ย้อนเหตุปะทะเดือด ซื้อผ้าม่าน-เปลี่ยนไม่ได้ คว้ามีดลุยลูกค้าลั่นไกสวน

คดีทำร้ายร่างกาย คดีฆ่ากันตายที่เกิดอยู่ทุกวันนี้ หลายครั้งที่หากมองย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องราว มาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่น่าเป็นเรื่อง แต่พอองค์ประกอบของความวายป่วงมารวมอยู่ในที่เดียวกัน อะไร ก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

เช่นเหตุการณ์เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 10 พ.ค. 2564 หลัง พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง จ.ชลบุรี พร้อม ร.ต.ท.กิตติกูล กองโคกกรวด รอง สว.(สอบสวน) นำกำลังชุดสืบสวนและสายตรวจ ไปตรวจสอบเหตุยิงกันหน้าร้านรุ่งมณีทรัพย์ ผ้าม่าน เลขที่ 74/29 หมู่ 1 ต.หนองตำลึง อ.พานทอง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าร้านพบรอยเลือดเต็มพื้น โดยมีญาติของ ผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุกำลังทะเลาะกัน ตำรวจต้องกันออกทั้ง 2 ฝ่าย สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บชื่อนายประพจน์ สินทักทรัพย์ อายุ 40 ปี เป็นเจ้าของร้านผ้าม่าน ถูกอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. ยิงเข้าที่โคนขาซ้ายกระสุนทะลุ 1 นัด

ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายประจวบ ชาญเกษม อายุ 38 ปี อาชีพพ่อค้า หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน ซฐ 8797 กรุงเทพมหานคร หลบหนีไป

กระจกรถเป็นรู

จากการสอบถาม น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ลูกสาวนายประจวบ มือปืนที่ยิง กล่าวว่าตนกับพ่อแม่และพี่สาวรวม 4 คน มาซื้อผ้าม่านที่ร้านดังกล่าว แต่พอซื้อแล้วเอามาให้พ่อดู พ่อบอกว่าที่บ้านไม่มีที่แขวน ต้องเปลี่ยนใหม่ พอเข้าไปบอกผู้หญิงเจ้าของร้านบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ ตนถามว่าทำไมเปลี่ยนไม่ได้ ราคา 1,750 บาท ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็ซื้อเพิ่ม เขาก็โวยวายใส่ พ่อกับแม่และพี่สาว จึงลงมา

น.ส.เอกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นก็โต้เถียงกัน เจ้าของร้านที่เป็นสามีไม่รู้เรื่องอะไร มาถึงก็ด่าพ่อด้วยคำหยาบคาย พ่อจึงต่อยไป 1 ครั้ง แต่แม่ขวางอยู่จึงโดนไม่มาก จากนั้นพ่อก็ขึ้นไปบนรถ หลังจากนั้นเขาวิ่งเข้าไปเอามีดดาบในร้านออกมาฟันรถอยู่หลายครั้ง พ่อจึงยิงสวนออกมา 1 นัดแบบป้องกันตัว แล้วโดนขาเจ้าของร้าน

ส่วนน.ส.วาสนา ตาคม อายุ 41 ปี ภรรยาผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมาซื้อผ้าม่านที่ร้าน พอเอาไปใช้แล้วใส่ไม่ได้แล้วจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนไม่ได้ เพราะทางร้านแจ้งแล้วว่าไม่รับเปลี่ยนสินค้า จึงเกิดการโต้เถียงกัน ฝ่ายคนยิงมาต่อยแฟนของตนก่อน แฟนตนจึงคว้ามีดดาบมาจะฟันที่รถ แต่อีกฝ่ายยิงสวนมาเลย กระสุนโดนที่ขาแฟน ของตน 1 นัด

นายประจวบ ชาญเกษม มอบตัว

วันรุ่งขึ้นที่ สภ.พานทอง นายประจวบ ผู้ก่อเหตุ เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ทรงพล วันทาวงษ์ รอง ผกก.(สอบสวน) โดยเจ้าหน้าที่นำตัวมาสอบสวน พร้อมรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ซฐ 8797 กรุงเทพมหานคร สภาพกระจกข้างฝั่งคนขับมีรอยรูลูกกระสุนปืน 1 รู ที่ประตูรถฝั่งคนขับมีรอยถูกมีดฟันเสียหาย

จากการสอบถามนายประจวบเล่าว่า ไปซื้อผ้าม่านที่ร้านเป็นม่านประตู แต่พอเห็นม่านตนก็บอกว่าที่บ้านไม่มีสว่านเจาะรู ขอเปลี่ยนเป็นแบบลวดแขวน ทางร้านก็บอกไม่มี จึงขอคืนเงิน แต่เจ้าของร้านบอกคืนไม่ได้ ทั้งที่ยังไม่ได้แกะของและยังไม่ได้ออกจากร้าน หลังจากนั้นนายประพจน์ เจ้าของร้าน เข้ามาด่าทอตนด้วยวาจาหยาบคาย ตนจึงด่ากลับ จึงทำให้ชกต่อยกัน

นายประพจน์ สินทักทรัพย์ ผู้บาดเจ็บ

จากนั้นนายประพจน์ถือมีดมาไล่ฟัน ตนจึงหนีขึ้นรถ แต่นายประพจน์ก็ยังไม่หยุด ใช้มีดฟันที่รถตนหลายครั้งจนพัง ตนก็ตะโกนบอกว่าอย่าฟัน แต่ก็ไม่ได้ผลหลังจากนั้นตนจึงคว้ากระเป๋าที่มีปืนอยู่เบาะหลัง เพื่อจะหยิบมาเพื่อขู่ แต่กลับพลาดทำให้ปืนลั่นออกไป 1 นัด โดนนายประพจน์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจยิง เพราะจะเอามาขู่อย่างเดียว

ด้าน พ.ต.ท.ทรงพล เผยว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นปืนเป็นของนายประจวบ จึงได้ตั้งข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ บ้าน เมือง หรือชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาต นำพาอาวุธปืนไปโดยไม่มีเหตุอันควรหรือจำเป็น” จะสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมหากพบมีความผิดอื่นเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาในภายหลังเพิ่มเติม

ขณะที่นายประพนธ์ สินทักทรัพย์ อายุ 49 ปี พี่ชายแท้ๆ ของ ผู้บาดเจ็บเปิดเผยว่า ปกติน้องชายเป็นคนเงียบขรึม ไม่เคยหาเรื่องใครก่อน แต่ครั้งนี้คงถูกหาเรื่องจนทนไม่ไหว จึงทำให้โมโห -เพราะน้องชายตน ถ้าโมโหแล้วจะห้ามยาก ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว ตนก็รู้จักน้องชายตนดี ไม่ได้เป็นคนหาเรื่องก่อนแน่นอน ส่วนตอนนี้น้องชายตนยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพนัสนิคม จ.ชลบุรี ในห้อง ไอซียูเพื่อรอผ่าตัด ทางญาติก็เปลี่ยนกันไปดูอาการอยู่เรื่อยๆ

แค่ผ้าม่านผืนเดียวแท้ๆ ยังบานปลายไปได้ขนาดนี้ เข้าตำรา ขิงก็รา ข่าก็แรง