อดิศร จิตตเสวี
เรื่อง/ภาพ
ธรรมชาติของแรงงานต่างด้าว แม้นจะเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อมาอยู่ต่อหน้าคนในเครื่องแบบ ก็มักเกรงกลัวไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงหรือขัดใจ จนถูกมิจฉาชีพแอบสวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ก่อเหตุมานักต่อนักแล้ว
ล่าสุดเวลา 15.00 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.นิรันดร์ ฟักสุบรรณ รอง ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท. ภพกฤต เปลี่ยนเพ็ง รองผกก.สส. สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ สว.สส. บก.น.2
ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสมพร ออละวัลย์ อายุ 53 ปี ชาว จ.สุรินทร์ ผู้ต้องหาคดี “ลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด, ชิงทรัพย์ โดยเป็นการกระทำความผิดต่อเนื่องหลายพื้นที่ของนครบาล และข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้าย”
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.05 น. วันที่ 11 พ.ย. ขณะที่ผู้เสียหายเป็นหญิงชาวเมียนมา อายุ 27 ปี กำลังเดินมาออกมาทิ้งขยะ ที่ปากซอยลาดพร้าว 48 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง นายสมพรขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำ-แดง ทะเบียน 6 กข 4082 กทม. ผ่านมาเจอ
ก่อนจะหลอกผู้เสียหายว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ระบุหน่วยงาน ทำทีขอตรวจดูบัตรประจำตัวแรงงานต่างด้าวของผู้เสียหาย โชคร้ายที่หญิงสาวแม้นจะมีบัตรถูกต้อง แต่ เจ้าตัวแค่ออกมาเทขยะ จึงไม่ได้พกมาด้วย
เข้าทางโจรพอดี ตำรวจเก๊ ข่มขู่เป็นการใหญ่จนผู้เสียหายเกิดความกลัว และหลอกว่าจะนำตัวไปส่งสถานีตำรวจพื้นที่ หญิงสาวมีหรือจะกล้าหือกับตำรวจ จึงจำใจนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปแต่โดยดี
แต่แทนที่จุดหมายจะเป็นสถานีตำรวจ นายสมพรกลับพาหญิงสาวไปเปิดห้องที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง บนถนนเลียบคลอง 2 จ.ปทุมธานี ก่อนลงมือข่มขืนจากนั้นจึงปล่อยทิ้งผู้เสียหายตามลำพัง โดยเอาเงินของหญิงสาวไปด้วย
ต่อมาตำรวจ สน.สุทธิสาร ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนได้ภาพขณะคนร้ายพาหญิงสาวซ้อนรถไป โดยให้หญิงสาวนั่งอยู่ด้านหน้าเพื่อกันไม่ให้หลบหนี ขณะที่ภาพจากรีสอร์ต เห็นนายสมพรขณะกำลังจ่ายเงินค่าเปิดห้องอย่างชัดเจน
เมื่อไล่กล้องวงจรปิดไปเรื่อยๆก็พบว่าไปสิ้นสุดที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ก่อนชุดสืบสวนนำกำลังเข้าจับกุมนายสมพร ขณะอยู่กับภรรยาและลูก
ชุดจับกุมยังตรวจยึดของกลางประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำแดง ทะเบียน 6 กข 4082 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุ และเป็นรถที่ลักมา รถเก๋งฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีฟ้า ทะเบียน ษง 1740 กทม. ที่ลักมาจากท้องที่ สน.บางขุนเทียน
ใบขับขี่ที่นายสมพร สวมเครื่องแบบตำรวจยศ ร.ต.ท. ที่ใช้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เสื้อคลุมแขนยาว แถบขาว กางเกง ยีนส์ขายาว สีดำ หมวกนิรภัย สีดำ รองเท้าแตะที่ใช้สวมใส่วันก่อเหตุ
จาการขยายผลพบว่านายสมพร มีประวัติกระทำความผิดมาอย่างโชกโชน ลงมือก่อเหตุในหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯและสมุทรปราการ มีคดีลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ เหตุเกิด 11 มิ.ย. ในพื้นที่ สน.บุคคโล
นอกจากนี้ยังก่อเหตุข่มขืนโดยแสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่สภ.เมืองสมุทรปราการ เหตุเกิด 16 ส.ค. เหตุลักทรัพย์ โดยใช้กลอุบาย หลอกเจ้าของบ้านว่าเกิดเหตุไฟไหม้ที่บ้าน จากนั้นฉวยโอกาสชุลมุนลักทรัพย์สิน เหตุเกิด 21 ส.ค. ในพื้นที่สน.พญาไท
ก่อเหตุลักทรัพย์ โดยใช้กลอุบาย เหมือนกับที่ สน.พญาไท เหตุเกิด 26 ก.ย. ในพื้นที่สน.บวรมงคลและสน.นางเลิ้ง หลอกขายรถจักรยานยนต์แต่ไม่ให้รถกับคนซื้อ เหตุเกิด 12 ต.ค. พื้นที่สน.พระโขนง
ทำทีเป็นขอเช่าบ้านแล้วฉวยโอกาสชุลมุนลักทรัพย์สิน ในพื้นที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ กระทั่งล่าสุดมาก่อเหตุ แสดงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกเหยื่อไปขืนใจดังกล่าว
นอกจากนี้การตรวจสอบประวัติอาชญากร พบว่านายสมพร เคยถูกจับกุมดำเนินคดีระหว่าง พ.ศ.2530 – 2559 มาแล้วจำนวน 8 คดี ประกอบด้วย สน.ลาดพร้าว คดีอาญาที่ 3386/2530 ข้อหาลักทรัพย์ สน.หัวหมาก คดีอาญาที่ 646/2536 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ สน.พหลโยธิน คดีอาญาที่ 1025/2538 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
สน.พญาไท คดีอาญาที่ 735/2546 ข้อหาชิงทรัพย์ สน.โคกคราม ข้อหา แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน, กรรโชกทรัพย์ สภ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาคร คดีอาญาที่ 504/2557 ข้อหาลักทรัพย์ สน.สามเสน คดีอาญาที่ 451/2559 ข้อหาลักทรัพย์ สภ.สามโคก จว.ปทุมธานี คดีอาญาที่ 408/2559 ข้อหาลักทรัพย์
นายสมพรรับสารภาพทั้งหมด โดยให้การว่า เคยเป็นช่างตัดผมและคลุกคลีกับตำรวจที่มาตัดผม สอบถามเรื่องการเข้าจับกุม การตรวจค้น จะต้องทำอย่างไร จนเอามาใช้ก่อเหตุ โดยในปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ ส่วนสาเหตุที่ทำไป เพราะต้องนำเงินไปเลี้ยงดูเมียที่มีอยู่ 3 คน
แค่เสิร์ชชื่อสมพร ออละวัลย์ ในกูเกิ้ล ก็ถึงกับตะลึง คนอะไรคดีเยอะขนาดนี้ ผู้ที่เคยตกเป็นเหยื่อ ให้รีบไปติดต่อที่ สน.สุทธิสาร โดยด่วน
