ผ่านาทีปิดตำนานไอ้มุ่ย – ชีวิตของคนเราล้วนเกิดมาแตกต่างกันไป แต่ใครจะเลือกดำเนินชีวิตในเส้นทางไหน อยู่ที่การตัดสินใจของตนเอง บทสรุปสุดท้ายปลายทางก็เป็นไปตามที่ตนเลือก
บทสุดท้ายของนายธีรยุทธ ชูแก้ว อายุ 43 ปี หรือไอ้มุ่ย มือปืนเบอร์ 1 ของภาคใต้ ถูกเขียนขึ้นเมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 21 พ.ค. หลังหน่วยกู้ภัยเขาทะลุ ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ลำเลียงศพของนายธีรยุทธและนายพล (นามสมมติ) อายุ 16 ปี สมุนคู่ใจ ขึ้นมาจากก้นเหวข้างบ้าน บนภูเขาสูง ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร
เหตุการณ์วิสามัญคนร้าย 2 ศพ เกิดขึ้นเมื่อพล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร รับรายงานว่านายธีรยุทธ หรือไอ้มุ่ย มือปืนเบอร์ 1 ของภาคใต้ มีประวัติฆ่าคนมาอย่างโชกโชน ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ยังมีหมายจับคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา 4 หมาย หมายจับคดี แหกคุกเรือนจำนครศรีธรรมราช หมายจับคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และประวัติการก่ออาชญากรรมมากมาย เพิ่งก่อเหตุยิงตำรวจ สภ.นาสัก ที่ตั้งด่านตรวจยาเสพติดเมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาแล้วหลบหนีมาหลบซ่อนในพื้นที่
นำศพส่งชันสูตร
เนื่องจากมาได้ภรรยาเป็นพนักงานขายรถยนต์บริษัทดังในจ.ชุมพร จึงอาศัยพื้นที่สวนทุเรียนและบ้านบนสวนของภรรยาเป็นที่กบดาน และมีนายพลมาเป็นลูกสมุน เริ่มหัดออกอาละวาดยิงปืนในหมู่บ้านจนเป็นที่ หวาดกลัว รวมถึงพัวพันกับยาเสพติด แต่ตำรวจยังไม่ผลีผลามเข้าจับกุม เนื่องจากคนร้ายมีทั้งอาวุธสงคราม ลูกระเบิด จนกระทั่งได้รับการประสานงานจากตำรวจสืบสวนภาค 8 มาร่วมวางแผนจับกุม
กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 20 พ.ค.ได้รับแจ้งว่าคนร้ายทั้ง 2 คนเพิ่งกลับขึ้นบ้านพักที่ใช้กบดาน ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาสัก และสืบสวน บก.สส.ภ.8 กว่า 10 นายเดินขึ้นไป โดยเส้นทางทุรกันดาร ต้องใช้รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ จากถนนสายเขาปีบไปยังบ้านเขาค่าย แยกขึ้นบนถนนในหมู่บ้านร่วม 10 กิโลเมตรท่ามกลางสวนทุเรียน สวนยางพารา ถนนดินที่ด้านข้างเป็นเหวลึกตลอดทาง ก่อนต้องเดินเท้าต่อไปอีกร่วม 1 ก.ม. จึงพบว่าที่ยอดภูเขาสูงมีกระต๊อบไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่บนปากเหวลึก
นายธีรยุทธ ชูแก้ว
เจ้าหน้าที่กระจายกำลังล้อมบ้านของคนร้ายเอาไว้ แต่คนร้ายไหวตัว นายธีรยุทธคว้าปืนสั้นและอาวุธสงครามเอ็ม-16 ยิงเปิดทางใส่ตำรวจ ก่อนวิ่งกระโดดลงจากบ้านลงไปในเหว พร้อมด้วยนายพล คว้าปืน 9 ม.ม.กระโดดตามลูกพี่ลงไป
ขณะที่นายเอกนันท์วิ่งหลบหนีลงไปในเหวลึก แต่เกิดขาหักล้มลงร้องโอดโอย ส่วนคนร้ายทั้ง 2 เปิดฉากยิงใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจที่ล้อมอยู่ระดมยิงใส่ 2 คนร้าย จนเสียงปืนเงียบเข้าไปพบว่าคนร้ายทั้ง 2 เสียชีวิต
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุวรรณฤทธิ์ รองผบก.ภ.จว.ชุมพร พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เยี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.โกสิต กาญจนะโกมล ผกก.สภ.นาสัก ร.ต.ท.ชัยวัตร ชัยเดช พงส.สภ.นาสัก ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐานชุมพร แพทย์จากโรงพยาบาลสวี นายปรีชา จิตมั่น อัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดหลังสวน น.ส.นนท์ลภัส ชูสอน ปลัดอาวุโส อ.สวี และหน่วยกู้ภัยเขาทะลุ เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ
กระท่อมจุดซ่อนตัว
พบตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาสัก และตำรวจสืบสวน บก.สส.ภ.8 กำลังช่วยกันให้การปฐมพยาบาลนายเอกนันท์ พันธุมาศ อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง ที่บาดเจ็บขาด้านซ้ายหัก ส่วนด้านล่างที่เป็นเหวลึกกว่า 100 เมตร พบศพนายธีรยุทธและนายพล แพทย์ อัยการ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานต้องใช้เชือกโรยตัวลงไปชันสูตรพลิกศพ โดยศพของ นายธีรยุทธถูกยิงที่ศีรษะและเบ้าตาซ้าย ตามลำตัว กระสุนหลายขนาด ฝังในลำตัวหลายนัด ที่ตัวยังคงกอดอาวุธปืนสงคราม เอ็ม-16 กระสุนเต็มแม็กกาซีน แต่ภายในลำกล้องเต็มไปด้วยโคลน
อาวุธปืนเอ็ม-16
ส่วนศพของนายพลมีบาดแผลถูกยิงตามลำตัวหลายนัด ในมือขวา กำปืนขนาด 9 ม.ม.ไว้แน่น จึงให้หน่วยกู้ภัยเขาทะลุช่วยกันลำเลียงขึ้นจากก้นเหวด้วยความยากลำบาก นำส่งโรงพยาบาลสวีเพื่อชันสูตรอย่างละเอียด และต้องส่งไปยังโรงพยาบาลสุราษฎร์เพื่อชันสูตรในแผนกนิติเวชอย่างชัดเจนอีกครั้ง ส่วนที่เกิดเหตุยังพบลูกระเบิดสังหารเอ็ม 26 หล่นอยู่ข้างบ้าน 2 ลูก ปืนขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก และที่ตีนบันไดบ้านพบยาเสพติดในถุงสีน้ำเงินอีก 1 ซอง รวมถึงพบแม็กกาซีนใส่กระสุนเอ็ม-16 อีก 3 อัน กระสุนเต็มทุกอัน
สุดสายปลายทางของถนนมือปืนมีเพียงคุกกับความตายเท่านั้น
ชูศักดิ์ ตระหง่าน–เรื่อง-ภาพ
