ตามตร.ปิดคดีสยองพัทลุง
ฆ่าทิ้งจุดชมวิวทะเลน้อย
4คนร้ายล้วนเครือญาติ
สดจากสนามข่าว
ชื่อว่าทะเลน้อยแต่ไม่ใช่ทะเล แหล่ง ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดพัทลุง ทะเลสาบน้ำจืดกว้างใหญ่ไพศาล กินพื้นที่ตำบลนางตุงและตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน มีคลองนางเรียมเป็นตัวเชื่อมต่อกับทะเลสาบสงขลา
ทะเลน้อยไม่ได้แค่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม แต่ยังมีมุมมืดที่คนทำประมงพื้นที่รู้กันดีว่าบ่อยครั้งที่คนร้ายนำศพมาถ่วงน้ำทิ้งเพื่ออำพรางคดีฆาตกรรม
ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ร.ต.อ.สมนึก บุญชู รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตถูกพันธนาการใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติข้ามทะเลน้อย หมู่ 2 บ้านคลองกลาง ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.กอบโชค เล็กตระกูล ผกก.สภ.ทะเลน้อย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยควนขนุน
พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 นำแถลง
ที่เกิดเหตุเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวหยุดชมควายน้ำ ลึกลงไปจากสะพานถึงพื้นดินประมาณ 8 เมตร พบศพชายอายุประมาณ 30 ปี ผิวดำแดง สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผมดำหยักศก สวมเสื้อและกางเกงบอลสีดำ มีรอยสักใยแมงมุมบริเวณต้นแขนขวา และสักแมลงป่องบนหน้าอกซ้าย ถูกมัดด้วยเชือกที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง พันทับด้วยผ้าขาว ข้อมือทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยเชือกไพล่หลัง ส่วนที่ลำคอถูกผูกด้วยผ้าขาวม้า คอหักหมุนได้รอบ จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล และไม่พบหลักฐานแสดงว่าเป็นใคร มาจากไหน ทั้งนี้สภาพศพยังไม่ขึ้นอืด จึงคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่นาน
นายชาติ สุนเซ่ง อายุ 62 ปี กล่าวว่า ตนมาทอดแหหาปลาในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นร่องลึกประมาณ 3-4 เมตร โดยมีเพื่อนๆ อีก 3 คน เดินหาปลาอยู่ห่างๆ ตนได้ทอดไปหลายครั้งจนกระทั่งลากขึ้นมารู้สึกหนักๆ คิดว่าเป็นก้อนหิน แต่พอลากขึ้นมาปรากฏว่าเป็นศพ ตนจึงโทร.แจ้ง 191 และผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ
“ตอนเจอก็ไม่ได้ตกใจ เพราะที่ผ่านมาศพถูกนำมาโยนทิ้งแล้ว หลายราย ทั้งหมดเป็นศพที่ถูกฆ่ามาจากอื่น แต่ที่มาเจอด้วยตัวเองศพนี้เป็นศพแรก” นายชาติกล่าว
ผ่านไปเพียง 3 วัน ตร.ก็ปิดคดีได้ โดยวันที่ 25 พ.ค. พล.ต.ต.โพธ สวยสุวรรณ รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงจับกุม นายวีระเดช หรือ กุ้ง ช่วยมาก อายุ 43 ปี น้าชายของผู้ตาย นายสมคิด หรือ โคม ช่วยมาก อายุ 54 ปี ลุงของผู้ตาย นายสมเกียรติ หรือ ก้อย วระพันธ์ อายุ 44 ปี น้าเขยของผู้ตาย และ นายวรากรณ์ หรือ เอ็ม รอดเนียม อายุ 36 ปี ญาติลูกพี่ลูกน้องของผู้ตาย
โฉมหน้าผู้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.วรากล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนยอมรับสารภาพตลอดข้อหา โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ตายกลับเข้าบ้านก็มีเรื่องทะเลาะกับยาย ซึ่งเป็นญาติที่มีบ้านอยู่ติดกัน ทำให้นายวรากรณ์ออกไปห้ามจนเกิดชกต่อยกัน ส่วนนายสมคิดไม่อยากยุ่งเกี่ยวจึงขับรถออกจากบ้านไป จากนั้นนายสมเกียรติและนายวีระเดชก็เข้ามาช่วยมัดมือมัดเท้า และเอาผ้าขาวม้าผูกคอ จากนั้นโทร.หานายสมคิดให้มารับ ทั้งหมดช่วยกันนำร่างของผู้ตายขึ้นรถเก๋งนิสสัน อัลเมร่า สีดำ ทะเบียน กท 1658 พัทลุง ขับออกไป โดยมีนายสมคิดเป็นคนขับ
ทั้งหมดนำผู้ตายซึ่งขณะนั้นยังไม่เสียชีวิต นั่งเบาะหลังคนขับ ส่วนนายวีระเดชนั่งคู่มากับผู้ตายในเบาะด้านหลัง ขับมุ่งหน้าไปทางถนนสายเลียบทะเลสาบสงขลาขึ้นสะพานเฉลิมพระเกียรติ ไปกลับรถห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร
นำศพชันสูตร
จนมาจอดบริเวณจุดชมควายน้ำ เมื่อรถจอด นายสมคิดลงจากรถเพื่อลงไปดูสถานที่ที่จะทิ้งร่าง ในขณะนั้นนายวีระเดชก็รัดคอจน ผู้ตายจนเสียชีวิต เพราะเกิดความรำคาญที่ผู้ตายส่งเสียงดัง ทั้ง 2 คนจึงช่วยกันหามร่างผู้ตายลงมาวางกับพื้น ก่อนจับโยนลงไปในน้ำและยืนมองอยู่ประมาณ 5 นาที เพื่อให้แน่ใจ ก่อนขับรถกลับบ้านที่ อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง
สาเหตุหลักๆ ของคดีดังกล่าวเป็นการทะเลาะกันระหว่างบรรดาญาติ เนื่องจากผู้ตายมีนิสัยก้าวร้าว หากช่วงไหนมีอาการเมาก็ชอบ หาเรื่องทะเลาะจนบรรดาญาติๆ ทนไม่ไหวได้รุมทำร้าย
ทั้ง 4 คนถูกตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ส่วนนายสมเกียรติ นาย วรากรณ์ และนายวีระเดช ถูกแจ้งเพิ่มข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ในขณะที่นายสมคิด เจ้าของรถ และนายวีระเดชถูกแจ้งข้อหาซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย ฐานนำศพไปทิ้งในทะเลน้อย
กลายเป็นอีกหนึ่งตำนานสยอง ที่ซ่อนอยู่ในสถานที่ที่งดงาม
