบนด็อกเป็นลูกฝูง คือให้คนในครอบครัวของเราช่วยกันดูแล ดุหรือตีได้โดยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ เพื่อให้มันเคารพทุกคน
ส่วนกรณีที่แบนด็อกกัดเจ้าของ มี 2 กรณี คือ
1.สุนัขที่มีอาการจิตประสาท เช่น มีความกลัวมาตั้งแต่เด็ก มันจะระแวงเพราะความกลัว สามารถกัดเจ้าของได้
2.วิธีการเลี้ยงดู อย่าให้มันคิดว่ามันเป็นจ่าฝูง สุนัขอาจมองเราเหมือนเป็นเพื่อน แต่มันจะไม่เคารพเรา พร้อมลองดีเสมอ จุดจบจะสาหัสปางตาย หรือบางรายต้องเสียชีวิต
หากใครจะพาแบนด็อกออกนอกบ้านก็ต้องมีสายจูง อย่าชะล่าใจ ใครอยากเลี้ยงต้องเลี้ยงให้เข้าใจอย่างถ่องแท้
ส่วนใครที่ฟังข่าวแบนด็อกกัดเจ้าของตายแล้วจะนำไปปล่อยทิ้ง ถือว่าใจแย่มาก
ใจไม่ถึงอย่าเลี้ยง!!?
เพราะเลี้ยงแล้วต้องมีความรับผิดชอบ อย่าโยนภาระให้คนอื่น
