ผ่าปฏิบัติการจับแก๊งยา – จับแต่รายย่อยๆ ทำไมไม่ไปจับพวกรายใหญ่ๆ วะ เชื่อว่าหลายคนคงเคยตั้งคำถามดังกล่าวเมื่อเห็นข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจับขี้ยา หรือผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่

ไม่ใช่ว่าตำรวจไม่อยากจับ แต่การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ที่มีทั้งเงินทุนและช่องทางในการต่อสู้คดี ต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานให้รัดกุม หากพลาดพลั้งรีบร้อนลงมือนอกจากจะจับไม่ได้แล้ว ยังไม่ต่างกับการปล่อยเสือเข้าป่า

เช่น เครือข่ายยาของ นายสุพจน์ ไชยเดช ที่กว่าเจ้าหน้าที่จะจับกุมได้ต้องใช้เวลาตามสืบอยู่นานถึง 2 ปี

ผ่าปฏิบัติการจับแก๊งยา

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 นำแถลง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 ที่บก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 3 คน คือ นายชลธาร เมืองพรม อายุ 20 ปี ชาวจ.ลำพูน นายอนันทชัย สมบุญ อายุ 28 ปี ชาวจ.เชียงใหม่ และนายสุพจน์ ไชยเดช อายุ 30 ปี ชาวจ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด และรถกระบะโหลดเตี้ย แต่งซิ่ง จำนวน 3 คัน

ที่มาที่ไปของการจับกุมบิ๊กล็อตครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2562 ทางตำรวจประจำด่านตรวจท่าก๊อ สภ.แม่สรวย ได้ตรวจยึดไอซ์น้ำหนัก 50 กิโลกรัม

จากการขยายผลทำให้ทราบว่านายสุพจน์ ไชยเดช มีส่วนเกี่ยวข้องแต่มีหลักฐานไม่เพียงพอ จึงได้ติดตามพฤติการณ์อย่าง ต่อเนื่อง และต่อมาเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 64 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 6,230,000 เม็ด ไอซ์ 12 กิโลกรัม

ครั้งนี้นายสุพจน์ไม่โชคดีอีก เพราะทางตำรวจมีหลักฐานพอขอศาลจ.หนองคาย ออกหมายจับที่ 65/2564 ในความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ผ่าปฏิบัติการจับแก๊งยา

ตรวจของกลาง

ตำรวจจึงได้สืบสวนติดตามมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งวันที่ 5 พ.ค. 64 ตำรวจบก.สส.ภ.5 โดยพ.ต.อ.วรพงษ์ คำลือ รองผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รองผบก.ภ.จว.เชียงราย ได้ร่วมกันติดตามจนกระทั่งทราบว่านายสุพจน์ใช้รถกระบะอีซูซุ สีเทา เข้าพักที่รีสอร์ต ในพื้นที่ ต.ดงมะดะ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย

จึงเฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. พบรถกระบะสี่ประตูยี่ห้ออีซูซุสีขาว ขับเข้ามารับนายสุพจน์แล้วขับมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะโตโยต้าที่มีโครงเหล็กและกระสอบเต็มท้ายรถขับมาตามถนนหมายเลข 118 สายเชียงราย-เชียงใหม่ ก่อนไปแวะที่ รีสอร์ตแห่งเดิมเพื่อให้นายสุพจน์ลง จากนั้นจึงขับไปทางจ.เชียงใหม่ โดยมีรถกระบะอีซูซุ สีขาวขับนำ

กระทั่งเมื่อรถแล่นไปถึงจุดตรวจตู้ยามท่าก๊อ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย บนถนนสายดังกล่าวเจ้าหน้าที่แสร้งปล่อยรถคันแรกผ่านไป และเมื่อรถกระบะที่บรรทุกกระสอบผ่านมาจึงให้สัญญาณหยุดตรวจเมื่อขอตรวจค้นปรากฏว่ามีนายชลธารเป็นคนขับ พร้อมยาบ้า 5 ล้านเม็ด จึงจับกุมตัวเอาไว้

ผ่าปฏิบัติการจับแก๊งยา

รถกระบะคนร้าย

หลังได้ของกลางก็ถึงคิวของผู้ร่วมเครือข่ายอีก 2 ราย โดยเจ้าหน้าที่รีบประสานตำรวจ สภ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ตั้งด่านสกัดจับรถคันแรกซึ่งมีนายอนันทชัยเป็นคนขับเอาไว้ได้ขณะกำลังขับผ่านตลาดสด อ.เวียงป่าเป้า จากนั้นตำรวจอีกส่วนหนึ่งได้เข้าควบคุมตัวนายสุพจน์ พร้อมรถกระบะอีซูซุสีเทา ที่บริเวณรีสอร์ต ก่อนนำตัว ผู้ต้องหาทั้งสามพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.ประจวบเปิดเผยว่า เครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่จับตามานานแล้วเพราะเกี่ยวพันกับหลายคดีและยังมีหมายจับจากศาลจ.หนองคาย กระทั่งมาครั้งนี้ก็ได้ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาทางชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แล้วนำไปพักในพื้นที่ อ.แม่สรวย เพื่อนำไปส่งที่จุดหมาย จ.พระนครศรี อยุธยา โดยมีผู้ต้องหาหลัก 1 คนจ้างวานพรรคพวกอีก 2 คนเป็นเงิน 200,000 บาท มาช่วยในการขน

ผ่าปฏิบัติการจับแก๊งยา

ยาบ้าเต็มกระสอบ

แต่ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลเสียก่อน จึงได้ซ้อนแผนจับกุมตัวเอาไว้ได้ทั้งหมด

เกรียงไกร ปัญโญกาศ
ชายชาญ ไชยมั่น เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน