คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าแผนจับโจรผัว-เมีย – เพราะเมืองไทยไม่ค่อยมีจุดพักรถบรรทุกเช่นเดียวกับต่างประเทศ หรือเพราะความเคยชินของสิงห์รถบรรทุกทั้งหลาย ทำให้ยังมีภาพการจอดรถนอนริมถนนให้เห็นเป็นภาพปกติ กลายเป็นแหล่งทำมาหากินของสารพัดมิจฉาชีพ

บ่าย 3 โมงครึ่ง วันที่ 23 เม.ย. 2564 ตำรวจ สภ.พล จ.ขอนแก่น นำโดย พ.ต.ท.โชติคุณ บุญอนงค์พันธุ์ รอง ผกก.(สส.)สภ.พล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ควบคุมตัว นาย สมพร สุขตะคุ อายุ 36 ปี ชาว ต.เมืองปัก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา และ น.ส.ขันติกานต์ ชิวิราช อายุ 34 ปี ชาว ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

2 ผัวเมียแสบมาตรวจค้นที่บ้านพักภายในบ้านเลขที่ 81 ม.4 ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เพื่อหาของกลางในคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์ในเวลากลางคืน

ผ่าแผนจับโจรผัว-เมีย ลวง-ฉกสิงห์รถบรรทุก ตร.ดักซุ่มรอนาน4วัน

ถูกฉกของในรถ

จากการตรวจค้นสามารถตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย อาวุธมีดพกสั้นปลายแหลม จำนวน 2 เล่ม, ปืนปลอม จำนวน 1 กระบอก, โทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ จำนวน 10 เครื่อง, รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน ซึ่งจะถูกใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี

พ.ต.ท.โชติคุณ เปิดเผยเบื้องหน้าเบื้องหลังของคดีดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายทุบกระจกรถและลักทรัพย์สินภายในรถยนต์บรรทุกน้ำมัน ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 70-1017 บึงกาฬ เหตุเกิดขณะจอดรถริมถนนมิตรภาพสายขอนแก่น-นครราชสีมา ก่อนขึ้นสะพานข้ามทางรถไฟ หน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีพล ต.เก่างิ้ว อ.พล จ.ขอนแก่น

โดยผู้เสียหายแจ้งว่าผู้ก่อเหตุเป็นสามีภรรยากัน โดยพฤติกรรมการก่อเหตุจะให้ภรรยามาถามเสนอขายบริการทางเพศกับผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุกที่จอดนอนรอเวลาอยู่ตามริมถนนในราคา 200 บาท และพาไปที่ป่าละเมาะข้างทางเพื่อร่วมมีเพศสัมพันธ์ จากนั้นสามีตามมาทำทีเอะอะโวยวายด้วยความโมโห ทั้งข่มขู่และทุบรถยนต์ พร้อมทั้งขโมยทรัพย์สินในรถเป็นเงินสดจำนวน 4,000 บาท และแหวนทองน้ำหนัก 2 สลึง ก่อนทั้งคู่จะขี่จักรยานยนต์หลบหนีไปด้วยกัน

ผ่าแผนจับโจรผัว-เมีย ลวง-ฉกสิงห์รถบรรทุก ตร.ดักซุ่มรอนาน4วัน

สอบ 2 ผัวเมีย

พ.ต.ท.โชติคุณเปิดเผยต่อว่า หลังรับ แจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อม จนทราบว่ามีคู่สามี-ภรรยา ที่มีลักษณะและพฤติการณ์ดังกล่าวจริง โดยฝ่ายหญิงเป็นชาว อ.บ้านไผ่ มักจะขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดง-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จุดสังเกตจะมีสัมภาระติดรถจักรยานยนต์ตลอดเวลา และมักจะมาก่อเหตุช่วงเวลา 02.00-05.00 น.

ทางชุดสืบสวนจึงวางแผนปลอมเป็นประชาชนมาจอดรอในจุดเกิดเหตุและจุดใกล้เคียง เนื่องจากคาดการณ์ว่าคนร้ายจะย้อนกลับมา ก่อเหตุในบริเวณดังกล่าวอีกครั้ง โดยชุดสืบสวนซุ่มรออยู่นาน 4 วัน ก็พบ 2 สามีภรรยาที่ก่อเหตุย้อนกลับมาก่อเหตุซ้ำ จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ชาย-หญิงดังกล่าวได้ทิ้งรถจักรยานยนต์และวิ่งหลบหนีไปในความมืด เจ้าหน้าที่จึงยึดรถมาตรวจสอบจนทราบชื่อที่อยู่ของผู้ครอบครองรถ คือ น.ส.ขันติกานต์ ชิวิราช อายุ 34 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว

เมื่อเดินทางไปถึงได้พบ น.ส.ขันติกานต์และนายสมพร อยู่ภายในบ้านจึงควบคุมตัวมาสอบสวน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุทุบกระจกรถบรรทุกคันดังกล่าวและได้ใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่ผู้เสียหายจริงเนื่องจากผู้เสียหายเบี้ยวค่าตัว แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมยเงินจำนวน 4,000 บาทและแหวนทองของผู้เสียหายไปแต่อย่างใด ส่วนโทรศัพท์จำนวน 10 เครื่องผู้ต้องหาให้การอ้างว่าซื้อไว้ใช้เอง

แน่นอนว่าคำให้การดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อทั้งหมด จึงตรวจยึดเป็นของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนพร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำให้เสียทรัพย์ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ก่อนส่งตัวดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

สุพล บุญชื่นชม

จักรพันธ์ นาทันริ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน