คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
19 วัน แห่งการไล่ล่าข้ามจังหวัด
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภาค 9 พร้อม พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผกก.สส.บก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ สว.สส. นำกำลังตำรวจปส.บก.ภ.จว.สงขลา สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ป.ป.ส.
กระจายกำลังโอบล้อมขนำในพื้นที่บ้านโคกไร่ ม.8 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อวันที่ 4 พ.ค. เพื่อล้อมจับ ‘แอล บ่ออิฐ’ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวังสงขลา หลังสืบทราบว่ามาหลบซ่อนตัวที่ขนำดังกล่าว
ปฐมเหตุที่ ‘แอล บ่ออิฐ’ ถูกตำรวจไล่ล่าในครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อพ.ต.ท.เจรวัตร จรจบ สว.สอบสวน สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เสียหลักแหกโค้งชนเมทัลการ์ด หรือราวเหล็กกั้นถนน บนถนนเอเชีย 41 ฝั่งขาล่อง ม.6 ต.ถ้ำพรรณรา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ท่ามกลางพายุฝนที่ตกกระหน่ำอย่างหนัก
ภาพที่จนท.กู้ภัยถ่ายเป็นหลักฐาน
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเพียงเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิใต้เต็กตึ๊งถ้ำพรรณรา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจถ้ำพรรณรา ที่มาช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ
ส่วนรถที่เกิดเหตุเป็นรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กจ 2636 สงขลา จอดอยู่ขอบทาง สภาพล้อหน้าซ้ายหลุด กระจกหน้าแตกร้าว ส่วนกระจกประตูด้านซ้ายแตกทั้งบาน แต่ที่เกิดเหตุไม่พบคนขับแต่อย่างใด
ส่วนคนขับรถหายตัวไปไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยที่มาถึงจุดเกิดเหตุเป็นคนแรก เผยว่า เจ้าของรถเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ยืนอุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ และมีผู้หญิงรูปร่างผอมบางยืนอยู่ข้างรถ คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ลูกกัน
เมื่อเข้าไปสอบถามเพื่อให้ความช่วยเหลือ ชายรายดังกล่าวให้ข้อมูลว่า ขับรถมาจากกรุงเทพฯ กำลังจะกลับบ้านที่ จ.สงขลา ส่วนฝ่ายหญิงที่คาดว่าเป็นภรรยากำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพความเสียหายของรถและถ่าย 3 คนพ่อแม่ลูกไว้เป็นหลักฐานตามขั้นตอนปฏิบัติปกติ
ขนยาบ้ามาเต็มรถ
ต่อมา ร.ต.อ.นิพล จักรธรรมธร รอง สวป.สภ.ถ้ำพรรณรา ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจรถยนต์ ขับรถผ่านมา เข้าพูดคุยกับทั้ง 3 ไม่กี่คำ ก่อนจะเข้าไปตรวจสอบสภาพรถ
ช่วงนั้นเอง ทั้ง 3 พ่อแม่ลูก ก็ฉวยจังหวะเดินข้ามถนนไปขึ้นรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมุ่งหน้าไปทาง จ.สุราษฎร์ธานี หายตัวไป
เจ้าหน้าที่เห็นว่าผิดสังเกตจึงรีบเข้าไปตรวจสอบภายในรถ พบไอซ์จำนวนเล็กน้อย พร้อมอุปกรณ์การเสพ
แต่บริเวณเบาะหลังมีกระสอบ 4 ใบ บรรจุสิ่งของวางอยู่จำนวนมาก เมื่อนำออกมาเปิดดู พบอัดแน่นไปด้วยยาบ้า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทันที
พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และพ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.ถ้ำพรรณรา รีบนำกำลังร่วมไปตรวจสอบของกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่พฐ.
ภาพวันแถลงยึดยาของกลางที่นครศรีธรรมราช
ภายในกระสอบทั้ง 4 ใบ พบ 3 กระสอบมียาบ้า 25 มัด อีกกระสอบ 24 มัด มัดละ 10,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 990,000 เม็ด
หลังตรวจสอบรูปพรรณของชายดังกล่าวพบว่าคือ นายมงคล สังข์แจ้ง วัย 53 ปี ฉายา ‘แอล บ่ออิฐ’ อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ซอย 5 ถนนไทรบุรี ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา
ส่วนผู้หญิงคือน.ส.จุฑาลักษณ์ เมืองคุ้ม แฟนสาว ส่วนเด็กหญิงอายุประมาณ 2 ขวบ เป็นลูกติดของน.ส.จุฑาลักษณ์ ที่ทั้งคู่พานั่งรถมาด้วย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่
เมื่อได้เบาะแสครบถ้วนจึงรวบรวมเป็นหลักฐานขอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกหมายจับคนทั้งคู่ ก่อนที่น.ส.จุฑาลักษณ์จะติดต่อขอเข้ามอบตัวในวันที่ 16 เม.ย.
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสเพิ่มเติมว่า ‘แอล บ่ออิฐ’ หลบซ่อนตัวที่ขนำดังกล่าว นำมาสู่การปิดล้อมจับตัวดังกล่าว
ให้ดูรูปยืนยันตัวตน
แต่จังหวะที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวประกาศให้มอบตัว ‘แอล บ่ออิฐ’ กลับไม่ยอมสงบ วิ่งออกจากขนำพุ่งหลาวลงในบึงน้ำที่อยู่ใกล้กันหวังหลบหนี
แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด เพราะเจ้าหน้าที่กระจายกำลังโอบล้อมไว้รอบทิศ ต้องยอมจำนนโดยดุษณี
สำหรับประวัติ ‘แอล บ่ออิฐ’ ก็ไม่ใช่เล่นๆ เริ่มเป็นเป้าจับตาของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ปี 2530 เพราะมีชื่อเป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่สงขลา
ที่ผ่านมาก็ถูกจับกุมดำเนินคดีเข้าออกคุกมาแล้วถึง 4 รอบ แต่ไม่ยอมหลาบจำ
สุดท้ายก็ต้องเข้าไปอยู่ในตะรางอีกเป็นหนที่ 5
สุเชษฐ์ แรกรุ่น/อนงค์ วงศ์ช่วย – เรื่อง/ภาพ
