สดจากสนามข่าว - คำสารภาพฆาตกรโหด แค้นกิ๊กสาวยุติสัมพันธ์ ลวงมาฆ่า-อำพรางคดี

ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน หากมีคนที่สามเข้ามาแทรกร้อยทั้งร้อยมักจบไม่สวย

ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 พ.ค. พ.ต.อ.ปรีชา สนิทม่วง ผกก.สภ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบจุดพบศพ น.ส.มนชญา (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งถูกฆาตกรรมในป่ากกริมคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก บ้านหนองจิกรี หมู่ 8 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

สภาพศพหญิงสาวอยู่ในสภาพขึ้นอืด นอนคว่ำหน้า เสื้อแขนยาวถูกถลกขึ้นมาอยู่เหนือราวนม ซิปกางเกงถูกรูดลง ที่หน้าผากถูกทุบด้วยของแข็งจนกะโหลกร้าว ปากถูกทุบด้วยเช่นกันจนฟันหัก 3 ซี่ ลำคอถูกรัดด้วยผ้าขนหนู คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน

ชี้จุดทิ้งของกลาง

ต่อมานายศุภชัย ทองคำ อายุ 35 ปี เจ้าของสวนชมพู่ สามีผู้ตายเดินทางมาดูศพ พร้อมให้การเบื้องต้นว่าภรรยาขี่จยย.ออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 17 พ.ค. บอกว่าจะนำเอกสารไปติดต่อทำเรื่องจองวัคซีนป้องกัน โควิด แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ตามหาอยู่หลายวันแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมาพบเป็นศพ

แน่นอนว่านายศุภชัยคงหนีไม่พ้นความสงสัยของตำรวจ แม้เจ้าตัวจะให้การว่ามีปัญหาปากเสียงทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่เคยถึงขั้นลงไม้ลงมือ ตำรวจนำตัวนายศุภชัยไปตรวจหาร่องรอยตามร่างกายอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงตัดออกจากผู้ต้องสงสัย แต่ยังเหมือน เจ้าตัวปิดบังข้อมูลบางอย่างเอาไว้

หลังสอบอยู่นานในที่สุดตำรวจก็ได้ข้อมูลสำคัญที่ทำให้ปิดคดีลงได้อย่างรวดเร็ว

ค่ำวันเดียวกัน พ.ต.อ.สุทธินันธ์ คงแช่มดี ผกก.สส.ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมกำลังจำนวนหนึ่งได้ไปปิดล้อมที่บ้านของนายสมภพ หรือกั้ง รักษาเลิศ อายุ 30 ปี อาชีพช่างไฟ ในพื้นที่หมู่ 8 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หลังนายศุภชัยให้ข้อมูลว่าเป็นกิ๊กกับผู้ตาย

นำศพส่งชันสูตร

ระหว่างการปิดล้อมเจ้าหน้าที่ได้ขอให้ญาติๆ เจรจาเกลี้ยกล่อม ให้นายสมภพมอบตัวแต่ยังไม่เป็นผล ผู้ต้องหาเกิดไหวตัวเข้าไปหลบในห้องนอนล็อกประตูเอาไว้ โดยมีอาวุธปืนลูกซองพกติดตัวอยู่ ตลอดเวลา

เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีละมุนละม่อมเจรจาเกลี้ยกล่อม เพราะเกรงว่านายสมภพจะเครียดจนก่อเหตุไม่คาดคิด พร้อมให้คนในครอบครัวเข้าช่วยเจรจา กระทั่งเวลาผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ก็เตรียมใช้วิธีโยนแก๊สน้ำตาเข้าไปในห้องเพื่อบีบให้นายสมภพออกมา แต่พอดีมีนายธันวา รักษาเลิศ ที่รีบขับรถจากกรุงเทพฯ เพื่อมาช่วยเกลี้ยกล่อมให้หลานชายยอมมอบตัว ก็ปรากฏว่านายสมภพรีบออกมาบอกขอเวลาอาบน้ำก่อนแล้วจะยอมออกมามอบตัวแต่โดยดี

นอกจากคำให้การข้างต้นแล้ว ยังมีพยานปากสำคัญคือนายอึ่ง (นามสมมติ) เพื่อนสนิทของนายสมภพ ที่ให้การว่า วันเกิดเหตุนายสมภพโทรศัพท์มาขอให้ขับรถยนต์มารับในจุดที่พบศพ พร้อมกำชับว่าให้คอยระวังอย่าให้ใครตาม ตนก็สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถาม ก่อนขับรถไปรับเพื่อนตามที่ร้องขอ เมื่อขับออกจากจุดเกิดเหตุมาถึงทางแยก จู่ๆ นายสมภพก็เปิดประตูรถวิ่งหายไปหน้าตาเฉย จนมาทราบอีกทีว่า พบศพ น.ส.มนชญาถูกฆ่าตายใกล้กับจุดที่ขับรถไปรับ

นายสมภพ หรือกั้ง รักษาเลิศ

งมจนเจอมือถือ

นายสมภพเปิดปากยอมรับสารภาพว่า ตนรู้สึกหึงหวงและแค้นที่ผู้ตายได้ปันใจให้กับชายหนุ่มอีกคน ก่อนหน้านี้เคยลวงผู้ตายมาลงมือทำร้ายร่างกายด้วยความแค้น พร้อมกับไล่ให้ออกจากชีวิตไม่ต้องมายุ่งกันอีก แต่สุดท้ายตนยังคงตัดใจไม่ได้ จึงติดต่อขอปรับความเข้าใจ แต่ผู้ตายก็ไม่ยอมจนทำให้เกิดความแค้นปะทุเดือดอีกครั้ง

จึงตัดสินใจติดต่อไปหาผู้ตายอีกครั้ง โดยขอให้ขี่รถออกมาหายังจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่าระหว่างพูดคุยเคลียร์ปัญหา ผู้ตายกลับขอยุติความสัมพันธ์กันอย่างจริงจัง ตนเก็บอารมณ์ไม่อยู่ก็เข้าไปทำร้ายจนล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น เมื่อฟื้นสติขึ้นมาอีกรอบฝ่ายหญิงถึงกับยกมือไหว้ขอโทษและขอให้จากกันแต่โดยดี แต่หลังจากสิ้นคำขอสุดท้าย ตนยิ่งทำใจไม่ได้และแค้นที่เคยส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดี สุดท้ายยังมา ถูกตีจาก จึงไปคว้าท่อนไม้ที่ตกอยู่ข้างทางเอามาตีใส่ใบหน้าอย่างแรงไป 2-3 ครั้งจนสิ้นใจตายคาที่ จากนั้นตนก็ใช้ผ้าขนหนูเอามามัดคอลากศพเอาไปทิ้งหมกภายในป่ากก แล้วเอากระเป๋าของผู้ตาย ยัดใส่ใต้เบาะขับขี่เอารถไปทิ้งลงคลองอีกจุดเพื่ออำพรางคดี

อีกคดีสยองที่มีจุดเริ่มต้นมาจากความรัก

วสุกิจจ์ เหล่าอินทร์
เรื่อง/ภาพ