ผ่าคดีจี้ทองห้างดังนนทบุรี – ร้านทองดังกล่าวอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออกสะดวกในการหลบหนี จึงตัดสินใจลงมือ คำตอบเดิมๆ ที่ได้จากการสอบถามบรรดาคุณโจรทั้งหลาย ถึงสาเหตุที่ลงมือจี้ชิงทรัพย์ร้านทองในห้างสรรพสินค้า

ย้อนไปเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 เม.ย. 2564 พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ ที่ห้างทองโต๊ะกัง 1991 ทองเยาวราช ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ชั้นจี ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสาน เจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุร้านทองตั้งอยู่ติดทางเข้าออกด้านหลังของห้าง ซึ่งเชื่อมกับซอยงามวงศ์วาน 25 จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คน รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซ.ม. สวมเสื้อแขนยาวมีฮู้ดสีดำ กางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าบู๊ต ใช้อาวุธปืนสั้นไม่ทราบขนาดเข้ามาข่มขู่ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท ไปจำนวน 38 เส้น แต่ทำตกไว้ 1 เส้น

คนร้ายได้ไปทั้งหมด 37 บาทเป็นมูลค่า 950,000 บาท จากนั้นวิ่งหลบหนีออกไปทางประตูด้านข้างห้าง จากนั้นได้ก่อเหตุจี้ชิงรถจยย.ของผู้ขับขี่ที่เป็นลูกค้าของห้าง เป็นรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม ซูเปอร์คัพ สีชมพู ทะเบียน 7 กช 3816 กรุงเทพฯ หลบหนีไปทางซอยงามวงศ์วาน 25 ออกถนนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าแยกพงษ์เพชร

ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมคนร้ายได้เมื่อเวลา 19.20 น.วิ่งเข้ามาที่ร้านทองกระโดดขึ้นไปยืนบนเคาน์เตอร์กระจก ในมือขวาถืออาวุธปืนสั้นสีดำ จากนั้นเอื้อมทุบกระจกตู้โชว์ด้านหลัง คว้าถาดใส่สร้อยคอทองคำได้ 1 ถาดก่อนกระโดดลงวิ่งหลบหนีไป

สอบสวนนายพงศักดิ์ แสงศรี อายุ 32 ปี เจ้าของรถจยย.ฮอนด้าดรีม ที่คนร้ายชิงไป ทราบว่า ตนกับแฟนมาซื้อของที่ห้างกำลังจะขับรถจยย.เพื่อกลับที่พัก จากนั้นตนได้ยินเสียงคนตะโกนให้หยุด คิดว่าเป็นคนรู้จักจึงหยุดรถและหันไปมอง คนร้ายเข้ามาประกบด้านข้างใช้อาวุธปืนจี้ให้ลงจากรถ แล้วขึ้นรถตนขับหลบหนีไป

คดีนี้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ลงมาควบคุมการติดตามคนร้าย ร่วมกับ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ. จว.นนทบุรี พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี

สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ เส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี จนทราบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายขี่รถจยย.คันที่จี้ชิงมาขับหลบหนีไปในพื้นที่ปทุมธานี ก่อนนำรถจยย.ไปจอดทิ้งไว้ที่ถนนรังสิต-นครนายก และนั่งรถเมล์ย้อนกลับมาที่ห้องพักภายในวัดบัวขวัญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้างที่เกิดเหตุ

หลังจากได้ข้อมูลเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังไปที่วัดบัวขวัญเพื่อหาข้อมูลคนร้าย จนพบนายดำรงหรือดำ ใจพักดี อายุ 57 ปี โดยนายดำรงสารภาพว่า ก่อนหน้านี้นายวรธน สมปาง อายุ 21 ปี หลานชายนำทองมาฝากไว้จำนวนหนึ่ง ส่วนทองอีกจำนวนหนึ่งนายวรธนนำไปขายก่อนจะเหมารถแท็กซี่กลับบ้านเกิดที่จังหวัดเลย เจ้าหน้าที่จึงยึดสร้อยทองที่ซุกซ่อนอยู่ใต้โต๊ะบูชาพระพุทธรูปได้จำนวน 29 เส้น เงินสดจำนวน 17,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา รับของโจร นำตัวไปดำเนินคดี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 32 ม.4 ต.ผาอินทร์แปลง อ.เอราวัณ จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนายวรธนผู้ต้องหา พบนายวรธนผู้ต้องหากำลังนอนหลับอยู่ จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน

นอกจากนี้นายวรธนยังเป็นทหารสังกัด ม.ทบ.28 ค่ายศรีสองรัก อำเภอเมืองเลย แต่อยู่ระหว่างหลบหนีทหาร หลังก่อเหตุนายวรธนได้ไปโกนหัว เพื่อพรางตัวหลบเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายวรธนสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะขัดสนเรื่องเงิน ส่วนอาวุธปืนปลอมที่นำมาใช้ก่อเหตุนั้น ได้สั่งซื้อทางออนไลน์ไว้นานแล้ว วันเกิดเหตุเห็นว่าร้านทองดังกล่าวอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออกสะดวกในการหลบหนี จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมตัวได้ในที่สุด

รู้มาตลอดว่าจุดอ่อนของร้านทองในห้างมีอะไรบ้าง หากผู้เกี่ยวข้องยังไม่ยอมแก้ไข คดีนี้คงไม่มีทางเป็นคดีสุดท้าย

สันติ ประหร่ำภากรณ์
ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน