ย้อนคดีระทึกเชียงราย – การใช้ความรุนแรงกับคนรัก สะท้อนความเข้าใจเรื่องความรักที่ผิดๆ เป็นความรักที่ต้องการครอบครองเป็นเจ้าของ เห็นคนรักเป็นทรัพย์สินของตน เมื่อไม่ได้ ดั่งใจก็พร้อมจะทุบทำลายให้ย่อยยับ ดีกว่าจะให้คนอื่นเอาไป ต้นกำเนิดของคดีพิศวาสฆาตกรรมที่เกิดขึ้นแทบไม่เว้นวัน

ที่เกิดเหตุ

ย้อนไปเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 29 พ.ค. ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันบริเวณหน้าศูนย์โชว์รูมรถยนต์ฮอนด้า สาขาพหลโยธิน สีแยกศรีทรายมูล มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นหญิง 1 คน เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถพยาบาลใกล้เคียง มารับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งนิสสัน สีเงิน ทะเบียน กษ-3227 เชียงราย ด้านประตูฝั่งคนขับถูกยิงด้วยอาวุธปืน 2 นัด กระจกแตกกระจาย ทราบว่าคนเจ็บเป็นหญิง ชื่อ น.ส.ชนัญธิดา อายุ 37 ทำงานเป็นพนักงานที่ ศูนย์ฮอนด้าที่เกิดเหตุ ถูกยิงเข้าที่บริเวณขา เสียเลือดมาก เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงทันที

นาทีลงมือ / จนมุมใน48ช.ม.

ต่อมาพ.ต.อ.โสภณ ม่วงเฟื่อง ผกก.สภ.เมืองเชียงราย พร้อมฝ่ายสืบสวน รีบไปตรวจสอบ เบื้องต้นพนักงานในโชว์รูมผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า มีรถเก๋งโตโยต้า โคโรนา สีเงิน ทะเบียน ขข 1099 เชียงราย มาจอดประกบรถผู้บาดเจ็บแล้วมีชายเดินมาเคาะรถเพื่อขอพูดคุย แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมลงรถ ฝ่ายชายเดินกลับไปเปิดประตูแล้วนำปืนยาว ออกมา ยิงใส่รถ 2 นัด และพอเห็นว่าฝ่ายหญิงบาดเจ็บ ร้องขอ ให้คนช่วย จึงรีบขับรถเก๋งหลบหนีไป เพื่อนๆ พนักงานที่กำลัง เลิกงานได้รีบเข้าไปช่วยเหลือฝ่ายหญิงที่ถูกยิง และโทร.แจ้ง รถพยาบาลนำส่งรักษาตัว ซึ่งแพทย์รักษาจนอาการปลอดภัยโดยมี เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด

คดีนี้ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุอย่างรวดเร็วว่าคือนายวรศักดิ์ อะทะวงษา อายุ 50 ปี อดีตสามีที่ทำงานอยู่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เนื่องจากเมื่อ 2 วันก่อนเพิ่งจะก่อเหตุใช้ปืนยิงใส่บ้านของฝ่ายหญิงหลังตามมาง้อขอคืนดีแล้วฝ่ายหญิงสาวไม่ยอม โดยครั้งนั้นเจ้าตัวถูกตำรวจ สภ.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ตั้งข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุจำเป็น, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน, บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ได้กระทำโดยมีอาวุธ, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย, และทำให้เสียทรัพย์”

รูกระสุนที่รถ

 

ด้านนายปฐม อายุ 59 ปี บิดาของน.ส.ชนัญธิดา เผยว่าลูกสาว คบกับนายวรศักดิ์มานานกว่า 14 ปีแล้ว ช่วงที่คบก็มีเหตุทะเลาะวิวาทกันตลอดถูกทำร้ายร่างกายเป็นประจำ หลังเกิดเหตุแล้วตนก็รู้สึกกังวลเป็นอย่างมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อยู่ที่ไหนก็รู้สึกหวาดผวาและไม่ปลอดภัยเพราะคนร้ายยังไม่ได้ถูกจับกุมดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด รวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยไปดูแลความปลอดภัยของคนที่บ้านด้วย

ต่อมาวันที่ 31 พ.ค. ชุดสืบสวน นำกำลังเข้าจับกุมนายวรศักดิ์ พร้อมด้วยรถยนต์ เก๋งโตโยต้า อาวุธปืนลูกซองยาว ที่ใช้ก่อเหตุ หลังไล่แกะรอยจากกล้องวงจรปิดทั่วเมืองเชียงราย จนทราบว่า คนร้ายมาเช่าห้องพักอยู่ที่นันธชัยอินทร์ ติดกับ ไปรษณีย์บ้านดู่ จึงวาง กำลังเพื่อรอจังหวะจับกุม พอดีผู้ต้องหากำลังออกจากห้องเพื่อ จะมาคืนกุญแจ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุมโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืน แต่อย่างใด

พ.ต.อ.โสภณเปิดเผยหลังปิดคดีได้ว่า คดีนี้สามารถติดตามผู้ก่อเหตุได้ไม่เกิน 48 ช.ม.ซึ่งหลังเกิดเหตุทางฝ่ายชุดสืบสวนได้ติดตามรถคนร้าย โดยวิธีไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุด จนทราบแหล่ง ซ่อนตัว เบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เคยบุกเข้าไปยิงปืนในบ้าน ฝ่ายหญิงและข่มขู่ครอบครัว มาแล้ว เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมาทางฝ่ายครอบครัวฝ่ายหญิงได้แจ้งความใว้ที่ สภ.แม่ยาว แล้ว ซึ่งจริงๆ เป็นเหตุทะเลาะวิวาทในครอบครัว แต่มีการใช้อาวุธปืนออกมายิงข่มขู่ และนำปืนมายิงในที่สาธารณะ ต่อหน้าประชาชน จึงค่อนข้างอันตราย ตอนนี้ก็สามารถจับกุมได้เรียบร้อย ทางพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการตามกระบวนการต่อไป

ความรุนแรงเหมือนมีชีวิตมันเติบโตขึ้นได้ เมื่อมีครั้งแรก ย่อมมีครั้งต่อไปๆ ระดับความรุนแรงก็มากขึ้นด้วย

ชายชาญ ไชยมั่น เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน