ผ่าปมฆ่าโชเฟอร์แท็กซี่ มีเรื่องขับปาดกับกระบะ จอดเคลียร์รัวสนั่นถนน : สดจากสนามข่าว

จะด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 สภาพเศรษฐกิจที่ดิ่งชนิดยังไม่เห็นก้นเหว ที่สะสมความเครียดให้กับคนไทย ยิ่งมาบวกกับนิสัยการขับรถของคนไทยที่ไม่เคยยอมใคร กลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของระเบิดเวลา ที่พร้อมจะระเบิดใส่กันแม้เพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

ย้อนไปเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ค. 2564 พ.ต.อ.มนต์เสก ตระกูลพานิช ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ วงค์สิงห์ สว.สส.สน.บางนา ร.ต.อ.กองพล วงค์จันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางนา พร้อมกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร ร.พ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบบริเวณถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ฝั่งขาเข้า ช่วงปากซอยบางนา-ตราด ซอย 8 แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต

สดจากสนามข่าว

แป๊บเหล็ก

ที่เกิดเหตุบริเวณริมถนนดังกล่าว พบศพนายพีระพงษ์ สุวรรณ อายุ 52 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู นอนหงายสวมเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 ม.ม. จำนวน 4 นัด ข้างกายมีท่อนเหล็กตกอยู่ ห่างไปไม่ไกลพบรถแท็กซี่ โตโยต้า สีเขียวเหลือง เลขทะเบียน มช 8272 กทม. ของผู้ตายจอดอยู่

จากการสอบสวนพยานให้การว่า เห็นผู้ตายมีเรื่องกับชายคนหนึ่งริมถนน โดยผู้ตายถือท่อนเหล็กอยู่ในมือ ก่อนจะถูกชายคู่กรณีชักปืนยิงใส่จนเสียชีวิต จากนั้นจึงวิ่งไปขึ้นรถกระบะสีขาวขับหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ

ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้รับเบาะแสสำคัญจากพลเมืองดี ที่เห็นเหตุการณ์และขับรถติดตามรถผู้ก่อเหตุไปกระทั่งสามารถถ่ายภาพทะเบียนรถผู้ก่อเหตุไว้ได้ โดยเป็นรถกระบะโตโยต้า พรีรันเนอร์ สีขาว ทะเบียน ฒห 2379 กทม. เบาะแสสำคัญนี้ทำให้ตำรวจสามารถปิดคดีได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

สดจากสนามข่าว

รถกระบะคนร้าย

หลังได้เบาะแสสำคัญตำรวจเร่งสืบสวนจนทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของบริษัทให้เช่ารถเครนแห่งหนึ่ง อยู่แถวถนนหนามแดง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงรีบติดตามไปตรวจสอบ ก่อนพบว่าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวคือนายวินัย บุญพยุง อายุ 53 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ เป็นพนักงาน เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวไว้พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก และรถที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาที่ สน.บางนา

สอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นการป้องกันตัว สาเหตุที่ลงมือไปเพราะมีการขับรถปาดหน้ากัน อ้างฝ่ายแท็กซี่ใช้ท่อนเหล็กพยายามจะทำร้าย จึงใช้อาวุธปืนที่พกมายิงสวน ก่อนจะหลบหนีไปจนถูกตามจับได้

นายวินัยถูกตั้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชน”

สดจากสนามข่าว

นายวินัย บุญพยุง มือปืน

วันรุ่งขึ้น ที่ศาลอาญาพระโขนง พนักงานสอบสวน สน.บางนา นำตัวนายวินัย บุญพยุง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหา มาขออนุญาตฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 11-22 พ.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีก 5 ปาก และรอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง, รอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

พนักงานสอบสวนระบุพฤติการณ์ในการจับกุมกล่าวคือ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. เวลาประมาณ 10.20 น. นายวินัยขับขี่รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ หมายเลขทะเบียน ฆห 2379 กทม. ส่วนนายพีระพงษ์ สุวรรณ อายุ 52 ปี ชาว จ.หนองบัวลำภู ขับรถแท็กซี่ เลขทะเบียน มช 8272 กทม. ทั้งคู่ขับมาตามถนนบางนา-ตราดขาเข้ามุ่งหน้าไปสี่แยกบางนา ขับขี่ปาดหน้ากันไปมา

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถมาเจรจากัน และเกิดการโต้เถียง โดยนายพีระพงษ์ถือเหล็กแป๊บยาวประมาณ 50 ซ.ม. เข้าหานายวินัย ก่อนที่นายวินัยจะใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงนายพีระพงษ์ 4 นัด ถึงแก่ความตาย ในที่เกิดเหตุ จากนั้นนายวินัยขับรถหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมอาวุธปืนได้ที่ อ.บางพลี ที่ทำงานของผู้ต้องหา

โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา เนื่องจากมีอัตราโทษสูง ต่อมาศาลได้พิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้

จากนั้นมีญาติผู้ต้องหามายื่นขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้อง แล้วอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยกำหนดหลักทรัพย์จำนวน 410,000 บาท

เพียงแค่หากใจเย็นลงอีกนิด ฝ่ายหนึ่งคงไม่ตาย อีกฝ่ายก็ไม่ต้องกลายเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย

พนม คงเจริญ/สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัยเรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน